สธ.ช่วยเมียนมา
ส่งเวชภัณฑ์อุปกรณ์แพทย์
ตรวจหาเชื้อได้เร็ว-แม่นยำ
เร่งสกัดโควิดไม่ให้ลุกลาม
ทั่วโลกป่วยสะสม32ล้านคน
อังกฤษติดไวรัสวันเดียว6พัน
สธ.แถลงสถานการณ์โควิด ไทยพบ 2 ราย ติดเชื้อมาจากอเมริกา ผลตรวจพบเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ ยอดป่วยสะสม 3,516 คน พร้อมร่วมมือ “บัวแก้ว”ส่งอุปกรณ์เวชภัณฑ์ เครื่องตรวจ RT-PCR และชุด PPE ให้เมียนมา ช่วยคุมระบาดได้รวดเร็วแม่นยำยิ่งขึ้นส่วนทั่วโลกยอดป่วยสะสมทะลุ 32 ล้านคนแล้ว
เมื่อวันที่ 24 กันยายน ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ประจำวัน ในประเทศไทยว่า มีผู้ป่วยใหม่ 2 ราย ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 3,516 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,445 ราย และอยู่ในสถานกักกันโรคของรัฐ (State Quarantine) 578 ราย รักษาหายป่วยแล้ว 3,353 ราย ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล (รพ.) 104 ราย เสียชีวิตสะสม 59 ราย ทั้งนี้ ในจำนวนผู้ป่วยสะสม 3,506 ราย รับรักษาในกรุงเทพมหานคร และจ.นนทบุรี 1,906 ราย ภาคเหนือ 95 ราย ภาคกลาง 659 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 112 ราย ภาคใต้ 744 ราย
ป่วยโควิดใหม่2รายมาจากสหรัฐ
สำหรับผู้ป่วยใหม่ 2 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากสหรัฐอเมริกาทั้ง 2 ราย และเข้าสถานกักกันโรค โดยรายที่ 1 เป็นชายไทย อายุ 38 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว เมื่อวันที่ 10 กันยายน เดินทางถึงไทย เข้าพักในสถานกักกันโรคของรัฐในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 23 กันยายน ตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 ผลตรวจพบเชื้อ โดยไม่มีอาการ รายที่ 2 เป็นหญิงไทย อายุ 54 ปี ครูสอนภาษาอังกฤษ เมื่อวันที่ 17 กันยายน เดินทางถึงไทย เข้าพักในสถานกักกันโรคของรัฐที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 21 กันยายน ตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 ผลตรวจพบเชื้อโดยไม่มีอาการ
ไทยเตรียมส่งอุปกรณ์ช่วยเมียนมา
ด้านนพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า หลังสถานการณ์โควิด-19 ระบาดในเมียนมา มีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพื่มขึ้นต่อเนื่อง ทางกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) และกระทรวงสาธารณสุข มีแนวคิดช่วยสนับสนุนสร้างความเข้มแข็งในการป้องกันและควบคุมโรคกับเมียนมา ด้วยการซื้ออุปกรณ์และเวชภัณฑ์นำไปมอบให้ ทั้งเครื่องตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR ใช้สอบสวนโรคได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ และชุดPPE ป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ ส่วนเรื่องการสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญป้องกันควบคุมโรคนั้น ต้องให้ทางการเมียนมาร้องขอจึงจะทำได้ อย่างไรก็ตาม ในการควบคุมโรคต้องให้กำลังใจ ต้องเชื่อมั่นว่าทางการเมียนมา จะควบคุมโรคได้เหมือนเวียดนาม ที่เพียงเดือนเศษควบคุมโรคได้ เพราะขณะนี้เริ่มมีการปิดเมือง เพื่อควบคุมโรคแล้ว
ติดโควิดโลกทะลุ32ล้านคน
อีกด้านหนึ่ง สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงมีผู้ติดเชื้อเพิ่มใหม่ 315,717 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 32,092,294 ราย รักษาหายแล้ว 23,676,049 ราย เสียชีวิต 981,958 ราย โดยอันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับ 1.สหรัฐอเมริกา 7,139,553 ราย 2.อินเดีย 5,730,184 ราย 3.บราซิล 4,627,780 ราย 4.รัสเซีย 1,122,241 ราย และ 5.โคลัมเบีย 784,268 ราย ไทย อยู่ในอันดับ 136
อินเดียวันเดียวเฉียด9หมื่น
อย่างไรก็ตาม ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มหลักหมื่นมี 6 ประเทศ สูงสุดคือ อินเดีย 89,688 ตามด้วยสหรัฐ 40,774 บราซิล 32,445 ฝรั่งเศส 13,072 อาร์เจนตินา 12,625 และสเปน 11,289 ประเทศที่มีผู้ป่วยสูงสุด 5 อันดับแรกคือ สหรัฐ 7,138,711 อินเดีย 5,730,184 บราซิล 4,627,780 รัสเซีย 1,122,241 และโคลอมเบีย 784,268 ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกอยู่ที่ 981,217 ราย เพิ่มขึ้น 6,262 รายรอบหนึ่งวันที่ผ่านมา
อังกฤษติดเชื้อเพิ่ม6.1พันคน
ด้านกระทรวงสาธารณสุขของสหราชอาณาจักรเผยสถานการณ์โควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาว่าสถิติผู้ป่วยสะสมมีอย่างน้อย 409,729คน เพิ่มขึ้น 6,178 คน เป็นสถิติรายวันสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมและเพิ่มขึ้นจากสถิติเมื่อวันอังคาร 1,252 คน มีผู้เสียชีวิต 37 คน นับเป็นสถิติรายวันสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม เพิ่มสถิติสะสมของผู้เสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19 ในสหราชอาณาจักรเป็นอย่างน้อย 41,825คน สูงที่สุดในทวีปยุโรป นอกจากนี้ ทางการยังมีคำสั่งให้ผับ บาร์ ร้านอาหาร และสถานประกอบการทุกแห่งในอังกฤษ สกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ ต้องปิดทำการก่อนเวลา 22.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 04.00 น. ตามเวลาในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 24 กันยายนจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง พร้อมขอให้พนักงานเอกชนทำงานจากที่บ้านให้มากที่สุด และการยกระดับมาตรการสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งน่าจะมีผลบังคับใช้ไปจนถึงช่วงฤดูหนาว
อย่างไรก็ตาม ในส่วนผู้ประกอบการส่วนใหญ่เรียกร้องให้รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจที่ต้องเผชิญกับมาตรการควบคุมทางสังคมอีกครั้ง เนื่องจากเพิ่งกลับมาเปิดตามปกติได้ไม่กี่เดือน ด้านสมาชิกสภาสามัญทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านเรียกร้องนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ขยายมาตรการช่วยเหลือแรงงานเกือบ 9 ล้านคน ที่ต้องหยุดงาน “อย่างไม่มีกำหนด” แต่อาจกลายเป็นการตกงานในอนาคต โดยธนาคาแห่งอังกฤษ ( บีโออี ) เตือนว่าหากภาครัฐไม่ดำเนินการเพิ่มเติม อัตราการว่างงานในประเทศจะเพิ่มเป็น 7.5% ภายในสิ้นปีนี้ จากสถิติ 4.1% เมื่อไตรมาสที่สอง
ฝรั่งเศสปิดร้านอาหาร-ผับไม่มีกำหนด
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีสของฝรั่งเศสว่า นายโอลิวิเยร์ เวร็อง รมว.กระทรวงสาธารณสุขของฝรั่งเศส แถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศมีผู้ติดเชื้อสะสมอย่างน้อย 481,141 คน เพิ่มขึ้น 13,072 คน ในรอบ 24ชั่วโมงที่ผ่านมา รักษาหายแล้ว 93,538 คน เพิ่มขึ้น 530 คน และเสียชีวิตอย่างน้อย 31,459คน เพิ่มขึ้น 43คน พร้อมยืนยัน รัฐบาลยังไม่มีมาตรการล็อคดาวน์ทั้งประเทศในระดับเข้มงวดเหมือนก่อนหน้านี้เป็นรอบที่สอง
รมว.สาธารณสุขฝรั่งเศสประกาศพื้นที่สีเลือดหมูต้องเผชิญมาตรการเข้มข้นคือ ร้านอาหาร ผับและบาร์ต้องปิดบริการตั้งแต่วันที่ 26กันยายนนี้ อนุญาตเฉพาะบริการจำหน่ายกลับบ้านเท่านั้น ส่วนการจำกัดการรวมตัวนอกสถานที่ใช้เกณฑ์เดียวกับกลุ่มสีแดงเข้ม มาตรการทั้งหมดมีผลบังคับใช้ไม่มีกำหนด แต่รัฐบาลจะประเมินสถานการณ์ทุก 2 สัปดาห์
จีนมอบวัคซีน2แสนโดสให้อู่ฮั่น
อีกด้านหนึ่งมีความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ของหลายประเทศ อย่างไชนา เนชันแนล ไบโอเทค กรุ๊ป บริษัทชิโนฟาร์มของทางการจีน โพสต์ผ่านเฟซบุ๊คว่า สำนักงานของบริษัทในเมืองอู่ฮั่นพัฒนาวัคซีนต้านโรคโควิด-19 จำนวน 200,000 โดส นำไปฉีดให้เจ้าหน้าที่แพทย์ของเมืองอู่ฮั่น ขณะนี้บริษัทมีวัคซีนต้านโรคโควิด-19 จำนวน 2 ขนานที่อยู่ระหว่างทดลองทางคลินิกขั้นสุดท้ายและอยู่ภายใต้โครงการฉีดวัคซีนฉุกเฉินทั้งคู่ ผู้บริหารของไชนา เนชันแนล ไบโอเทค กรุ๊ปคาดหวังว่า วัคซีนทั้งสองขนานจะได้รับอนุมัติ เพื่อใช้กับประชากรวงกว้างภายในปีนี้
ก่อนหน้านี้ มีชาวจีนหลายแสนคนเข้ารับการฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด- 19 ก่อนการทดลองทางคลินิกเสร็จสมบูรณ์ ขณะที่โครงการฉีดวัคซีนฉุกเฉินของจีนในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาช่วยปกป้องเจ้าหน้าที่การแพทย์และชาวจีนบางส่วนในพื้นที่ที่มีการระบาดรุนแรง แต่กลุ่มผู้เชี่ยวชาญหลายคนยังคงวิตกกังวลเรื่องความปลอดภัยของวัคซีนดังกล่าว ทั้งนี้ ไชนา เนชันแนล ไบโอเทค กรุ๊ปเป็นบริษัทในเครือซิโนฟาร์มของทางการจีน.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี