เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2563 นายธนพร สมศรี เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยภายหลังการมอบนโยบายผู้บริหารของ สกสค.ว่า 6 ปีแล้วที่ไม่เคยมีเลขาธิการ สกสค.ตัวจริง มีเลขาธิการฯรักษาการทั้งที่เป็นคนดีมีความสามารถ และระยะเวลาการทำงานไม่ต่อเนื่อง เป็นเหตุให้ทันทีที่ตนในฐานะที่ได้เป็นเลขาธิการ สกสค.จากการสรรหาตัวจริง ครั้งแรกนับจากมีการรัฐประหารมา และเมื่อวันที่ 1 กันยายน ตนได้เซ็นสัญญาจ้างเพื่อรับตำแหน่งเลขาธิการ สกสค.เป็นเวลา 4 ปี เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ทราบมติของคณะกรรมการ สกสค.ว่ามีมติเป็นเอกฉัน 7 คะแนนเต็ม จากคณะกรรมการ สกสค.ให้เป็นเลขาธิการ สกสค.คนที่ 9 มีงดออกเสียง คือ รมว.ศธ.และเลขาธิการ สกสค.เท่านั้น
นายธนพร กล่าวต่อว่า ส่วนตัวตั้งใจที่จะทำงานเร่งด่วนให้เห็นผลใน 9 เรื่อง ภายใต้แนวคิด "โปร่งใส ทันสมัย ใส่ใจบริการ" ดังนี้
1.ต่อประกันสินเชื่อให้สมาชิก โครงการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและ บุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ในโครงการที่ 5 - 7 ให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน ส่วนการทำประกันให้สมาชิกนั้น สกสค.จะไม่ทำประกันภัยให้สมาชิกแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาประกันภัยมีความเสี่ยงในการคุ้มครองการเสียชีวิตบางประเภท อีกทั้งไม่มีกรมธรรม์รายบุคคลให้กับสมาชิก จึงทำให้ครูเกิดความกังวลใจและไม่รู้สิทธิและประโยชน์ของตนเอง เบื้องต้น สกสค.จะทำประกันชีวิตให้กับสมาชิก ซึ่งทางธนาคารออมสินในฐานะเจ้าหนี้ ก็เปิดให้ สกสค.เลือกบริษัทประกันได้เอง ซึ่งสกสค.จะสรรหาบริษัทประกันตามเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนด
2.จัดส่วนลดโปรโมชั่นสินค้าบริการแก่สมาชิก ซึ่งจากวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ตนพบว่าบริษัทเอกชนต้องการฐานข้อมูลลูกค้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากประสบปัญหาขาดทุน ยอดขายลดลง ซึ่งทาง สกสค.มีข้อมูลสมาชิก ช.พ.ค.และโครงการการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเหลือเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาในกรณีที่คู่สมรสถึงแก่กรรม (ช.พ.ส.) มากถึง 1.4 ล้านคน ซึ่งตนยินดีให้ข้อมูลสมาชิกกับบริษัทเอกชน แต่ต้องแลกกับส่วนลดในสินค้าและบริการของบริษัทนั้นๆ รวมถึงต้องมีสิทธิประโยชน์ของแถมเรื่องต่างๆ ให้ด้วย
3.ตนจะเจรจากับสหกรณ์ออมทรัพย์ทั่วประเทศเรื่องหนี้สินครู เพื่อช่วยเหลือครูที่มีหนี้สิน เช่น ลดดอกเบี้ย การพักชำระหนี้ เพื่อให้ครูมีกำลังใจให้การทำหน้าที่สอนหนังสือได้เต็มที่
4.เตรียมแนวทางรับสมาชิกสมทบจากครอบครัวครู ซึ่งจะทำให้สมาชิกของสกสค.เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว จากเดิมที่มีอยู่ 1.4 ล้านคน ก็จะเพิ่มขึ้นถึง 3 ล้านคน ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือเพื่อครูได้อย่างยั่งยืนถาวร
5.ออกช่องทางชำระเงินสงเคราะห์ฯออนไลน์ โดยตนจะจัดทำระบบการชำระเงิน ช.พ.ค.และ ช.พ.ส.ทางออนไลน์ ซึ่งในช่วงที่ตนดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ สกสค.มาแล้วพบปัญหา คือ สมาชิกยังต้องไปจ่ายเงินที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) หรือ สกสค.จังหวัด ซึ่งเป็นการเพิ่มภาระให้กับสมาชิก และเป็นการเพิ่มงานที่ไม่จำเป็นให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย คาดว่าภายในปี 2564 ระบบสามารถใช้งานได้
6.ผมจะติดตามเรื่องทุจริตต่างๆที่ค้างคามานาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง คดีทุจริตที่เกี่ยวข้องกับอดีตผู้บริหาร สกสค.ที่นำเงินจำนวน 2,500 ล้านบาท ไปซื้อตั๋วสัญญา กับ บริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด เมื่อปี 2556 - 2557 เพื่อนำไปลงทุนในโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี เป็นต้น ซึ่งผมจะสะสางดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายทุกประการ ยืนยันว่าจะร่วมทำงานกับสำนักนิติการของทุกหน่วยงานในกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)
7.จะกำกับฟื้นฟูองค์การค้าลดภาระหนี้สิ้นของ สกสค.จากการที่องค์การค้าเลิกจ้างพนักงานกว่า 900 คน และต้องจ่ายเงินเดือนกว่า 40 ล้านบาท เมื่อจ้างพนักงานใหม่ในอัตราเงินเดือนใหม่ องค์การค้าจะจ่ายเงินเดือนให้พนักงานเพียง 7 ล้านบาท และการทำงานมีประสิทธิภาพเท่าเดิม นอกจากนี้ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) มีมติให้องค์การค้าพิมพ์หนังสือเรียน 100% ทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะอุดหนุนองค์การค้าในการซื้อ E-Book และทางสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ จะให้องค์การค้าผลิตเครื่องหมายลูกเสือทั้ง หมด ซึ่งจะทำให้องค์การค้ามีรายได้เพิ่มขึ้น คาดว่าองค์การค้าจะค่อยๆฟื้นตัว และมีกำลังสามารถมาใช้หนี้ และขึ้นเป็นหน่วยงานที่ทำประโยชน์ให้ ศธ.ภายใน 8 ปี
8.บรรจุเงินศาสนพิธีเป็นงบประจำ ซึ่งจากเดิมที่ทำเป็นงบโครงการ ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ เพราะได้รับเงินศาสนาพิธีอย่างไม่เท่าเทียม
9.ดูแลประสานสร้างอาชีพให้แก่ทายาทของครู โดย สกสค.จะสำรวจทายาทของครูที่ยังว่างงาน และตนจะหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อสร้างอาชีพให้ทายาทครู ที่ประสบปัญหาไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ เพื่อให้ทายาทครูมีงานมีเงินต่อไป
"ส่วนกรณีที่มีข้อครหาว่าการสรรหาเลขาธิการ สกสค.ครั้งนี้มีการล็อกสเปกนั้น ผมคิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นแค่ข้อกล่าวหา เพราะคณะกรรมการ สกสค.ที่คัดเลือกนั้น เป็นผู้ใหญ่ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ผมเชื่อว่าบุคคลเหล่านี้ต้องรับผิดชอบในการเลือกคนที่เข้ามาทำงาน ถ้าผมเป็นคนไม่ดี ไม่มีคุณภาพ ทำงานไม่ได้ ผู้ที่คัดเลือกน่าจะไม่เอาชื่อเสียงของตัวเองมาเสี่ยงกับการล็อกในส่วนนี้" นายธนพร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี