เริ่มต้นปีงบประมาณใหม่กันแล้วตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรฯ มีการเปลี่ยนแม่ทัพในส่วนของข้าราชการประจำคนใหม่ นั่นคือตำแหน่งปลัดกระทรวง ซึ่ง นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดคนเก่าที่เกษียณอายุในปีนี้ สำหรับคนที่ขึ้นรับตำแหน่งปลัดกระทรวงเกษตรฯคนใหม่ก็คือ ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน นั่นเอง สำหรับ ดร.ทองเปลว กองจันทร์ ถือเป็นลูกหม้อของกรมชลประทาน จบการศึกษาระดับประกาศนียบัตรการชลประทาน จากโรงเรียนการชลประทาน รุ่นที่ 35 ระดับปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมโยธา จากวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา ระดับปริญญาโท สาขาวิศวกรรมชลประทาน จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และปริญญาเอก สาขาวิศวกรรมชลประทาน จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เคยดำรงตำแหน่งสำคัญในกรมชลประทาน สังกัดกระทรวงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อาทิ เป็นผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาการชลประทาน ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา รองอธิบดีกรมชลประทานฝ่ายบำรุงรักษา และอธิบดีกรมชลประทาน คนที่ 33 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2560 ก่อนจะมารับตำแหน่งปลัดกระทรวง ในปัจจุบัน...ดร.ทองเปลว ถือว่าเป็นบุคคลที่มีความรู้
ความสามารถคนหนึ่งที่เกษตรกรน่าจะฝากความหวังไว้กับท่านได้ ซึ่งปัจจุบันปัญหาของเกษตรยังต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและแก้ไขอีกมาก ไม่ว่าจะเรื่องราคาสินค้าเกษตร ที่จะต้องเร่งเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร การส่งเสริมอาชีพ
ยกระดับการผลิตสินค้าเกษตรให้มีคุณภาพให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศตามนโยบายการตลาดนำการเกษตร การสร้างงานภาคการเกษตร เพื่อรองรับคนรุ่นใหม่และผู้ตกงานที่ต้องการประกอบอาชีพเกษตร รวมถึงเรื่องของภัยพิบัติต่างๆ...ขุนเกษตราขอเป็นกำลังใจให้ท่านปลัดกระทรวง คนใหม่ทำงานให้ราบรื่น ยึดผลผลประโยชน์ของเกษตรกรเป็นที่ตั้งนะครับ
อีกตำแหน่งที่มีการเปลี่ยนแปลงและเป็นที่น่าสนใจไม่น้อยคือ ท่านพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ ที่โยกข้ามห้วยมาจากอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ มานั่งตำแหน่งอธิบดีกรมวิชาการเกษตร นี่ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่มีความรู้ความสามารถ มีผลงานด้านการสหกรณ์มาไม่น้อย เพราะเป็นลูกหม้อที่นั่น แต่การข้ามห้วยมาครั้งนี้ ไม่แน่ใจว่าท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการ มนัญญา ซึ่งกำกับดูแลกรมส่งเสริมสหกรณ์และกรมวิชาการเกษตร มีเป้าหมายอย่างไรหรือไม่ หรือจะมาให้ช่วยผลักดันเรื่อง 3 สาร ที่อธิบดีคนก่อนไม่สนอง Need เท่าที่ควร ก็นับว่าเอาเรื่องอยู่เหมือนกันสำหรับตำแหน่งใหม่ของท่านอธิบดีพิเชษฐ์ ที่ต้องมารับเผือกร้อนตรงนี้ ยิ่งขณะนี้ บรรดาเกษตรกรเริ่มออกมาแสดงพลังกันมากขึ้น แสดงความไม่เห็นด้วยกับการแบน พาราควอตและคลอร์ไพริฟอส อย่างไม่เป็นธรรม และกำลังได้รับผลผลกระทบ เนื่องจากยังหาสารตัวใหม่ที่ได้ผลดีกว่าพาราควอตและมีต้นทุนต่ำไม่ได้ แถมยังสร้างความช้ำใจให้เกษตรกรไทยอีกคือ ห้ามเกษตรกรไทยใช้พาราควอตและคลอร์ไพริฟอส แต่กลับอนุญาตให้มีการนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศที่ยังใช้ 2 สารนี้อยู่ นี่จึงเป็นการบ้านข้อใหญ่ที่ท่านพิเชษฐ์ต้องมาดำเนินการแก้ปัญหา โดยมีธงคือประโยชน์ของเกษตรกรเป็นสำคัญ ขุนเกษตรา ขอเป็นกำลังใจให้ท่านพิเชษฐ์ ทำงานให้ราบรื่นและอยู่เคียงข้างพี่น้องเกษตรกรนะครับ มันอาจจะยากหน่อยในภาวะที่มีการเมืองครอบงำ แต่ถ้าท่านทำได้ดี รับรองว่าท่านจะอยู่ในใจเกษตรกรตลอดกาล
ขุนเกษตรา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี