‘สารสาสน์ราชพฤกษ์’เปลี่ยนโครงสร้างผู้บริหาร ‘กช.’รอผลสอบใบอนุญาตครูต่างชาติ
5 ตุลาคม 2563 นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาธิการ กช.) ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าตามข้อตกลง ที่โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี พร้อมด้วย คณะกรรมการสืบสวนหาข้อเท็จจริงของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) โดยมี นายพิสุทธิ์ ยงศ์กมล ผู้แทน ผู้รับใบอนุญาตก่อตั้งโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ , นายสุทธิพงศ์ ยงค์กมล, นางสยมพร ทองเนื้อดี , นางวริษนันท์ เดชปานประสงค์ ผู้บริหารโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ และ ดร.รัตนาภรณ์ มูรี่ ผอ.โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ให้การต้อนรับ และให้ข้อมูลการติดตามความคืบหน้าตามบันทึกข้อตกลง
นายอรรถพล กล่าวว่า สช. ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนหาข้อเท็จจริงขึ้นตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการฯได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงทุกวัน เพื่อจัดเก็บข้อมูลว่ามีส่วนใดบ้างที่โรงเรียนจะต้องดำเนินการปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายโรงเรียนเอกชน และที่สำคัญคือการติดตามผลการดำเนินการของโรงเรียน และอีกส่วนหนึ่งตนได้สั่งการให้ไปช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ปกครองที่ไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.ชัยพฤกษ์
นายอรรถพล กล่าวอีกว่า วันนี้ตนมาเพื่อติดตามความคืบหน้าว่าโรงเรียนได้ดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง ตามที่ได้บันทึกข้อตกลงไว้ ซึ่งทางผู้บริหารได้ให้คำสัญญาไว้ว่าจะแก้ปัญหาโดยเร็ว ถ้าส่วนไหนที่ทาง สช. เห็นว่าจะต้องปรับปรุงแก้ไขก็จะแจ้งให้ดำเนินการโดยทันที ขณะนี้เบื้องต้นโรงเรียนได้รายงานว่ามีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างผู้บริหาร โดยถอดถอนและแต่งตั้งผู้อำนวยการโรงเรียนคนใหม่ แต่เท่าที่ทราบคือโรงเรียนยังไม่ได้แต่งตั้งตำแหน่งรองผู้อำนวยการ ตนจึงได้สั่งการให้รีบดำเนินการแต่งตั้งรองผู้อำนวยการตามตราสารที่ได้รับอนุญาต คือ แต่งตั้งรองผู้อำนวยการ 3 คน เพื่อให้การดูแลเป็นไปอย่างทั่วถึง โดยการแต่งตั้ง ผอ. และ รอง ผอ. นั้น เป็นอำนาจของผู้รับใบอนุญาต
ส่วนเรื่องของความปลอดภัยทางกายภาพของเด็ก ที่มีผู้ปกครองร้องมาว่าไม่ปลอดภัย และไม่สามารถเฝ้าระวังได้ ตนได้ให้โรงเรียนติดตั้งกล้องวงจรปิดแล้ว และที่มีผู้ปกครองบางส่วนแจ้งให้โรงเรียนปรับปรุงพื้นทางเดิน เพราะเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุแล้วเป็นอันตรายกับเด็กนั้น วันนี้ตนก็ได้มาตรวจสอบด้วย ซึ่งก็ได้รับรายงานว่าโรงเรียนได้ดำเนินการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ เรื่องของใบประกอบวิชาชีพจริงๆ คุรุสภาไม่ต้องชี้แจงมาทาง สช. ก็ได้ เพราะ สช. ใช้โปรแกรมที่เชื่อมโยงอยู่กับฐานข้อมูลของคุรุสภา ซึ่งจำนวนครูที่เห็นว่าใบประกอบวิชาชีพหมดอายุ 10 ราย เมื่อตรวจสอบกับคุรุสภาแล้ว พบว่า ทั้ง 10 รายนั้นได้ต่อใบอนุญาตเรียบร้อยแล้ว กล่าวคือ ในส่วนที่ได้รับมอบหมายให้เป็นครูประจำชั้น หรือครูผู้สอน ขณะนี้ยังไม่พบผู้ที่ไม่มีใบอนุญาต คงเหลือที่ต้องดำเนินการตรวจสอบในประเภทวิทยากร บุคคลภายนอก พี่เลี้ยง หรือตำแหน่งใดๆที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ ว่าได้เข้ามาทำหน้าที่ครูบ้างหรือไม่ ซึ่งถ้ามีก็ผิดกฎหมาย
ในส่วนนี้ก็ต้องขอเวลาสักระยะเนื่องจากประเภทดังกล่าวนี้มีจำนวนมาก เช่น ครูชาวต่างชาติ ที่โรงเรียนมีข้อมูลว่ามีมากกว่า 100 คน ตรวจสอบเอกสารว่ามีความถูกต้องครบถ้วน มีใบอนุญาต มีหนังสืออนุญาตจากคุรุสภา มีใบ Work permit (ใบอนุญาตทำงาน) มี Visa Non-B (Non-Immigrant Visa "B" : วีซ่าสำหรับชาวต่างชาติที่ได้รับอนุญาตให้ทำงาน) และมีสัญญาจ้างถูกต้องทั้งหมด 76 คน ที่เหลืออีก 51 ท่าน ต้องสอบถามว่าทางโรงเรียนได้จ้างมาหรือไม่ หรือจ่ายเงินเดือนแบบไหน จ้างมาทำหน้าที่อะไร และมี Visa Non-B กี่คน มี Work permit กี่คน ในส่วนนี้ ต้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง จึงต้องขอเวลาในการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี