"ผู้บริหารสารสาสน์"ขอโทษผู้ปกครอง-สังคม ยอมรับผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมปรับโครงสร้างผู้บริหารใหม่ และตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนเพื่อแก้ไขปัญหาทุกเรื่องโดยเร็ว
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2563 นายพิสุทธิ์ ยงค์กมล ผู้แทนผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนสารสาสน์ กล่าวภายหลังประชุมหารือกับ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) ว่า ในนามตัวแทนของโรงเรียนสารสาสน์ เราทุกคนต่างเสียใจกับเหตุการที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เป็นข้อผิดพลาดที่ตัวบุคคล และยอมรับว่าครู ผู้บริหารที่อยู่ในโรงเรียนตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อปฏิกริยาของผู้ปกครอง การตัดสินใจจึงล่าข้า ก็ถือเป็นข้อบกพร่องของเรา แต่ในอนาคตเราจะจัดการแก้ไข โดยทางโรงเรียนจะตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนขึ้นเพื่อจัดการปัญหาทุกอย่างด้วยความรวดเร็ว และจะให้ความช่วยเหลือนักเรียนและผู้ปกครองด้วยความยุติธรรม โดยทางผู้บริหารได้แต่งตั้ง น.ส.วารุณี เผือกเทศ เป็นอำนวยการโรงเรียนสารสาสน์คนใหม่ ที่ทำหน้าที่บริหารและจะสามารถแก้ไขปัญหาทุกเรื่อง และให้คำตอบได้ภายใน 1 วัน และให้มีคณะผู้บริหารชุดใหม่เข้ามาร่วมแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด และตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ เป็นต้นไป ทางโรงเรียนจะตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนที่ห้องธุรการ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยรับเรื่องร้องเรียน และทุกอย่างจะนำไปสู่การปฏิบัติแก้ไขโดยเร็วที่สุด และจะมีการคัดกรองประสิทธิภาพและคัดกรองสุขภาพจิตใจของครู โดยทางโรงเรียนจะทำงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมสุขภาพจิต จะเข้าไปประเมินอย่างสม่ำเสมอ
นายพิสุทธิ์ กล่าวว่า นายพิบูลย์ ยงค์กมล ประธานคณะกรรมการโรงเรียนในเครือสารสาสน์ ผู้ก่อตั้งโรงเรียนสารสาสน์ มีเจตนารมย์ในการสร้างโรงเรียนด้วยความรักและรักในวิชาชีพครู มีเจตนาบริสุทธ์ของครู ดังนั้น จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เรามีความรู้สึกห่วง และรู้สึกในฐานะเป็นพ่อที่มีลูกสาว จึงมีความรู้สึกเหมือนกับที่ผู้ปกครองรู้สึก ในส่วนนี้พวกเรารู้สึกเจ็บที่หัวใจ เรามีความรู้สึกว่ามันเกิดขึ้นในโรงเรียนสารสาสน์ได้อย่างไร แล้วเราก็ต้องแก้ไข แต่เราจะไม่แก้ตัว เราจะไม่โทษใคร เราจะมาพิจารณาระบบการบริหารของโรงเรียน และระบบการอภิบาลของโรงเรียนในเครือสารสาสน์ ทั้งหมด 42 แห่ง เราจะมีการอภิบาลที่ดีขึ้น จะแก้ไขทุกเรื่องที่ผู้ปกครองร้องเรียน เราจะใส่ใจ และจะไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ เราจะแก้ไขและมองตัวเราเองเหมือนกับที่เราเป็นผู้ปกครองคนหนึ่ง และพร้อมจะแก้ไขตามบันทึกข้อตกลงวันนี้ต่อไป เพื่อให้ปัญหาทุกอย่างได้รับการคลี่คลาย และได้รับความยุติธรรม
"วันนี้ผมก็ไม่มีอะไรจะฝากถึงผู้ปกครอง นอกจากคำขอโทษ เราไม่แก้ตัวในสิ่งที่เกิดขึ้น ความไม่เข้าใจ กระแสรุนแรงที่เกิดขึ้น เราขออภัยท่านผู้ปกครอง ขออภัยพี่น้องประชาชน ขออภัยคุณพ่อคุณแม่ทุกคนที่ให้ความไว้วางใจสารสาสน์ แล้วเราทำให้ท่านผิดหวังกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น" นายพิสุทธิ์ กล่าว
ด้าน ดร.สุทธิพงศ์ ยงค์กมล คณะกรรมการโรงเรียนสารสาสน์ ปฏิบัติหน้าที่สารสาสน์ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ทางโรงเรียนสารสาสน์ใส่ใจเรื่องมาตรการเยียวยา และคำนึงถึงเด็กที่ได้รับผลกระทบโดยตรง และเด็กที่อยู่รอบด้าน รวมถึงผู้ปกครองเด็กในโรงเรียนสารสาสน์ด้วย ก็ต้องขออภัย ขณะนี้สารสาสน์กำลังปรับโครงสร้างบุคลากรของโรงเรียน ตั้งแต่การแต่งตั้ง ผอ.โรงเรียนคนใหม่ คณะผู้บริหาร และที่ปรึกษาคนใหม่ จะให้มีคณะทำงานฝ่ายอนุบาล ที่มีความเชี่ยวชาญด้านปฐมวัยมาออกแบบหลักสูตร และวิธีการจัดการเรียนการสอนระดับอนุบาล และครู บุคลากรที่จะดูแลนักเรียนระดับชั้นอนุบาล เราจะวิกฤติที่เกิดขึ้นมาทบทวนอย่างจริงจัง เพื่อให้สารสาสน์จะก้าวหน้าต่อไปให้ได้ จะถือโอกาสนี้ปฏิรูปตรวจสอบให้มีความเข้มข้นมากขึ้น
"ผมยังเชื่อมั่นนโยบายของกองอำนวยการ และท่านประธานคณะกรรมการฯ ว่าผู้บริหารจะต้องอยู่กับเด็กนักเรียน อยู่กับโรงเรียน โดยอนุญาตว่า 1 วัน ทำเอกสารได้เพียง 2 ชั่วโมง ตาของผู้บริหาร เท้าของผู้บริหาร ต้องเป็นกล้องวงจรปิดที่ดีที่สุด ต้องไปคลุกคลีอยู่กับเด็กนักเรียน ดังนั้น เราจะรีสตาร์สโณงเรียนนสารสาสน์ใหม่ ดังนั้น เมื่อมีการปรับโครงสร้างใหม่ ทางโรงเรียนจะมีระบบสื่อสารกับผู้ปกครองใหม่ให้รวดเร็ว และแก้ปัญหาให้ตรงจุดมากขึ้น ดังนั้น คณะผู้บริหารจึงขอเวลาทำงานพลิกโฉมโรงเรียนที่เกิดเหตุใหม่ เพื่อขอพิสูตรตัวเองอีกครั้งในการสร้างเยาวชนรุ่นใหม่ ด้วยความมุ่งมั่น และจะรักษาคุณภาพไว้ตลอดไป ซึ่งผู้ปกครองสามารถเข้าไปตรวจสอบเป็นรายห้องได้"
ขณะที่ นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาธิการ กช.) กล่าวว่า สช.อยากให้สังคมมั่นใจ เพราะขณะนี้ สช.ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ในทุกมิติ ขณะนี้ทางคณะกรรมการก็ได้ลงพื้นที่โรงเรียนแล้ว ดังนั้น ปัญหาทั้งหมดจะถูกนำมาวางเพื่อแก้ไข และ รมช.ศธ.ก็ได้ตั้งคณะทำงานมากำกับติดตามและรับเรื่องร้องเรียนเพื่อหาช่องทางแก้ปัญหาด้วยเช่นกัน ดังนั้น จากนี้ไปผู้ปกครองจะสามารถติดตามผลการแก้ไขปัญหาได้เป็นรายวัน เพราะในส่วนราชการเองก็ปรารถนาที่จะเห็นการเรียนการสอนกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด และก็เชื่อว่าทางโรงเรียนสารสาสน์ ก็อยากให้มีการเปลี่ยนแปลงโดยเร็วตามที่ตั้งใจไว้ และตนเองก็จะเกาะติดโรงเรียนสารสาสน์ด้วยเช่นกัน เพื่อให้มีการปรับเปลี่ยนและเปลี่ยนแปลงที่ตรงใจเพื่อคุณภาพของผู้เรียน
นายอรรถพล กล่าวต่อว่า สำหรับการตรวจสอบการเรียนการสอนโรงเรียนที่สอนระดับชั้นอนุบาล สช.มีการตรวจสอบอยู่แล้ว ตามหลักกฏหมายและข้อบังคับ โดยยึดถูกใจเป็นรอง ถูกต้องเป็นหลัก ดังนั้น การจะระดมให้โรงเรียนเกิดภาพใหม่ภายใต้ New Normol จะต้องปรับรูปแบบ เช่น ต้องนำระบบอิเลกทรอนิกส์มาใช้ในการเรียนการสอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี