เมื่อเวลา 01.30 น.วันที่ 15 กันยายน 2563 นายชุ้น ณัฐเดช กังสุกุล นายอำเภอบางใหญ่ จ.นนทบุรี ได้สั่งการให้ นายสมพล สุระสัจจะ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย สมาชิก อส.ร้อย.อ.บางใหญ่ที่ 6 บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเเม่นาง นำโดย พ.ต.อ.ปณิธาน ยามานนท์ ผกก.สภ.บางเเม่นาง พ.ต.ท.วีรวัต เครือสมบัติ รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.สมยศ กลัดเเขก สว.สส.พร้อมชุดสืบสวน ลงพื้นที่ออกตรวจความสงบเรียบร้อย บริเวณถนนเลียบคลองถนน หมู่ที่ 10 ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ หลังจากสืบทราบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จึงนำกำลังลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ

หลังจากสืบสวนจนทราบว่ามีการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดจริงจึงได้ให้สายลับเข้าทำการล่อซื้อยาไอซ์ น้ำหนัก 2 กรัม จากนายฮา และนางหญิง 2 สามี ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง เมื่อถึงเวลานัดหมาย สองสามีภรรยาได้ขับรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 สีดำแดง ทะเบียน 1 กถ 5114 นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่จึงเเสดงตัวเข้าจับกุม ทราบชื่อผู้ต้องหาทั้งสองราย คือ นายพงษ์พันธ์ เกรียงเกษมอายุ 22 ปี ชาว จ.นนทบุรี อีกรายคือ น.ส.เพียงระวี ศรีกลัด อายุ 24 ปี ชาว กทม.

จากการตรวจค้นตัวนายพงษ์พันธ์ พบยาไอซ์บรรจุอยู่ในถุงซิปใสซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงข้างขวา น้ำหนัก 1.24 กรัม และพบยาเคตามีนบรรจุอยู่ในถุงซิปใส น้ำหนัก 0.60 กรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในชุดชั้นในของ น.ส.เพียงระวี จากการตรวจค้นรถ จยย.พบยาไอซ์ น้ำหนัก 7.57 กรัม รวมน้ำหนักยาไอซ์ทั้งหมด 8.81 กรัม จึงยึดไว้เป็นของกลาง

นายสมพล สุระสัจจะ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าผู้ต้องหาทั้งสองคน เป็นสามีภรรยากัน มีลูกชายด้วยกัน 2 คน คนโตอายุ 3 ปี คนเล็กอายุ 1 ปี 8 เดือน ก่อนหน้านี้นายพงษ์พันธ์ มีอาชีพเป็นช่างแอร์ ส่วน น.ส.เพียงระวี มีอาชีพรับจ้างทั่วไป จนกระทั่งเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาได้มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้ทั้งคู่ต้องตกงานไม่มีเงินเลี้ยงดูครอบครัว จึงหันมาขายยาไอซ์ โดยเงินที่ได้จากการขายยาจะนำไปซื้อนมให้ลูกกิน และนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว จึงแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) โดยผิดกฎหมาย จากนั้นควบควบผู้ต้องหาทั้งสองรายส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางเเม่นาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป