เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 กันยายน ที่ผ่านมา เกิดเหตุสุนักยกฝูง จำนวน 9 ตัว บุกเข้ากัดไก่ชาวบ้านตายเกือบยกเล้า รวมไก่ที่ตายถึง 19 ตัว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังที่เกิดเหตุ เป็นบ้านเช่าในหมู่ที่ 4 ต.อุใดเจริญ อ.ควนกาหลง จ.สตูล ได้พบกับน้าชายของผู้เสียหาย ชื่อ นายจวน จินดามณี อายุ 53 ปี
โดย นายจวน เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า หลานสาวได้เลี้ยงไก่ไว้ประมาณ 40 ตัว เพื่อไว้เป็นอาหารบ้างเหลือก็ไว้ขาย ในเช้าวันเกิดเหตุหลานสาวออกจากบ้านไปเก็บน้ำยางพาราในสวน กลับมาอีกที่ก็เห็นไก่นอนตายเกลื่อนเล้า
ทราบจากผู้เห็นเหตุการณ์ว่า สาเหตุที่ไก่ตัวเองตายเกิดจากสุนักหลายตัวที่เดินตามหลวงพ่อมาบิณฑบาตตอนเช้า ย่องเข้าไปรุมกันกัดไก่ในเล้าของตน เพราะทุกๆ เช้าหลวงพ่อมาบิณฑบาตจะมีสุนัขเดินตามหลวงพ่อมาเป็นฝูง ต่อมาในวันเดียวกัน ทางเจ้าอาวาสก็ได้ติดต่อมาแสดงถึงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะมอบค่าเสียหายให้กับทางเจ้าของไก่เป็นจำนวนเงิน 3,000 บาท เป็นค่าเสียหาย แต่ทางเจ้าของไก่ก็เข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดีว่าเป็นเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้น แต่ตนก็ยอมรับทางค่าเสียหายมาแค่ครึ่งหนึ่ง เพื่อจะได้นำมาไว้เป็นค่าอาหารให้ไก่ที่ยังมีอยู่ เจ้าของไก่ก็ไม่ได้โทษหรือต่อว่าทางหลวงพ่อหรือทางวัด ไก่ที่โดนสุนัขกัดจำนวน 19 ตัว เป็นไก่ตัวโตพร้อมที่จะขายหรือปรุงอาหารทุกตัว ตอนผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ก็พบตายเพิ่มอีก 1 ตัว คือ ตัวที่สุนัขกัดและบาดเจ็บในวันนั้น
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ต่อไปยังวัดอุไดพัฒนาวาส หมู่ที่ 4 ต.อุใดเจริญ อ.ควนกาหลง จ.สตูล ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 500 เมตร เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ได้พูดคุยกับทาง พระธรรมธรสวัส (พระธรรมมะธรสะหวัด) ขันติโก รักษาการเจ้าอาวาสวัดอุไดพัฒนาวาส เจ้าอาวาสบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุเป็นพระลูกวัดที่ออกไปบิณฑบาต ไม่ใช่ตน แต่เมื่อเกิดเหตุดังกล่าวก็ได้กลับมาแจ้งให้ตนเองทราบทันที หลังจากที่ตนรับทราบแล้วก็ได้ติดต่อเพื่อแสดงความรับผิดชอบ เจ้าอาวาส กล่าวว่า ตนเองก็เข้าใจว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นมันมาก ไก่ถึง 19 ตัว เข้าใจว่าไก่ที่โดนทางสุนัขของทางวัดกัดนั้นถ้าคิดเป็นเงินก็หลายพันบาท และถ้าเป็นกับข้าวก็ทานได้หลายเดือน ตนจึงไม่นิ่งนอนใจ
ส่วนสุนัขทั้งหมดที่กัดนั้นเป็นสุนัขคอกเดียวกัน มีทั้งหมด 9 ตัว ที่ทางชาวบ้านแอบมาทิ้งไว้ในวัดตอนมีงานศพ เมื่อมาอยู่ที่วัดตนก็จำเป็นต้องเลี้ยงดูเอาข้าวให้กิน แต่ปกติแล้วสุนัขฝูงนี้ไม่ได้มีนิสัยดุร้ายแต่อย่างใด ไก่ที่ในวัดก็มีไม่เคยกัดหรือทำร้าย อาจจะเป็นเพราะพอรวมตัวกันหลายตัวจึงก็เหตุเช่นนี้ ส่วนการดูแลไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นยอมรับว่าลำบากมาก เพราะพอพระเริ่มจะเดินออกจากวัดไปบิณฑบาต สุนัขฝูงนี้ก็ออกเดินนำหน้าไปก่อนแล้ว ห้ามไม่ให้ตามไม่ได้ กิจของพระก็ต้องออกบิณฑบาต จะให้ล่ามไว้ก็ไม่ได้ เจ้าอาวาสก็เป็นห่วงยิ่งนัก กลัวว่าจะเกิดซ้ำอีก เหมือนคำภาษิตที่ว่า หมาหยอกไก่
ด้านการแก้ไขปัญหาเจ้าอาวาส กล่าวว่า ก็คิดว่าจะทำคอกกั้นพื้นที่เป็นบริเวณกว้างเพื่อขังสุนัข แต่ไม่ใช่ขังเดียว ให้มีพื้นที่กว้างเพื่อให้สุนักได้วิ่งเล่นเป็นอิสระได้ แต่ออกนอกวัดไม่ได้ แต่ก็ยังเป็นกังวลอีก กลัวว่าพอทำคอกแบบนั้นขึ้น ชาวบ้านก็เห็นว่าสุนัขมาอยู่สบาย ก็จะเอาสุนัขมาทิ้งเพิ่มอีก แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าอาวาสก็จะหาทางแก้ไขไม่ให้เกิดเรื่องแบบครั้งนี้ขึ้นอีก และก็ฝากปยังชาวบ้านว่า ถ้าไม่จำเป็นก็อย่านำสัตว์เลี้ยงมาทิ้งในวัดเลย เพราะสุดท้ายก็จะกลับไปสร้างปัญหาให้กับชาวบ้านเหมือนเหตุการณ์ครั้งนี้นั้นแหละ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี