ก.เกษตรหนุนเต็มที่
ปลูกกาแฟแปลงใหญ่
‘โรบัสต้า-อราบิก้า’
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร หนุนเกษตรกรปลูกกาแฟแปลงใหญ่ เน้นพันธุ์ “อราบิก้า และโรบัสต้า” จากเหนือจรดใต้สร้างคุณภาพได้ครบวงจรตั้งแต่ผลิตถึงตลาด
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยถึงนโยบายการส่งเสริมการปลูกกาแฟ ของประเทศไทยว่า เนื่องจากประเทศไทยมีสภาพพื้นที่เหมาะสมกับการปลูกกาแฟ จึงทำให้สามารถปลูกกาแฟในสายพันธุ์ที่ตลาดต้องการได้ทั้งพันธุ์อะราบิกา และพันธุ์โรบัสต้า จึงเน้นส่งเสริมให้เกษตรกรเลือกการปลูกกาแฟตามสายพันธุ์ที่เหมาะสมต่อพื้นที่เป็นหลักด้วยแต่ละสายพันธุ์มีการบริหารจัดการที่แตกต่างกันตามภูมิประเทศ ลักษณะทางกายภาพในการปลูกกาแฟแต่ละสายพันธุ์ ความคุ้นชินของเกษตรกร รวมถึงตลาดรับซื้อผลผลิตในพื้นที่
โดยในเขตภาคเหนือเน้นส่งเสริมการปลูกกาแฟสายพันธุ์อะราบิกาซึ่งเป็นที่นิยมในตลาดโลกประมาณ ร้อยละ 80 ด้วยเป็นสายพันธุ์ที่ให้กลิ่นรสที่นุ่มนวล กลิ่นหอมเหมาะสำหรับการดื่มในลักษณะกาแฟสด ตลาดส่วนใหญ่จึงเป็นตลาดระดับพรีเมี่ยม เช่นในร้านอาหารหรือร้านกาแฟสด เป็นต้น ดังนั้นเพื่อให้ได้เมล็ดกาแฟคุณภาพดี ให้ผลผลิตสูง จึงจำเป็นต้องปลูกในที่มีอากาศที่ค่อนข้างเย็น และอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล ประมาณ 1,000 เมตรขึ้นไป เช่น พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย น่าน และจังหวัดลำปาง
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า สำหรับกาแฟอะราบิกา ปัจจุบันกรมส่งเสริมการเกษตรได้เน้นการส่งเสริมให้เกษตรกรเกิดการรวมกลุ่มในรูปแบบวิสาหกิจชุมชนและแปลงใหญ่ซึ่งเกษตรกรต้องรวมตัวกันตั้งแต่ 30 คนขึ้นไป เพื่อจัดการผลผลิตในพื้นที่ รวมถึงพัฒนาการปลูก การเก็บเกี่ยว การเก็บรักษา ตลอดจนการแปรรูป เพื่อจำหน่ายในลักษณะกาแฟคั่วด้วยการสร้างแบรนด์สินค้าของตนเองโดยใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วยในการแปรรูปผลผลิตที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มรวมถึงจากวัสดุเหลือทิ้งจากการผลิตเพื่อให้เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆอันเป็นการสร้างช่องทางตลาดใหม่และเพิ่มรายได้จากเดิมที่เน้นการส่งจำหน่ายเมล็ดกาแฟให้กับบริษัทเอกชน
ส่วนของกาแฟโรบัสต้าส่งเสริมให้ปลูกในพื้นที่ภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป ด้วยเป็นสายพันธุ์ที่ต้องการพื้นที่ที่มีความชุ่มชื้น จึงจะสามารถให้ผลผลิตคุณภาพดี ไม่ต้องการความเย็นมากนักปลูกได้ในพื้นที่ราบไม่มีน้ำท่วมขัง หรือความลาดเอียงไม่เกินร้อยละ 35 ความสูงจากระดับน้ำทะเลไม่เกิน 700 เมตร ประกอบกับลักษณะประจำพันธุ์ ของโรบัสต้า คือ มีกลิ่นที่แรง รสชาติจะเข้มและขมกว่าอะราบิกา รวมทั้งเมื่อเทียบปริมาณคาเฟอีนสูงกว่าด้วย จึงนิยมนำไปแปรรูปเป็นกาแฟสำเร็จรูป ดังนั้นผลิตผลส่วนใหญ่เกินกว่าร้อยละ 80 จะส่งขายให้กับโรงงานรับซื้อ ซึ่งราคารับซื้อเบื้องต้นในแต่ละปี จะแปรผันตามปริมาณผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้ในพื้นที่ เนื่องจากการติดผลของกาแฟโรบัสต้าต้องอาศัยความชุ่มชื้นจากดินมาก หากความชื้นในดินไม่เพียงพอ จะส่งผลให้ผลฝ่อหรือหลุดร่วงไปเป็นจำนวนมาก
ดังนั้นกรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้เข้าไปช่วยพัฒนาด้านการจัดการผลผลิต โดยอบรมให้ความรู้เกษตรกรในการจัดการดูแลต่างๆ เช่น การทำสาวให้ต้นกาแฟ เพื่อให้ผลผลิตออกมากขึ้น และสะดวกในการจัดการเก็บเกี่ยวผลผลิตให้ได้คุณภาพ ขณะเดียวกันได้มีการส่งเสริมให้เกษตรกรรวมตัวกัน ในรูปแบบแปลงใหญ่หรือวิสาหกิจชุมชนเพื่อนำผลผลิตกาแฟมาแปรรูปในรูปแบบกาแฟพร้อมดื่ม และสร้างแบรนด์สินค้าเพื่อให้เป็นที่รู้จัก และมีแปลงใหญ่หลายแห่งประสบความสำเร็จ สามารถสร้างชื่อให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เช่น กาแฟเขาทะลุ กาแฟถ้ำสิงห์ หรือกาแฟกระบี่ เป็นต้น” อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรกล่าว
นายสุวรรณ เทโวขัติ ประธานแปลงใหญ่กาแฟเทพเสด็จ หมู่ 4 ต.เทพเสด็จ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า จากที่กรมส่งเสริมการเกษตรได้เข้ามาดำเนินการช่วยพัฒนาในด้านต่างๆเกษตรกรในพื้นที่จำนวน 34 ราย จึงมีการรวมตัวกันเป็นแปลงใหญ่ในปี 2560 พื้นที่ปลูกอากาแฟพันธุ์อะราบิการวม 360 ไร่ ด้วยการพัฒนาที่เน้นถึงคุณภาพเป็นสำคัญ จึงได้รับการตอบรับและสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรได้เป็นอย่างดี
ด้าน นายนิคม ศิลปศร ประธานแปลงใหญ่กาแฟ ต.ถ้ำสิงห์ อ.เมือง จ.ชุมพร กล่าวเพิ่มเติมว่าจากการได้รับการส่งเสริมและพัฒนาจากกรมส่งเสริมการเกษตร ทำให้สามารถยกระดับการผลิตจนได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP ได้เมล็ดกาแฟโรบัสต้าที่มีคุณภาพออกจำหน่ายได้อย่างครบวงจรในรูปผลิตภัณฑ์ต่างๆภายใต้แบรนด์สินค้าของตนเอง ในนาม “กาแฟถ้ำสิงห์” และ “กาแฟกระบี่” รวมถึงการเปิดเป็นร้านจำหน่ายกาแฟโดยตรง ซึ่งมีผู้สนใจมาเยี่ยมชมและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี
แฟ้มภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี