“ตม.1” สนองนโยบาย “ผบช.สตม.” ห่วงใยต่างชาติ-เชื่อมสัมพันธ์เกาหลี ส่งวิทยากรร่วมบรรยายความรู้ขออยู่ต่อให้กับผู้ที่ติดค้างในไทย เหตุโควิดระบาด

พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1 รรท.ผบก.ตม.1 เปิดเผยว่าสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีประจำประเทศไทย ได้จัดการบรรยายให้ความรู้แก่คนสัญชาติเกาหลีที่พำนักอยู่ในประไทย เมื่อวันที่ 17 ก.ย.63  และได้เชิญวิทยากรจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่กรมการกงสุล และกรมการจัดหางาน เข้าร่วมบรรยายในเรื่อง การเปลี่ยนประเภทวีซ่าและการขออยู่ต่อในราชอาณาจักร ให้กับ ชาวเกาหลีที่อยู่ในราชอาณาจักร โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะต้องดูแลและทำเอกสารวีซ่าประเภทต่างๆให้กับประชาชนของประเทศสาธารณรัฐเกาหลี ในประเทศไทย  โดย  มีนาย ฮา แทอุค กงสุลใหญ่ ให้การต้อนรับ  ณ ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีประจำประเทศไทย ถ.สุขุมวิท กรุงเทพฯ

พ.ต.อ.ภัคพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้มอบหมายให้คณะวิทยากรข้าราชการตำรวจ บก.ตม.1 จำนวน 5 นาย คือ พ.ต.ท.หญิงอ้อยใจ อุ่นอารมณ์ สว.กก.1 บก.ตม.1, พ.ต.ท.หญิง สุวพร จันทน์ทศ สว.กก.2 บก.ตม.1, พ.ต.ท.หญิง นันนทรัตน์ เมืองขวัญใจ สว.กก.2 บก.ตม.1, ร.ต.อ.หญิง ไพจิตร พาณิชยสัมพันธ์ รอง สว.กก.1 บก.ตม.1 และ ร.ต.ต.หญิง ดลนภา พิณสาร รอง สว.(อก.) กก.1 บก.ตม.1 ร่วมเป็นวิทยากรบรรยาย เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนประเภทวีซ่าและการขออยู่ต่อในราชอาณาจักร ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้กับชาวเกาหลีที่อยู่ในราชอาณาจักรนั้น เป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.ท.สมพงษ์  ชิงดวง ผบช.สตม. ที่ได้มีความห่วงใยชาวต่างชาติที่อยู่และติดค้างในประเทศไทย อันสืบเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และทำให้ชาวเกาหลีที่ยังติดค้างอยู่ในประเทศไทยได้รับผลกระทบต่อการปิดเมืองและปิดสนามบิน  ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้

นอกจากนี้ ตามประกาศกระทรวงมหาดไทยฉบับล่าสุด จะหมดอายุการอนุญาตให้คนต่างชาติอยู่ในราชอาณาจักรไทยได้ถึงวันที่ 26 ก.ย.63 ซึ่งทางคณะวิทยากรข้าราชการตำรวจ บก.ตม.1 ได้บรรยายให้ความรู้ในส่วนที่เกี่ยวกับขั้นตอนและรายละเอียดต่าง ๆ ในการยื่นขออยู่ต่อที่ บก.ตม.1 รับผิดชอบตามอำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติงาน  เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง และเป็นการลดความแออัดในการยื่นอนุญาตขอยู่ต่อในราชอาณาจักร ในช่วงที่มีแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

“ในส่วนของการปฏิบัติงานนั้นจะอยู่ภายใต้แนวทางความมั่นคงควบคุมกับการบริการ และอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายของมนุษยธรรม ช่วยเหลือเพื่อนต่างชาติที่ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบดังกล่าว อีกทั้งยังเป็นการเชื่อมความสัมพันธไมตรีระหว่างหน่วยงานบก.ตม.1สตม. และหน่วยงานกงสุล/สถานทูต ที่ดีต่อกัน” พ.ต.อ.ภัคพงศ์ กล่าว