เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 นายสมณ์ พรหมรส คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้มีมติเมื่อเดือน พ.ค.2563 เห็นชอบให้สำนักงาน กสม.ดำเนินโครงการ "เยาวชนคนรุ่นใหม่ใส่ใจและยืนเคียงข้างสิทธิมนุษยชน" เพื่อให้คนรุ่นใหม่มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและเท่าทันเรื่องสิทธิมนุษยชน สามารถนำองค์ความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันของตนเองได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม รวมทั้งถ่ายทอดและให้ความช่วยเหลือไปยังคนรอบข้างและชุมชนในพื้นที่เมื่อถูกละเมิดสิทธิได้
เนื่องจาก กสม.เห็นว่า สิทธิมนุษยชนเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตในทุกเรื่องและทุกระดับ ทั้งยังเป็นมาตรฐานสากลที่ประชาคมโลกยึดถือร่วมกัน ประกอบกับช่วงที่ผ่านมาที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย รัฐบาลได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรค อาทิ การปิดสถานที่สาธารณะและกิจการบางประเภท การห้ามเดินทางข้ามจังหวัดหรือออกจากเคหสถานในช่วงเวลาเคอร์ฟิว ฯลฯ ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและการทำมาหากินของประชาชน ซึ่งประเด็นเหล่านี้เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนทั้งสิ้น จึงเห็นว่าวิกฤติดังกล่าวจะเป็นโอกาสให้สังคมไทยหันมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้และส่งเสริมให้เด็กและเยาวชน ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศได้เข้าใจและถอดบทเรียนจากปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้น
นายสมณ์ กล่าวต่อไปว่า โครงการเยาวชนคนรุ่นใหม่ใส่ใจและยืนเคียงข้างสิทธิมนุษยชน มุ่งเน้นจัดกิจกรรมที่เสริมสร้างกระบวนการเรียนรู้ผ่านการประกวดแนวคิดและแผนงานเพื่อผลิตผลงานนวัตกรรมส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ในหัวข้อ "สิทธิมนุษยชนกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19)" โดยเชิญชวนให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา ในระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษาร่วมประกวดแผนงานดังกล่าว ทั้งนี้ แนวคิดและแผนงานที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับทุนสนับสนุนในการผลิตผลงานจริงจำนวน 20,000 บาท เพื่อร่วมชิงเงินรางวัลมูลค่ารวม 1,710,000 บาท พร้อมเกียรติบัตรและโล่รางวัลต่อไป
ทั้งนี้ กสม.ในฐานะสถาบันสิทธิมนุษยชนระดับชาติ ไม่ได้มีภารกิจเฉพาะการตรวจสอบการละเมิดและเฝ้าระวังสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนเท่านั้น แต่ยังมีภารกิจสำคัญในการเสริมสร้างให้ทุกภาคส่วนของสังคมตระหนักถึงความสำคัญของสิทธิมนุษยชนด้วย ที่ผ่านมา กสม.ได้ขับเคลื่อนให้เกิดการจัดทำหลักสูตรสิทธิมนุษยชนศึกษาสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย และคู่มือการจัดการเรียนรู้สิทธิมนุษยชนศึกษาสำหรับการศึกษาขั้นพื้นฐานให้แก่เยาวชนตั้งแต่ระดับปฐมวัย - มัธยมศึกษาตอนปลาย
โดยคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 26 พ.ค.2563 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ประโยชน์ร่วมกัน การจัดทำโครงการเยาวชนคนรุ่นใหม่ใส่ใจและยืนเคียงข้างสิทธิมนุษยชน จึงถือเป็นอีกกิจกรรมต่อเนื่องที่จะช่วยผลักดันให้เยาวชนได้ใช้พลังบวกและความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อร่วมสร้างสังคมแห่งการเคารพสิทธิมนุษยชนโดยคำนึงถึงบริบทของสังคมไทยและสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นายสมณ์ ยังกล่าวอีกว่า การปลูกฝังให้เยาวชนมีความตระหนักรู้เรื่องสิทธิมนุษยชน ยังเป็นภารกิจสำคัญที่สอดคล้องกับการรณรงค์ขององค์การสหประชาชาติในโอกาสการครบรอบ 30 ปี ของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on the Rights of the Child : CRC) เมื่อปลายปี 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งสหประชาชาติได้รณรงค์ให้ทั่วโลกเห็นความสำคัญของเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มีส่วนร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงให้สังคมเกิดการเคารพสิทธิและเสรีภาพ ภายใต้หัวข้อ "Youth Standing Up for Human Rights"
ซึ่งประเทศไทยอาจเป็นประเทศแรกที่สามารถจัดกิจกรรมเพื่อการรณรงค์ดังกล่าวอย่างเป็นทางการ ดังนั้น กสม.หวังว่าเยาวชนไทยจะเป็นพลังบวกในการขับเคลื่อนสังคมที่ตระหนักรู้และเท่าทันในเรื่องสิทธิมนุษยชน รู้จักสิทธิของตนเองและไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ทำให้ผู้คนดำรงชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างเอื้ออาทร ลดข้อพิพาท ข้อขัดแย้งต่างๆ และนำไปสู่สังคมที่อบอุ่น ปลอดภัยและสงบสุขได้ในที่สุด
สำหรับนักเรียน นิสิต นักศึกษาที่สนใจประกวดแนวคิดและแผนงานเพื่อผลิตผลงานนวัตกรรมส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ในหัวข้อ "สิทธิมนุษยชนกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19)" สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการฯได้ ตั้งแต่วันนี้ - 31 ก.ค.2563 โดยติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.nhrc.or.th
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี