ย้าย‘ผู้หมวด’ปืนลั่น แจ้งข้อหาทำเกินกว่าเหตุ-สอบวินัย ปมระงับเหตุชายคลั่งดับ
27 กรกฎาคม 2563 พ.ต.อ.กวีศักดิ์ สุขบาง ผกก.สภ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เปิดเผยความคืบหน้า เกี่ยวกับคดี ร.ต.ท.วิจิตร บางปลา รองสารวัตรสืบสวน งานป้องกันปราบปรามฯ ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าสายตรวจประจำตำบลบ้านค้อ เข้าระงับเหตุนายลำเพย จำปา ชายเมาอาละวาดคลุ้มคลั่ง จนมีการทำร้ายร่างกายและนายลำเพยถูกยิงเสียชีวิต อ้างว่าเกิดจากปืนลั่น โดยญาตินำคลิปเหตุการณ์ออกมาเผยแพร่บนโลกโซเซียล พร้อมถามว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เปิดนาทีระทึกสยบหนุ่มใหญ่คลั่ง เพื่อนบ้านยัน‘หมดทางสู้’ เตรียมแจ้งข้อหาผู้หมวด) ว่า ล่าสุด พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (ผบก.ภ.จว.นครพนม) มีคำสั่งให้สอบสวนอย่างตรงไปตรงมา และดำเนินคดีตามขั้นตอน กำชับต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย
เบื้องต้นในส่วนของญาติผู้ตายได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ ร.ต.ท.วิจิตร โดยทางพนักงานสอบสวน พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ชมศรีหาราชพร ได้รับเป็นคดี พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาไว้เบื้องต้น คือ กระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนวินัยตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งทางตำรวจคู่กรณีได้ออกจากโรงพยาบาล มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว แต่ยังต้องรอสอบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากยังอยู่ช่วงการพักฟื้นรักษาตัวจากบาดเจ็บถูกตายฟันศีรษะ ในส่วนของพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วสามารถปล่อยตัวชั่วคราว ไม่ต้องส่งฝากขัง รอขั้นตอนการสอบสวน
นอกจากนี้ทางตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ได้มีคำสั่งย้ายให้ไปช่วยราชการ ประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เพื่อไม่ให้กระทบต่อการดำเนินคดี และลดกระแสความไม่พอใจของญาติผู้ตาย
พ.ต.อ.กวีศักดิ์ เปิดเผยอีกว่า สำหรับการดำเนินคดี จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรก คือ ญาติผู้ตายแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับตำรวจ ซึ่งจะต้องรอกระบวนการสอบสวน รวมถึงรอการส่งศพผู้ตายไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น ในวันพุธที่ 29 กรกฎาคม นี้ ในส่วนของความผิดอื่นๆ จะต้องรอสรุปพยานหลักฐานสามารถแจ้งเพิ่มเติมได้ รวมถึงประเด็นของเจตนาฆ่าหรือไม่ และกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ จึงจะต้องรอขั้นตอนการสอบสวน ตอนนี้แจ้งข้อหาเบื้องต้นตามพยานหลักฐานไปก่อน
ในส่วนที่สอง ทางตำรวจได้มีการแจ้งข้อหาสำหรับผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นขั้นตอนทางกฎหมาย ในความผิด 2 ข้อหา คือ ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่โดยมีหรือใช้อาวุธมีด และข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ เพราะมีพยานหลักฐานว่าผู้ตายใช้อาวุธมีดทำร้ายร่างกายตำรวจ จนได้รับบาดเจ็บเช่นกัน
ส่วนที่สามตำรวจจะได้เข้าไปพูดคุยวางแนวทางการดูแลเยียวยาครอบครัวผู้เสียหายในส่วนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ตำรวจจะต้องดูแล ไม่ว่าจะผิดหรือถูก เพราะเกิดความสูญเสีย
“ทางตำรวจยืนยันขอให้ประชาชน มั่นใจในการทำงานของตำรวจเกี่ยวกับการดำเนินคดี เพราะขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ถึงแม้คู่กรณีจะเป็นตำรวจ หรือชาวบ้าน จะต้องมีมาตรฐานในการดำเนินคดีเช่นกัน ไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอย่างแน่นอน หากพยานหลักฐานสรุปว่าตำรวจกระทำผิด จะต้องได้รับโทษเช่นกัน ซึ่งต้องรอขั้นตอนการดำเนินคดี ขอให้มั่นใจตำรวจทำงานเต็มที่ตรงไปตรงมา” พ.ต.อ.กวีศักดิ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี