"อะชิ"ชายข้ามเพศ อดีตผู้ต้องหาฉ้อโกงประชาชนคดีหลอกร่วมลงทุนคาสิโน ที่ศาลพิพากษาสิ้นสุดแล้ว แจ้งความปอท.เอาผิดเพจที่โพสต์ให้เสียหาย

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 6 สิงหาคม 2563 ที่ บก.ปอท. น.ส.ณัฐพัฒน์ อัครเดชไชย หรือ น.ส.อิทธิพัทธ์ วชิรมโน หรือ อะชิ อายุ 25 ปี ชายหนุ่มข้ามเพศ (ผ่าตัดแปลงเพศแล้ว) ชาว จ.สกลนคร ที่อยู่ปัจจุบัน กทม.  เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.ฐานันดร สาสูงเนิน รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท.แจ้งความดำเนินคดีกับแอดมินเพจเฟซบุ๊กชื่อ "แกะลอย" (บล็อกส่วนตัว) ที่ได้โพสต์ข้อความและภาพประกอบ ในลักษณะอันเป็นเท็จ สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงและถูกดูหมิ่นเกลียดชัง โดยระบุว่า ... "นางสาวอิทธิพัทธ์ วชิรมโน หรือ นางสาวณัฐพัฒน์ อัครเดชโช มิจฉาชีพโดยสันดาน ที่กล้าก่อเหตุบ่อยๆ เพราะ กฎหมายมันมีช่องโหว่ ช่องว่าง หรือผิดถูกจับ แล้วประกันตัวออกไปสู้คดีได้ ระหว่างสู้คดี ก็ก่อคดีเพิ่ม ฉ้อโกงเรื่อยๆ"

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพ์ฯ และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ทั้งเพจและคนแชร์ จะได้ประสานฝ่ายสืบสวนตรวจสอบหาตัวแอดมินเพจดังกล่าว และแนะนำผู้เสียหายพร้อมประสาน สน.หนองแขม ท้องที่ผู้เสียหายพบการกระทำความผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นายอะชิ เปิดเผยว่าตนมาแจ้งความเอาผิดเพจ”แกะลอย”ที่มีการโพสต์ข้อความบิดเบือน ระหว่างวันที่ 3 - 5 ส.ค.จำนวน 5 โพสต์ด้วยกันมีคนแชร์ไปเกือบ 1,500 แชร์ และคนคอมเม้นท์ให้เสียหายอีกจำนวนมาก

ตนเองไม่สามารถจะไปบังคับใครให้เชื่อหรือไม่เชื่อได้ ก็อยากจะฝากให้พิจารณาให้ดีก่อนแชร์ต่อไป เรื่องนี้ตนนิ่งเงียบไม่ตอบโต้มาตลอด 4 ปีแล้ว คนที่เชื่อเขาก็จะคล้อยตามไปฝั่งที่กล่าวหาตน วันนี้จึงได้เอาหลักฐานคำพิพากษาคดีถึงที่สุด ไม่มีหมายจับ ไม่ต้องเกรงกลัวหลบหนีอะไร คดีสิ้นสุดไปหมดแล้ว จำเป็นต้องมาใช้สิทธิปกป้องตัวเองเอาผิดกับคนผลิต คนแชร์ รวมทั้งคนที่แสดงความเห็นให้ตนและครอบครัวต้องเสียหาย

บางโพสต์กล่าวหาในเรื่องการจัดหางานตามเพจที่ตนเปิดไว้เมื่อต้นปี เป็นบริษัทจัดหางาน รับทำวีซ่า ส่วนการจัดหางานทางบริษัทตนจะส่งเอเยนซีอีกที แต่ปรากฎว่ามีลูกค้ากลุ่มที่เอเยนซีรับไปไม่ได้รับเงินคืน บริษัทมีหน้าที่ตามแจ้งความกันต่อไป และได้นำเอกสารหลักฐานการโอนเงินต่อให้เอเยนซี่ให้กับตำรวจเรียบร้อยแล้ว และตรงจุดนี้ตนได้นำเอกสารหลักฐานมาแสดงให้พนักงานสอบสวน บก.ปคม.แล้ว

นอกจากเพจดังกล่าวจะเอารูปตนมาลงในลักษณะประจานให้เสียหายแล้วยังเอารูปพี่ชายและคุณแม่มาลงด้วย ทางตำรวจ ปคม.กำลังตรวจสอบว่าใครนำรูปภาพนั้นมาจากทะเบียนราษฎรมาเปิดเผยอยู่

นายอะชิ กล่าวถึงกรณีที่มีคนแสดงความเห็นกล่าวหาว่าเขาฉ้อโกงประชาชนจน มีหมายจับหลายคดี ถูกจับกุมดำเนินคดีว่าคดีดังกล่าวได้มีการฟ้องศาลจนอุทธรณ์ตัดสิน จบไปแล้วตั้งแต่ปี 2561 แต่ก็ยังมีคนเอาเรื่องเก่ามาแชร์มาโพสต์อยู่ต่อเนื่องจนมาลงในเพจแกะลอยนี้

นายอะชิ เล่าว่า เริ่มแรกตนเปิดบริษัททำธุรกิจ ระยะแรกยังไม่มีเรื่องการลงทุนทำคาสิโนที่สิงคโปร์แต่อย่างใด ต่อมาเริ่มได้ลงทุนทำคาสิโน ได้เงินมาค่อนข้างเยอะ มีคนเห็นเราได้ก็ขอมาร่วมทุนก่อนจะแนะนำต่อๆ กันไป บางคนก็ได้เงินคืนกลับไปมากพอสมควร บางคนที่เข้ามาร่วมลงทุนตอนปีที่4 การเงินเริ่มจะไม่ได้ เราก็รับผิดชอบนำรถยนต์และบ้านขายไปนำเงินมาชดใช้ให้บางส่วนบางคนแต่ได้ไม่ครบหมดทุกคน จึงเชื่อว่าน่าจะยังเจ็บใจตนอยู่

ตนยอมรับว่าในช่วงที่ทำคาสิโนอยู่นั้นมีชื่อเสียงค่อนข้างดังใน จ.สกลนคร ตนกับเพื่อนที่ทำเฟื่องฟูมากในเรื่องการเงินที่ได้มาจากการพนัน แต่พอมามีปัญหาจนต้องปิดบริษัท ขายบ้านขายรถ นำเงินมาชำระผู้ร่วมทุนได้บางส่วน ตนไม่สามารถติดต่อได้หมดทุกคนแต่ก็พยายามชำระคืน มีนักลงทุนบางคนยังไปให้การเป็นพยานในชั้นศาลก็มี

คดีที่ถูกฟ้องว่าฉ้อโกงประชาชนนั้นศาลมองว่ามูลหนี้เกิดจากการพนัน ทางโจทก์ก็รับว่าใช่ ตนมีส่วนผิดที่ไปรับคนจำนวนมากไปลงทุน รวมวงเงินทั้งสิ้น 36 ล้านบาท ไม่ใช่ 5 - 6 ร้อยล้าน ตามที่มีสื่อฯ เอาไปนำเสนอ

สำหรับคดีนี้สิ้นสุดไปเมื่อปี 2561 ศาลอุทธรณ์ตัดสินว่าหนี้เกิดจากการพนัน จำเลยไม่ต้องรับผิดชอบชดใช้คืนลูกหนี้ แต่ตนก็ได้พยายามใช้ให้บางคนที่เราติดต่อได้

สำหรับประวัติส่วนตัวนายอะชิ ยอมรับว่า มีการเปลี่ยนชื่อกลับไปมาแล้วรวมสามครั้ง ปัจจุบันชื่อ "น.ส.ณัฐพัฒน์ อัครเดชไชย" ตนผ่าตัดแปลงเพศมาตั้งแต่อายุ 17 ปี โดยผู้ปกครองยินยอมให้ทำได้

ตนรับว่าบ้าทำศัลยกรรมมาตั้งแต่ยังไม่ตั้งบริษัทเลย มีรายได้จากการทำงาน ไม่ใช่เอาเงินที่คนมาร่วมลงทุนทำคาสิโนมาใช้ผ่าตัดเลย ตนเคยมีรถเบ้นซ์จริงได้มาจากการพนันจริง แต่สุดท้ายก็เอาไปขายมาชดใช้