ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบหนุ่มพนักงานขับรถส่งอาหาร  เอี่ยวบัญชีม้าใช้หลอกลงทุนเทรดหุ้น'LBank' พบผู้เสียหายอีก 3 คดี  ความเสียหายรวม 2,000,000 บาท 

เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2568 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับ อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ., พ.ต.ท.จักรี กันธิยะ, พ.ต.ท.พิทยา คงเจริญ , พ.ต.ท.ภาคิน สุขพรหม , พ.ต.ท.หญิง สินีนาฏ เชิดชูตระกูลทอง รอง ผกก.5 บก.ปอศ. 

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.สุทธิพงษ์ มอญรัต  สว.กก.5 บก.ปอศ. พร้อมด้วย ร.ต.อ.ศิระศักดิ์ ธนาวิบูลย์กุล รอง สว.กก.5 บก.ปอศ , ด.ต.คัมคุณ บุญครอบ, ด.ต.ศุภชัย เอกจีน, ด.ต.ชัยวัฒน์ เขียวอิ่ม,  
ด.ต.อติกันต์ เปรมสุข , จ.ส.ต.เจษฎา สายติ๊บ ,จ.ส.ต.ธีระเดช ลำสมุทร , ส.ต.อ.บรรเจิด คำเหลื่อม และ  
ส.ต.อ.อธิเบศร์ พรหมสิทธิ์ ผบ.หมู่ กก.5 บก.ปอศ. 

ร่วมกันจับกุม นาย ฐากูร อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนางรอง ที่ จ.176/2568  ลงวันที่ 14 สิงหาคม 2568 สถานที่จับกุม บริเวณชุมชนพัฒนา 79 แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร 

เพื่อดำเนินคดีในความผิดฐาน “เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตน โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด , สนับสนุนฉ้อโกงและสนับสนุนนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการ ที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลหนึ่งบุคคลใด” 

พฤติการณ์ เมื่อประมาณเดือน เม.ย.2568 มีผู้เสียหายแจ้งความให้ดำเนินคดีกับนายฐากูร เนื่องจาก ถูกหลอกให้ร่วมลงทุนเทรดหุ้นแพลตฟอร์มชื่อ  “LBank” เมื่อผู้เสียหายโอนเงินไปแล้วไม่สามารถถอนเงินได้ กลับยังให้ผู้เสียหายโอนเงินเพิ่มอีกหลายครั้ง จนเสียเงินกว่า 800,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวน สอบสวน จนสามารถออกหมายจับนายฐากูร กับพวก เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย  

ต่อมาตามวันและเวลาเกิดเหตุ  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับ  ว่านายฐากูร ผู้ต้องหา ในคดีนี้ ได้หลบหนีมาพักอยู่ในชุมชนพัฒนา 79 แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เฝ้าติดตามสะกดรอย จนกระทั่งพบบุคคลซึ่งมีตำหนิรูปพรรณตรงกับบุคคคล ตามหมายจับตามที่ สายลับได้แจ้งไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงหมายจับให้ นายฐากูร ดูและได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับข้างต้นให้ทราบพร้อมทั้งสิทธิ จากการสอบถามนายฐากูร ยอมรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันกับหมายจับและยังไม่เคยโดนจับในคดีนี้มาก่อน จึงได้เชิญมา กก.5 บก.ปอศ. เพื่อทำบันทึกการจับกุม และนำตัว นายฐากูร ส่ง พนักงานสอบสวน สภ.โนนดินแดง เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ต่อไป 

สอบถามคำให้การเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การว่าได้ขายบัญชีให้กับเพื่อนที่รู้จักกันพาไปเปิดบัญชี ธนาคารทั้งหมด 5 บัญชี จากหลายธนาคาร โดยได้เงินค่าเปิดบัญชีธนาคารบัญชีละ 2,000 บาท รวมเป็นเงิน 10,000 บาท และมีการเดินทางไปที่ จ.ตาก เพื่อไปสแกนใบหน้า ส่วนค่าเดินทางและที่พักอาศัยบุคคลที่รับซื้อบัญชี จะเป็นคนจัดการให้โดยไปครั้งละประมาณ 2-3 วัน โดยทำมาแล้วหลายครั้ง ส่วนการที่ผู้เสียหายถูกหลอกลงทุน นั้นตนไม่ทราบและไม่ได้เป็นคนหลอกลงทุนแต่อย่างใด 

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอแจ้งเตือนพี่น้องประชาชน การขายหรือให้เช่าบัญชีม้า (บัญชีธนาคาร ที่ใช้ในการทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย เช่น การหลอกลวงหรือการฟอกเงิน) เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย  

1. โทษทางกฎหมาย : ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการขายหรือให้เช่าบัญชีม้า อาจถูกดำเนินคดีในข้อหา สมรู้ร่วมคิดในการกระทำผิดกฎหมาย เช่น การฟอกเงินหรือการฉ้อโกงโทษอาจรวมถึงการปรับเงินจำนวนมาก หรือการจำคุก 

2. ผู้ที่ขายบัญชีธนาคารของคุณอาจถูกนำไปใช้ในกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย เช่น หลอกลวงประชาชน หรือฟอกเงินโดยองค์กรอาชญากรรมเมื่อเกิดการจับกุมหรือสืบสวน คุณอาจถูกระบุว่าเป็นผู้ร่วมกระทำผิด แม้ว่าคุณจะไม่ได้มีส่วนรู้เห็นโดยตรง 

3. ผลกระทบระยะยาวชื่อเสียงของคุณอาจถูกทำลายธนาคารอาจขึ้นบัญชีดำ (Blacklist) ทำให้ไม่สามารถเปิดบัญชีใหม่หรือทำธุรกรรมการเงินได้ในอนาคต 

อย่างไรก็ตามหากมีผู้ติดต่อคุณเพื่อขอซื้อหรือเช่าบัญชีธนาคาร อย่าตอบรับข้อเสนอนั้นและควรแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที 

หากคุณเคยขายหรือให้เช่าบัญชีม้าไปแล้ว ควรติดต่อทนายความและแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อ แก้ไขปัญหาและป้องกันผลกระทบเพิ่มเติม 

อย่าเสี่ยงขายบัญชีม้า เพราะผลเสียที่ตามมาสูงเกินกว่าที่จะได้รับผลประโยชน์ในระยะสั้น