จ.สมุทรปราการ วงจรปิดมัดสาวทอมทำทีเข้ามาไหว้พระในวิหารก่อนลงมืองัดตู้บริจาคเจ้าอาวาสพร้อมคณะกรรมการวัดรวบส่งตำรวจ

15 กรกฎาคม 2563 ร.ต.อ.อิสระ แสงสว่าง พงส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ ได้รับแจ้งจากพระครูวิธานกิตติวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดใหม่บางปลากดว่าให้มารับตัวผู้ต้องหาก่อเหตุงัดตู้บริจาคภายในวิหารหลวงปู่นามซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดใหม่บางปลากด หมู่ที่ 5 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงรายงาน พ.ต.อ.ทศพล ทองใบ ผกก.สภ.พระสมุทรเจดีย์ ทราบก่อนเดินทางไปรับตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วย พ.ต.ท.อริญชัย สุวรรณโภชน์ รอง.ผกก.สอบสวน พ.ต.ท.พิศาล กล่ำไพ สว.สส.และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.พระสมุทรเจดีย์

ที่เกิดเหตุ บริเวณด้านหน้าวิหารหลวงปู่นาม ปภัสสโร พบพระครูวิธานกิตติวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดใหม่บางปลากด พร้อมคณะกรรมการวัดยืนคุมตัวสาวทอมที่เข้ามาก่อเหตุงัดตู้บริจาคทราบชื่อภายหลัง นางสาวกฤติยา  มณีงาม อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 ถ.สิงคโปร์ ต.ท่ามะขาม อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วยของกลางประแจปากตายเบอร์ 19 จำนวน 1 อัน ไขควงด้ามเหลืองจำนวน 1 อัน ไขควงไม่มีด้ามจำนวน 1 อัน มีดพกเอนกประสงค์จำนวน 1 ด้าม เงินสดแบบธนบัตรและเหรียญราคาต่างๆ จำนวน 57 บาท ซึ่งของกลางทั้งหมดซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายข้างสีน้ำเงินที่ผู้ต้องหาสะพายอยู่ ก่อนนำตัวพร้อมของกลางไปสอบสวนเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจ

จาการสอบถาม นายภัทรวุฒิ มหานาค คณะกรรมการวัดใหม่บางปลากด ทราบว่า เหตุการณ์งัดตู้บริจาคภายในวิหารและตู้บริจาคอื่นๆรอบบริเวณวัดได้เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งแต่ยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายเป็นหญิงคล้ายทอมตัดผมสั้นแต่งตัวดีสะพายกระเป๋าเดินเข้ามาในวิหารหลวงปู่นาม ทำทีเข้ามาไหว้พระปิดทองและถวายดอกไม้ เมื่อสบโอกาสที่ปลอดคนได้ลงมืองัดแงะตู้บริจาคที่ไว้สำหรับทอดผ้ากฐินประจำปี ตู้บริจาครอบวัดและเงินที่ประชาชนถวายในมือไอ้ไข่หายไป จึงได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์ และวางแผนให้คณะกรรมการวัดคอยจับตาดูคนที่เดินทางมาทำบุญกระทั่งเมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ในขณะที่คณะกรรมการวัดกำลังช่วยกันปรับปรุงบริเวณท่าน้ำมีพระลูกวัดได้เดินมาบอกว่าเห็นคนร้ายผ่านกล้องวงจรปิดซึ่งเป็นคนเดียวกันที่เคยก่อเหตุงัดตู้บริจาคเข้ามานั่งในวิหารอีกก่อนที่จะลงมืองัดแงะตู้บริจาคและล้วงเอาเงินในบาตรพระใส่กระเป๋ากระทั่งสบโอกาสรีบเดินออกจากวิหารไป ทางคณะกรรมการวัดได้เห็นคนร้ายกำลังเดินออกจากวัดจึงเรียกมาคุยและสอบถามและคนร้ายให้การปฏิเสธเสียงแข็งจนกระทั่งนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาเปิดให้ดูคนร้ายจึงยอมรับสารภาพก่อนที่จะโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มารับตัว

จากการสอบถาม นางสาวกฤติยา อ้างว่าตนเป็นพนักงานฝ่ายผลิตอยู่ในบริษัทผลิตอะไหล่คอมพิวเตอร์ชื่อดังย่านแพรกษาและพักอยู่บ้านเช่าใกล้เคียงโรงงาน ส่วนที่มาลงมืองัดตู้บริจาคนั้นตนไม่ตั้งใจที่จะงัดเพียงแค่เข้ามาเที่ยวไหว้พระขอพรและปิดทองเท่านั้น แต่เนื่องจากเงินที่พกติดตัวมาไม่พอเป็นค่ารถเดินทางกลับจึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุงัดตู้ดังกล่าว

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อเพราะในชั้นการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้เข้ามาก่อเหตุเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมได้เงินไปจำนวน 200 บาท เดือนมิถุนายนเข้ามาก่อเหตุจำนวน 2 ครั้งได้เงินไป 80 บาทและในวันนี้ได้ลงมือก่อเหตุอีกได้เงินไปจำนวน 57 บาทและมีอุปกรณ์งัดแงะอีกหลายรายการ ก่อนนำตัวสอบสวนเพิ่มเติมพร้อมดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป