ตำรวจ สภ.คูเมือง รวบหลานโหดใช้เสียมเหล็กกระหน่ำตีน้าตายคาวงเหล้า อ้างฉุนคนตายพูดจาไม่เข้าหู แม่วัย 80 เผยยกมือไหว้ร้องขอชีวิตแต่ไม่ยอมหยุด ยังฉุดกระชากลากไปกระหน่ำตีซ้ำสลบเหมือนต่อหน้า ตำรวจหิ้วตัวทำแผนไม่ถึง 10 น.หวั่นถูกญาติรุมประชาทัณฑ์
วันที่ 1 ต.ค.63 พ.ต.อ.อัษฎไณย ป้องกัน ผกก.สภ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ พร้อม พ.ต.ท.อภิชิต เอการัมย์ รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน สภ.คูเมือง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คูเมือง ได้ร่วมกันจับกุมนายสิทธิกร สุขแสง หรือเป็ก อายุ 31 ปี ได้ที่บริเวณถนนหลังโรงเรียนบ้านเขว้า ม.4 ต.ปะเคียบ อ.คูเมือง ขณะพยายามจะหลบหนี หลังได้ก่อเหตุใช้เสียมด้ามเหล็กยาวประมาณ 120 เซนติเมตร กระหน่ำตีนายเอกราช มูลทอง อายุ 49 ปี น้าชาย เสียชีวิตในสภาพมีบาดแผล และรอยเขียวช้ำตามร่างกายหลายจุด อยู่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 28 ม.5 ต.ปะเคียบ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านของผู้ตายเอง เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.คืนที่ผ่านมา (30 ก.ย.63)
จากการสอบสวน นายสิทธิกร หรือเป็ก รับสารภาพว่าได้ทำร้ายร่างกายด้วยการใช้เสียมเหล็กกระหน่ำตีนายเอกราช น้าชายจริง โดยอ้างว่า เกิดจากต่างคนต่างดื่มเหล้าเมาแล้วพูดจาไม่ถูกหูกัน จึงได้มีปากเสียงทะเลาะและชกต่อยกัน จากนั้นตนเองก็คว้าเสียมเหล็กที่บ้านของผู้ตาย กระหน่ำตีนายเอกราช น้าชาย ที่บริเวณขา ลำตัว คอหลายครั้งจนน้านอนแน่นิ่ง หลังก่อเหตุก็กลัวความผิดจึงหลบหนีโดยทิ้งเสียมไว้บ้านที่เกิดเหตุ แต่พอเจ้าหน้าที่เค้นถามว่าทะเลาะกันเรื่องอะไรนายสิทธิกร กลับไม่ยอมตอบอ้างว่าเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดกันเท่านั้น
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ควบคุมตัวนายสิทธิกร ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังบ้านที่เกิดเหตุโดยใช้เวลาในการทำแผนเพียงประมาณ 10 นาทีเท่านั้นเพราะเกรงว่าญาติของผู้ตายจะรุมประชาทัณฑ์
ขณะที่ทางครอบครัวก็ได้มีการประกอบพิธีฌาปนกิจศพของนายเอกชน ผู้ตายที่วัดบ้านโจดแล้ว ทั้งที่เสียชีวิตได้เพียงวันเดียว โดยญาติให้เหตุผลว่า เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงออกพรรษาทางวัดก็จะมีงาน ญาติจึงตัดสินใจทำพิธีเผาเลย หลังจากนั้นก็จะทำบุญให้อีกครั้ง
ขณะที่นางสมัน มูลทอง อายุ 80 ปี แม่ของผู้ตาย เล่าว่า คืนเกิดเหตุลูกชายนั่งดื่มเหล้ากับหลานซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ และเพื่อนในหมู่บ้านอีกหลายคน ที่แคร่หน้าบ้าน พอเพื่อนทยอยกันกลับก็เหลือลูกชายกับหลานนั่งกินกัน ต่ออยู่ 2 คน จากนั้นตนและสามีก็เข้าไปนอนในบ้าน กระทั่งประมาณ 3 ทุ่ม ได้ยินเสียงทะเลาะกันดังลั่นบ้าน ตนจึงเดินออกมาดูก็เห็นนายเป๊ก กำลังใช้เสียมเหล็กกระหน่ำตีลูกชายของตนเอง จึงตะโกนห้ามและยกมือไหว้ร้องขอชีวิตลูกชาย
แต่นายเป๊ก ก็ไม่สนใจยังกระหน่ำตีอีกหลายครั้งจนนับไม่ถ้วน จึงตะโกนให้สามีและเพื่อนบ้านมาช่วย ก่อนที่นายเป๊ก จะวิ่งหลบหนีไป ตนไม่รู้ว่าทั้งสองทะเลาะกันเรื่องอะไร แต่รับไม่ได้ที่ทำร้ายลูกชายอย่างโหดเหี้ยมถึงขั้นเสียชีวิต ทั้งยังกระชากลากไปกระหน่ำตีซ้ำโดยไม่สนแม้ตนเองจะยกมือไหว้ร้องขอชีวิตก็ตาม ส่วนตัวไม่ขออโหสิกรรมให้คนก่อเหตุถึงแม้จะเป็นหลานก็ตาม เพราะรับไม่ได้กับสิ่งที่กระหน่ำก็อยากให้ตำรวจลงโทษตามกฎหมายจนถึงที่สุด เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหานายสิทธิกร “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี