“ผบช.สตม.” นำแถลงจับชาวสวีเดน ขับเครื่องร่อนนำเที่ยวตกทำหนุ่มเกาหลีอวัยวะเพศขาด เปลี่ยนชื่อ-พาสปอร์ตหวังตบตา โดน ตม.นำหมายจับรวบคาบ้าน คู่กรณีเรียกค่าเสียหายร้อยกว่าล้าน
17 มิถุนายน 2563 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ชำนาญ ชำนาญเวช ผบก.ตม.5 , พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ รอง ผบก.ตม.5 , พ.ต.อ.เศรษฐภัทร ณ สงขลา ผกก.สส.บก.ตม.5 ร่วมแถลงผลการจับกุมชาวสวีเดินหลบหนีคดีอาญา
สืบเนื่องจาก บก.ตม.5 ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดปฏิบัติการเชิงรุกติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่า ตามคำสั่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่ 131/2563 เรื่องจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการสั่งการและควบคุม (CCOC)
ต่อมา กก.สส.บก.ตม.5 ได้รับแจ้งจากสายลับว่านายฮ่านส์ เออลิ่ง สัญชาติสวีเดน ผู้ต้องหาตามหมายจับจากศาลจังหวัดเชียงใหม่ หมายจับที่ จ.737/2561 ลงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2561 ซึ่งหลบหนีออกนอกพื้นที่ และไปพักอาศัยอยู่ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ลักลอบกลับมาพักอยู่ที่บ้านพักใน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ จึงไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงพบ นายฮ่านส์ อยู่ในบริเวณบ้านและได้วิ่งหนี จึงได้วิ่งติดตามและควบคุมตัวไว้ได้ เมื่อขอตรวจสอบเอกสารนายฮ่านส์ ได้แสดงหนังสือเดินทางสวีเดน ชื่อนายอัลเฟรด คาร์ลสัน และปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นบุคคลตามหมายจับ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมเห็นว่าตำหนิรูปพรรณตรงกัน จึงได้ตรวจสอบหนังสือเดินทางตามหมายจับ และหนังสือเดินทางที่นายฮ่านส์ แสดง พบว่า หมายเลขประจำตัวประชาชนของสวีเดน , วันเดือนปีเกิด , สถานที่เกิด และส่วนสูง ตรงกัน
เมื่อจำนนต่อหลักฐาน นายฮ่านส์ จึงยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง หลังเกิดเหตุได้เปลี่ยนชื่อ นามสกุล และหนังสือเดินทาง เพื่อง่ายต่อการหลบหนี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ริม ดำเนินคดีข้อหาตามหมายจับ และแจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.การเดินอากาศ พ.ศ.2497 เพิ่มเติมคือ “เป็นผู้ประจำหน้าที่โดยไม่ได้รับอนุญาต , นำอากาศยานทำการบินโดยไม่นำเอกสารตามมาตรา 16 , ใช้อากาศยานส่วนบุคคลทำการบินโดยไม่ได้รับอนุญาตใช้อากาศยานส่วนบุคคลจากผู้อำนวยการตามมาตรา 29 ทวิ , ใช้ที่ใดที่หนึ่งเป็นที่ขึ้นลงของอากาศยาน นอกจากสนามบินอนุญาตหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวตามาตรา 17 , ประกอบกิจการค้าขายในการเดินอากาศโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 58 ข้อ 3 และจัดตั้งที่ขึ้นลงชั่วคราวโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท
สำหรับพฤติการณ์ที่ถูกออกหมายจับ ก่อนเกิดเหตุนายฮ่านส์ ได้ลงโฆษณาในเว็บไซต์เพื่อประกอบธุรกิจพานักท่องเที่ยวนั่งเครื่องร่อน หรือพารามอเตอร์ ชมทัศนียภาพเมืองเชียงใหม่ และเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2561 นายฮ่านส์ ได้นำนายชอย แฮจอง สัญชาติเกาหลีใต้ ขึ้นเครื่องร่อนเพื่อท่องเที่ยว โดยนายฮ่านส์ เป็นคนขับขี่ แต่เครื่องได้ตกลงมาเป็นเหตุให้นายฮ่านส์ ขาหัก และนายชอย อวัยวะเพศขาด หลังเกิดเหตุนายฮ่านส์ ได้หลบหนีไป ก่อนจะถูกจับกุมดังกล่าว โดยกรณีดังกล่าวนายชอยได้ฟ้องร้องทางแพ่งเรียกค่าเสียหายมากกว่าร้อยล้านบาท
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ ผบช.สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี