25 สิงหาคม 2563 เมื่อเวลา 13.00 น. พลตรีทวีศักดิ์ วงศ์ทวีทรัพย์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 39, พร้อมด้วย พ.อ.ณรงค์ชัย ไชยชนะ ผู้บังคับการหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 34 สำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา, นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)พิษณุโลก นายชำนาญ ชูเที่ยง ชลประทานจังหวัดพิษณุโลกพร้อมปลัดอาวุโสอำเภอพรหมพิรามและกำนันตำบลช้าง ร่วมตรวจสถานการณ์น้ำในพื้นที่แม่น้ำยมสายเก่า ตั้งแต่ อ.พรหมพิราม และ อ.บางระกำ
โดยเฉพาะที่ ม.12 บ้านใหม่สำราญ ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ที่แม่น้ำยมหลากจากจังหวัดพิษณุโลก ลงสู่แม่น้ำยมสายเก่า ของจังหวัดพิษณุโลก เบื้องต้นมีมวลน้ำมาถึงพิษณุโลกแล้วกว่า 100 ล้าน ลบ.ม. ทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งแม่น้ำยมที่ต่ำ บางจุดน้ำเริ่มเข้าพื้นที่การเกษตร อีกทั้งแรงน้ำยังทำให้พนังดินแม่น้ำใกล้พังทลาย ทำให้กำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว นพค 34 ร่วมกับ ทหารมณฑลทหารบกที่ 39 และหน่วยงาน ต้องนำไม้ยูคาฯ ปักกั้นพนังริมแม่น้ำ โดยใช้ รถแบค์โฮของ กรมชลประทาน กำลังตักดิน เสริมคันพนังกั้นแม่น้ำยม ที่เพิ่งสูงระดับจนเกือบล้นตลิ่ง และมีโอกาสล้นได้ หากไม่เสริมความแข็งแรง น้ำอาจทะลัก ลงสู่แปลงไร่นาข้าว โดยไม่มีการเตรียมการไว้ ซึ่งถือว่า อันตรายมาก อย่างไรก็ตามหลายหน่วยกำลังติดตามและเป็นห่วง พร้อมเฝ้าระวังแม่น้ำยม ซึ่งมวลน้ำมีโอกาสล้นตลิ่งได้ทุกขณะ
ด้านพลตรีทวีศักดิ์ วงศ์ทวีทรัพย์ ผบ.มทบ. 39 กล่าวว่าจากนั่งเรือตรวจระดับน้ำยมจุดเสี่ยงที่อาจล้นตลิ่งได้ และได้เดินทางไปดูประตูน้ำบางแก้ว ที่บางระกำ เพื่อรับมือน้ำเหนือไหลบ่า พบว่า ระดับอยู่ที่ 3.8 เมตร แต่จุดที่วิกฤติ คือ กว่า 4 เมตร แต่ยังต่ำกว่าจุดที่อันตรายหรือรับได้ คือ 5 เมตร สรุปว่า ยังห่างอยู่อีก 1.2 เมตร เชื่อว่ารับมือได้
นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า จุดเสี่ยงของแม่น้ำยมมีหลายแห่ง ทางอบจ.ได้สั่งการให้นำรถยนต์บรรทุกมาตรวจสถานการณ์น้ำ และบริเวณ หมู่ 12 แห่งนี้ จะตั้งเต็นท์พร้อมให้เจ้าหน้าที่เฝ้าประจำจุดดูสังเกตการณระดับน้ำยมอย่างใกล้ชิด หากมีเหตุการณ์น้ำล้นตลิ่ง ก็จะช่วยเหลือชาวบ้านที่อาศัยริมตลิ่ง และประสบเหตุ ได้ทันที
ด้านนายชำนาญ ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า สถานการณ์เฝ้าระวังน้ำจากจังหวัดสุโขทัย เข้าสู่จังหวัดพิษณุโลก ณ เวลา 13.00 น.ที่ผ่านมา พบว่าน้ำที่สุโขทัยผ่านจุดวิกฤติแล้ว และจะส่งผลให้น้ำหลากเข้ามาสู่จังหวัดพิษณุโลก ที่ผ่านมา มีกว่า 100 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งต้องจับตาม 1-2 วัน ถือว่าเป็นจุดแตกหัก ว่ามวลน้ำที่มาถึงพิษณุโลก จะมากน้อยเพียงไร โดยในนี้วันเดียว เข้ามาถึง 60-70 ล้าน.ลบ.ม ถือว่ามากที่สุด และส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำน้ำจะล้นตลิ่งเข้าสู่พื้นที่การเกษตร หากมีน้ำมากเกินทางชลประทาน จะเปิดประตูลิง ตามจุดต่างๆ ที่ลุ่มต่ำให้เข้าสู่ทุ่งบางระกำทันที ขณะที่บริเวณบ้านใหม่สำราญ หมู่ 10 ต.ท่าช้าง ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำกว่าตลิ่งทั่วไป ทางเจ้าหน้าที่จึงช่วยคันดินให้แข็งแรงต้องการน้ำทะลัก หรือ พนังแตกท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี