‘ในหลวง-พระราชินี’
ทรงห่วงใย
ปชช.ในพื้นที่น้ำท่วม
ขอทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจกัน
ช่วยผู้ประสบภัยอย่างดีที่สุด
“ในหลวง-พระราชินี” ทรงห่วงใยประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมขอทุกฝ่ายร่วมมือช่วยเหลือให้จิตอาสาตั้งโรงครัวพระราชทานดูแลชาวบ้านประสบภัย รัฐบาลพร้อมรับสนองพระบรมราโชบาย ขณะที่ ปภ.เผยอิทธิพลพายุ’ซินลากู’กระหน่ำ ทำ13จังหวัดอ่วม ประสานทหาร จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจความเสียหาย-ช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว
เมื่อเวลา 13.20 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมครม.ว่า เป็นพระมหากรุณาธิคุณ โดยได้มีการประชุมทางไกลระหว่างศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทานกับท่านราชเลขานุการในพระองค์ และท่านได้นำเรียนแจ้งมาว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี มีพระราชกระแสทรงห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในช่วงที่ผ่านมา และขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจกันช่วยเหลือประชาชนให้ดีที่สุด ทั้งนี้ ท่านราชเลขานุการในพระองค์ยังได้แจ้งว่า ขอให้จิตอาสาพระราชทานในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย เปิดโรงครัวพระราชทานในพื้นที่ที่เหมาะสม เพื่อช่วยเหลือประชาชน ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ซึ่งรัฐบาลรับสนองพระบรมราโชบายดังกล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเรื่องนี้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าไปปฏิบัติการก่อนแล้ว ตนได้แจ้งเตือนไปก่อนหน้านี้อย่าคาดการณ์ว่าจะไม่เกิดขึ้น น้ำจะไม่ท่วม น้ำจะไม่มาแรง แต่เมื่อมีฝนตกเกิน 1-2 วัน ต้องควรเก็บข้าวเก็บของขึ้นที่สูง เพราะไม่รู้น้ำป่าจะไหลมาเมื่อไหร่ โดยเฉพาะในจังหวัดภาคเหนือป่าไม้หายไปเยอะ ถ้าเป็นสมัยก่อนน้ำคงไม่ไหลมามากขนาดนี้ แต่ปัจจุบันต้นไม้ใหญ่หายไปหมดแล้ว เพราะฉะนั้นประชาชนต้องเตรียมตัวเองด้วย โดยเฉพาะบ้านชั้นเดียวในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมบ่อยครั้งหรือเป็นประจำ ต้องเตรียมการตัวเองด้วย ไม่อย่างนั้นจะมาบอกเก็บไม่ทันทุกที ต้องเก็บของมีค่าไว้ก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากัน เอาชีวิตไว้ก่อน
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลพายุ “ซินลากู” (SINLAKU) ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 จนถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2563 เวลา 06.00 น. ส่งผลให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำไหลหลาก รวม 13 จังหวัด 32 อำเภอ 72 ตำบล 284 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 12,689 ครัวเรือน เสียชีวิต 3 ราย (หนองบัวลำภู พิษณุโลก อุดรธานี) บาดเจ็บ 1 ราย (พิษณุโลก) พื้นที่การเกษตร 38,190 ไร่ ปลาในกระชัง 20 ตัน ดังนี้ ภาคเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ น่าน อุตรดิตถ์ ลำปาง พะเยา เชียงราย เชียงใหม่ แพร่ พิษณุโลก, ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ 5 จังหวัด ได้แก่ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี นครพนม กาฬสินธุ์
ทั้งนี้ ปภ.ร่วมกับจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือน เป็นวัสดุก่อสร้างหรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม การจ่ายเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี