ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบ 3 บัญชีม้ารับโอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มูลค่าความเสียหายกว่า 4 ล้าน
เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2568 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย, พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์, พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร, พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 บก.ปอศ., พ.ต.ท.นนทพัทธ์ ยอดแก้ว, พ.ต.ท.ณธัชพงศ์ สินสิริยานนท์ และพ.ต.ท.ชวลิต น้ำใจสัตย์ รอง ผกก.3 บก.ปอศ.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.วรพจน์ ลลิตจิรกุล สว. กก.3 บก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.3 บก.ปอศ.
ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา 3 ราย ดังนี้
1. นายคชฤทธิ์ อายุ 19 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.948/2566 ลงวันที่ 19 กันยายน 2566 ในฐานความผิด "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
สถานที่จับกุม บริเวณหอพัก ต.บางปรอก อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี
2. นายทัศนัย อายุ 37 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 1851/2567 ลงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ในฐานความผิด "เป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และเป็นผู้สนับสนุนนการกระทำความผิดฐาน โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งอมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดเสียหายแก่ประชาชน และเปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝาก โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตน โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีความผิดอาญาอื่นใด" สถานที่จับกุม บริเวณปากซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 4 ถนนแจ้งวัฒนะ ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
3. น.ส.ปณาลี อายุ 20 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.23/2568 ลงวันที่ 3 มกราคม 2568 ในฐานความผิด “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
สถานที่จับกุม หน้าบ้าน ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการการระดมกวาดล้างอาวุธปืน เครื่องกระสุน และ จับบุคคลตามหมายจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ได้จับกุมผู้ต้องหามีพฤติการณ์เกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และบุคคลตามหมายจับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center : AOC) จำนวน 3 ราย ดังนี้
1. นายคชฤทธิ์ อายุ 19 ปี มีพฤติการณ์ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งว่า ผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด พร้อมกับหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินไปยังบัญชีของคนร้าย โดยอ้างว่าเพื่อทำการตรวจสอบ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินไปยังบัญชีของคนร้าย รวมเป็นเงินกว่า 4 ล้านบาท ผู้เสียหายรู้ตัวจึงได้มาร้องทุกข์ดำเนินคดี ซึ่งผู้ต้องหาได้ให้การเบื้องต้นว่าเปิดบัญชีธนาคารจริง โดยถูกเพื่อนชักชวนให้เปิดบัญชีธนาคาร เมื่อตอนอายุ 16 ปี ได้รับค่าจ้าง 1,200 บาท
2. นายทัศนัย อายุ 37 ปี มีพฤติการณ์ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีการโฆษณาหลอกลวงขายสินค้าหรือบริการในราคาถูกทางช่องทางออนไลน์ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ โอนเงินไปยังบัญชีของคนร้าย กลับไม่ได้รับสินค้าหรือบริการ ตามที่คนร้ายแอบอ้าง จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี ซึ่งผู้ต้องหาได้ให้การเบื้องต้นว่าได้มีการรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารจริง โดยถูกหลอกให้เปิดบัญชีธนาคารจากเพื่อนที่รู้จักกัน ในราคา 5,000 บาท แต่หลังจากเปิดบัญชีธนาคารให้กับผู้ว่าจ้างแล้ว กลับไม่ได้รับเงินค่าจ้างตามที่ตกลงกันไว้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมพบมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ถูกจับดำเนินคดี ในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 และเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง
3. น.ส.ปณาลี อายุ 20 ปี มีพฤติการณ์ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยผู้ต้องหาให้การว่า ถูกชักชวนจากคนใน Facebook ให้เปิดบัญชีธนาคารผ่านทางออนไลน์ โดยได้รับค่าจ้าง 300 บาท
โดยหลังจากจับกุม ได้ดำเนินการนำผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ส่ง สภ.เมืองเชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เตือนภัย การรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารหรือให้ผู้อื่นใช้บัญชีธนาคารของตนเองนั้น ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย โดยมีความผิดตาม พรก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ระบุว่า “เจ้าของบัญชีม้า หรือเบอร์ม้า ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” จึงขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนทราบถึงความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับบัญชีม้า และวิธีป้องกันตนเอง โดยอย่าเปิดบัญชีธนาคารให้กับคนอื่น, อย่าให้ใครยืมใช้บัญชีธนาคาร, หมั่นตรวจสอบบัญชีเป็นประจำ หากพบความผิดปกติ ให้รีบแจ้งธนาคารทันทีเพื่อขอคำแนะนำ และระงับบัญชี, ระวังข้อมูลส่วนตัว เช่น ข้อมูลบัตรประชาชนทั้งด้านหน้า-หลัง, รหัส OPT ของธนาคาร เพราะมิจฉาชีพอาจนำข้อมูลเหล่านั้น ไปเปิดบัญชีม้าได้ และกรณีที่มีหมายเรียกจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจมายังท่าน ขอให้ดำเนินการตามหมายเรียก อย่าละเลยไม่ดำเนินการตามหมายเรียก มิฉะนั้นอาจเป็นเหตุให้ถูกออกหมายจับได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี