สปสช.เปิดรับสมัครสถานพยาบาลใน กทม.เข้าร่วมเครือข่าย'บัตรทอง'

สปสช.เปิดรับสมัครสถานพยาบาลใน กทม.เข้าร่วมเครือข่าย'บัตรทอง'

วันจันทร์ ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2563, 18.10 น.

สปสช.เปิดรับสมัครสถานพยาบาลใน กทม.เข้าร่วมเครือข่าย"บัตรทอง" แทนของเดิมที่ถูกยกเลิก

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2563 นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้จัดทำประกาศ สปสช. เรื่อง เกณฑ์การตรวจประเมินเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2563 เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหน่วยบริการที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล หรือมาตรฐานของหน่วยงานที่กำกับดูแลก็ถือว่าผ่านเกณฑ์นี้แล้ว


สปสช.จึงขอเชิญชวนคลินิก/โรงพยาบาลเอกชนในพื้นที่ กทม.สมัครเข้าร่วมเป็นหน่วยบริการและเครือข่ายหน่วยบริการ ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค.2563 เป็นต้นไป โดยในส่วนของคลินิก/โรงพยาบาลเอกชน ที่ต้องการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิในพื้นที่ กทม.นั้น จะต้องมีสถานที่และเวลาให้บริการ ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่สะดวกต่อการเดินทางเข้ารับบริการ เปิดให้บริการทุกวัน รวมเวลาไม่น้อยกว่า 56 ชม./สัปดาห์ และให้บริการแก่ผู้มีสิทธิ ไม่เกิน 10,000 คน/หน่วยบริการ

มีบุคลากรประกอบด้วยแพทย์หรือแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว 1 คน พยาบาลวิชาชีพ 2 - 4 คน และบุคลากรด้านสาธารณสุข 6 คน และ ในกรณีที่จัดบริการทันตกรรม บริการเภสัชกรรม และบริการกายภาพบำบัด ให้มีทันตแพทย์ เภสัชกร และนักกายภาพบำบัด อย่างน้อยวิชาชีพละ 1 คน ต่อ ผู้มีสิทธิไม่เกิน 30,000 คน หรืออาจจัดให้มีแพทย์แผนไทยและหรือบุคลากรวิชาชีพอื่นๆ ที่จำเป็นต่อผู้มีสิทธิในพื้นที่

"หน่วยบริการปฐมภูมิต้องมีศักยภาพในการจัดบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค บริการตรวจวินิจฉัยโรค รักษาพยาบาล ตามหลักเวชศาสตร์ครอบครัวได้อย่างเป็นองค์รวมและเชื่อมโยงกับเครือข่ายหน่วยบริการเพื่อการส่งต่อ มีระบบการติดต่อสื่อสาร ที่สามารถขอรับคำปรึกษาจากหน่วยบริการประจำและหรือหน่วยบริการที่รับการส่งต่อได้อย่างรวดเร็ว มีระบบข้อมูลและสารสนเทศ เชื่อมโยงภายในเครือข่ายหน่วยบริการและ สปสช. อุปกรณ์ เครื่องมือ และยาและเวชภัณฑ์ ที่จำเป็นในการให้บริการอย่างพอเพียงเหมาะสมกับการจัดบริการแต่ละด้านตามรายการที่กำหนดในกฎกระทรวงตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล และ/หรือตามที่สำนักงานกำหนด" นพ.ศักดิ์ชัย กล่าว

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวต่อไปว่า นอกเหนือจากเปิดให้ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิแล้ว หน่วยบริการที่เปิดทำการทั้งในเวลาราชการ หรือนอกเวลาราชการ แต่ไม่เต็มเวลาตามเกณฑ์ 56 ชม./สัปดาห์ ก็สามารถเข้าร่วมสมัครเป็นหน่วยบริการร่วมได้เช่นกัน อาทิ คลินิกเวชกรรม คลินิกทันตกรรม คลินิกพยาบาล คลินิกกายภาพบำบัด และร้านขายยา ขย.1 ทั้งนี้ เพื่อร่วมจัดบริการระดับปฐมภูมิเฉพาะด้าน โดยเป็นสถานบริการที่ได้มาตรฐานตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาลหรือมาตรฐานของหน่วยงานที่กำกับดูแล

ซึ่งจะเห็นได้ว่าคลินิกที่ผ่านเกณฑ์ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือมาตรฐานตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล ก็แทบจะผ่านเกณฑ์หมดแล้ว เพียงแต่ สปสช.อาจมีบางรายการที่อยากให้ท่านจัดบริการเพิ่ม เช่น การดูแลผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคเพิ่มเติมให้ประชาชน คลินิกขนาดเล็กหากจัดบริการได้ไม่ครบถ้วนเพียงพอที่จะเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิ ก็ยังมีทางเลือกให้สมัครเป็นหน่วยบริการร่วมให้บริการในเครือข่ายหน่วยบริการได้

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคลินิกเดิมที่ถูกยกเลิกสัญญาจะยังไม่สามารถสมัครได้อย่างน้อยเป็นระยะเวลา 1 ปีหรือจะมีประกาศเป็นอย่างอื่น แต่ในกรณีที่มีผู้ซื้อคลินิกมาจากเจ้าของเดิมที่ถูกยกเลิกสัญญา หากผู้ดำเนินการและผู้ประกอบการไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันก็สามารถสมัครเข้าร่วมได้เช่นกัน ทั้งนี้ การสมัครเข้าร่วมไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ไม่มีค่าธรรมเนียมการสมัคร โดย สปสช.เริ่มเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค.2563 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ

ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถเข้ามาสมัครด้วยตนเองที่ สปสช.เขต 13 กทม. หรือทางเว็บไซต์ www.nhso.go.th และ https://bkk.nhso.go.th สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลข 063-210-5022 หรือ Line @UCBKK โดยตั้งเป้ามีคลินิก/โรงพยาบาลเอกชนเข้าร่วมเป็นเครือข่ายไม่น้อยกว่า 500 แห่ง โดยคณะทำงานได้มอบให้ สปสช.อำนวยความสะดวกลงทะเบียนหน่วยบริการประจำให้ประชาชนก่อน อย่างไรก็ตามเมื่อ สปสช.ลงทะเบียนแล้ว หากประชาชนรู้สึกไม่สะดวกที่จะไปรับบริการในภายหลังหรือประสงค์ที่จะเปลี่ยนหน่วยบริการประจำ ก็สามารถลงทะเบียนย้ายหน่วยบริการประจำได้ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2563 เป็นต้นไป

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top