อุตุฯออกประกาศเตือนพายุดีเปรสชั่นเคลื่อนเข้าเวียดนาม ส่งผลกระทบภาคอีสาน ภาคกลางและภาคตะวันออก มีฝนตกหนัก น้ำไหลหลาก ด้านปภ.ระบุ 20 จังหวัดได้รับผลกระทบน้ำท่วม- ดินสไลด์
เมื่อวันที่ 15ตุลาคม กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนพายุดีเปรสชั่น (ระดับ 2) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 16-19 ตุลาคม 2563 ฉบับที่ 1 ระบุว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง (พายุระดับ 1) ด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุดีเปรสชั่น(ระดับ 2) เคลื่อนลงทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยกำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนืออย่างช้าๆ คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน (ระดับ 3) และมีแนวโน้มจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางช่วงวันที่ 17-18 ตุลาคมนี้ ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง กับมีลมแรง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
อนึ่ง ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยยังคงมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และอ่าวไทยตอนบนคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกและภาคตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดการเดินเรือ
ด้าน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานอิทธิพลพายุระดับ 2 (ดีเปรสชั่น) ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคมถึงปัจจุบัน มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัย 20 จังหวัด ได้แก่ จ.นครราชสีมา ศรีสะเกษ สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ชลบุรี ระยอง กาญจนบุรี ชัยนาท ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พังงา กระบี่ ภูเก็ต ตรัง สตูล และสงขลา รวม 65 อำเภอ 168 ตำบล 528 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 15,740 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
ทั้งนี้ แบ่งเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบจำน้ำท่วมฉับพลันและน้ำไหลหลาก 18 จังหวัด รวม 57 อำเภอ 157 ตำบล 509 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 15,716 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 รายโดยปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังใน 6 จังหวัด ได้แก่ จ.นครราชสีมา 12 อำเภอ 35 ตำบล 94 หมู่บ้าน , จ.สระแก้ว 2 อำเภอ รวม 7 ตำบล 24 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 213 ครัวเรือน , จ.ฉะเชิงเทรา ที่ อ.พนมสารคาม ประชาชนได้รับผลกระทบ 35 ครัวเรือน , จ.สุราษฎร์ธานี ที่ อ.พระแสง ปัจจุบันระดับน้ำทรงตัว , จ.ตรัง 7 อำเภอ รวม 31 ตำบล 85 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 920 ครัวเรือน และ จ.สตูล น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 5 อำเภอ รวม 14 ตำบล 67 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,093 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
พื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย 3 จังหวัด ได้แก่ จ.ชัยนาท กาญจนบุรี และพังงา รวม 5 อำเภอ 8 ตำบล 16 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 24 หลัง ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างการฟื้นฟู ส่วนพื้นที่ได้รับผลกระทบจากดินสไลด์ 3 จังหวัด ได้แก่ จ.ภูเก็ต สตูล และกระบี่ รวม 4 อำเภอ 4 ตำบล 4 หมู่บ้าน ปัจจุบันเปิดใช้เส้นทางได้แล้ว
ทั้งนี้ ปภ.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งระบายน้ำ สนับสนุนเรือท้องแบน เครื่องยนต์ รถบรรทุกติดตั้งเครน รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย และแจกเครื่องอุปโภคบริโภค นอกจากนี้ได้เร่งสำรวจประเมินความต้องการความช่วยเหลือของผู้ประสบภัยให้ครอบคลุมทุกด้าน เพื่อช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง
ส่วนที่ จ.ตรัง นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผวจ.ตรัง กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วม ภายหลังพนังกั้นน้ำแตก ว่าได้ประสานชลประทานในการดำเนินการซ่อมแซม โดยเบื้องต้นจะนำหินแกรเมี่ยมไปวางที่พนังที่เสียหายเพื่อชะลอน้ำ ส่วนสถานการณ์ภาพรวมใน จ.ตรัง มีพื้นที่ประสบภัย 8 อำเภอ 27 ตำบล 3 เทศบาล 3 ชุมชน 83 หมู่บ้าน รวมกว่า 1,000 ครัวเรือน ขณะนี้ระดับน้ำหลายๆ จุด ลดลงแล้ว อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังคงมีการติดตามพยากรณ์อากาศ และสถานการณ์อย่างต่อเนื่องต่อไป โดยจะให้ทุกอำเภอแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนให้ทันท่วงที โดยเฉพาะจุดที่ลุ่มต่ำ ให้มีการอพยพไปในพื้นที่ปลอดภัย
“ขณะเกิดเหตุเนื่องจากฝนตกติดต่อกันชาวบ้านก็ได้รับการแจ้งเตือน แต่บางครัวเรือนยังไม่ได้รับผลกระทบ ครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบไปแล้วก็ได้สั่งการให้มีการช่วยเหลือ สำหรับ 2 อำเภอ ที่ประกาศภัยพิบัติ ที่ อ.เมือง และ อ.สิเกา สามารถใช้เงินทดรองราชการไปช่วยเหลือก่อน สำหรับเรื่องการจัดซื้อถุงยังชีพ นั้น ท้องถิ่นสามารถดำเนินการได้เลย ซึ่งวันที่ผ่านมาก็มีการแจกถุงยังชีพในเบื้องต้นแล้ว โดยมีการจัดสรรงบประมาณให้ทางอำเภอ 5 แสนบาท เป็นงบทดลองราชการที่อยู่ในอำนาจนายอำเภอ” นายขจรศักดิ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี