ลูกอายุ 16 ปี แทงแม่สาหัสญาติได้พาเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.คอหงส์ สารภาพต้องการฆ่าแม่ให้ตายเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตที่เป็นอิสระไม่มีใครบังคับ และสำนึกผิดเพราะแม้แม่จะเลือดอาบร่างแต่ยังบอกให้หนีไป จึงรู้ว่าแม่รักตัวเองมาก หลังจากนี้จะทำทุกอย่างเพื่อแม่ ด้านคดีตำรวจได้แจ้งข้อหาพยายามฆ่าบุพการี
14 มิ.ย.63 ความคืบหน้ากรณีลูกชายอายุ 16 ปีใช้มีดกระหน่ำแทงแม่แท้ๆของตัวเองจำนวน 12 แผลบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อช่วงตี 3 เมื่อวานนี้ ที่บ้านเลขที่ 72 ถนนกาญจนวนิช 20/1 เขตเทศบาลเมืองคอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังจากที่แม่เพิ่งกลับจากต่างประเทศมาพักอยู่ที่บ้านได้เพียง 10 วัน แต่ในเบื้องต้นยังไม่มีใครรู้ถึงสาเหตุหรือแรงจูงใจเพราะทั้งคู่ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันแต่คาดว่าน่าจะมาจากการติดเกมส์รุนแรงและที่ผ่านมาก็อยู่กับยายอายุ 70 ปีเพียงลำพัง
ล่าสุดเมื่อช่วงสายของวันนี้ (14 มิ.ย.) ญาติได้พาน้องเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ที่ก่อเหตุแทงแม่เข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีแสง ผู้กำกับการ สภ.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ แล้วหลังจากที่ศาลจังหวัดสงขลาได้ออกหมายจับไปแล้วเมื่อวานนี้ในข้อหาพยายามฆ่าบุพการี โดยขณะเข้ามอบตัวน้องเอ เริ่มกลับมามีสติดีแล้วและรู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น
จากการสอบถามถึงแรงจูงใจที่ทำร้ายแม่ น้องเอ บอกว่า อยากมีชีวิตที่อิสระของตัวเองไม่ต้องการให้มีใครมาบังคับให้อยู่ในกรอบหรือทำในสิ่งที่แม่ต้องการอยากให้เป็น และคิดว่าหากฆ่าแม่แล้วก็จะทำอะไรก็ได้ ที่ผ่านมาแม้ว่าจะไม่ได้บังคับแต่ก็รู้สึกอัดอัด และไม่เคยปฏิเสธแม่ในสิ่งที่แม่อยากให้ทำยอมรับทุกอย่าง จึงรู้สึกอัดอัดและไม่คิดว่าจะคุยกับแม่ได้ สิ่งที่ทำไปเป็นความคิดส่วนตัวที่บางครั้งเป็นปมมาจากวัยเด็กที่ถูกเพื่อนแกล้งแต่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่สาเหตุมาจากต้องการความเป็นอิสระไม่ต้องมีใครมาบังคับ
น้องเอ บอกว่า ตอนทำคิดว่าแม่จะสู้แต่แม่กลับไม่สู้ จึงเริ่มตั้งสติได้และวิ่งหนีออกจากบ้านเพราะไม่กล้าอยู่สู้หน้าใครได้ และเมื่อตั้งสติได้รู้สึกผิดมากอยากขอโทษแม่และยอมรับผิดหลังจากนี้จะทำทุกอย่างให้แม่สบายใจ และยอมรับว่าตัวเองอยู่ในสังคมไม่ได้ชอบเก็บตัวอยู่ในห้องมากกว่าชอบเขียนเพลง เล่นโซเชียลแต่ไม่ได้ติดเกมส์ และเรียนแค่ชั้น ม.2 ก็หยุดเรียน ที่ผ่านมาอยู่กับยายเพียง 2 คนที่บ้านแต่แทบจะไม่ได้คุยอะไรกันเลย โดยแม่จะคอยส่งเงินมาให้ใช้
นอกจากนี้น้องเอ ยังได้เขียนบันทึกขึ้นมาฉบับหนึ่งด้วยลายมือเพื่อเล่าเหตุการณ์ในคืนเกิดเหตุให้ฟังว่า “เมื่อวันที่13 มิถุนายน 2563 เวลาประมาณ 5 ทุ่มแม่เข้านอน จากนั้นผมก็ใช้ผ้าพยายามปิดตาปิดปากแม่ และใช้มีดแทงท้องแม่ไม่ยั้งมืออย่างขาดสติ และจะเอาชีวิตแม่ให้ได้ แม่พยายามดิ้นหันหลังให้ และผมก็แทงซ้ำที่หลังแบบไม่ยั้งมือ ผมพยายามถีบแม่ ในขณะที่แม่พยายามยืนทำให้ผมลื่นเลือดแม่ จากนั้นแม่ก็พูดกับผมว่าจะฆ่าแม่จริงหรือ ผมก็ไม่ฟังและคิดว่าภาระของตัวเองสำคัญกว่า และแม่ก็พูดกล่อมจนผมได้สติ และยังบอกรักผมในขณะที่เลือดอาบ ผมก็หยุดและถือมีดไว้เพราะกลัวแม่จะทำร้าย จึงไปวางมีด ผมตัดสินใจออกจากบ้านไม่ใช่เพราะกลัวความผิดแต่ผมไม่มีหน้าจะอยู่บ้านอีกแล้ว ผมบอกกับแม่ว่าผมอยู่ต่อไปไม่ได้ แม่ก็ช่วยผมหนีและให้ผมรีบๆ ไป ทำให้ผมคิดได้ว่าแม่รักผมขนาดไหน ผมรีบวิ่งออกจากบ้านด้วยความรุกรี้รุกรนและความคิดผมก็เปลี่ยนจากเกลียด เป็นสึกนึกผิดคิดจะกลับมารับความผิดที่ตัวเองทำ”
ด้าน พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีแสง ผู้กำกับการสภ.คอหงส์ เปิดเผยว่า ในส่วนของความคืบหน้าอาการของแม่คือ น.ส.เขมิสรา พงศ์ศุภนาท อายุ 34 ปี ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว ส่วนลูกชายที่ก่อเหตุทางญาติได้ประสานพาเข้ามอบตัวแล้ว หลังจากที่ได้ออกหมายจับไปเมื่อวานนี้ สำหรับคดีนี้มีสาเหตุมาจากลูกต้องการที่จะกำจัดแม่ออกไปจากชีวิตตัวเองเพื่อไม่ต้องการฟังคำสั่งจากแม่ เพราะคิดว่าถ้าไม่มีแม่แล้วชีวิตตัวเองจะมีอิสระทำอะไรก็ได้ ซึ่งมูลเหตุส่วนหนึ่งก็มาจากการดูเกมส์ออนไลน์และการชักชวนของเพื่อน และพบว่ามักจะมีพฤติกรรมงมงายทับถมเลียนแบบเกมส์ซ้ำๆ แบบนี้มาตลอด
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีฐานพยายามฆ่าบุพการี และจะประสานเจ้าหน้าที่ทีมสหวิชาชีพมาร่วมสอบสวนเนื่องจากผู้ต้องหายังเป็นเยาวชน และต้องดูแลในเรื่องของสภาพจิตใจด้วย ก่อนที่จะนำตัวส่งศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสงขลาต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี