อุตุฯประกาศฉบับ 4 “เตือนภัย 8 จังหวัด” อันตราย”น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง ดินโคลนถล่ม คลื่นอ่าวไทยตอนล่างสูง 3 เมตร สงขลาเตรียมรับมือฝนระรอกใหม่

11 ธันวาคม 2568 ประกาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกฉบับที่ 4 (76/2568)เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง(มีผลกระทบช่วงวันที่ 11-16 ธันวาคม 2568)

มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างจะเคลื่อนผ่านปลายแหลมญวน อ่าวไทย และภาคใต้ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้และทะเลอันดามัน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ดังนี้

ช่วงระหว่างวันที่ 11-12 ธันวาคม 2568 มีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

วันที่ 13 ธันวาคม 2568  มีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
ช่วงวันที่ 14-16 ธันวาคม 2568  มีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา   มีฝนหนักหลายพื้นที่และมีฝนหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ขอให้ประชาชนระวังอันตรายที่เกิดจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และฝนที่ตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้พื้นที่เสี่ยงภัยเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่มในพื้นที่ลาดเชิงเขา

นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา ประชุมหัวหน้าส่วนราชการและ อปท.ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม เพื่อเตรียมการรับมือกรณีฝนอาจตกหนักในระลอกใหม่ ศูนย์อุตุนิยมวิทยารายงานคาดการณ์สภาพอากาศช่วงกลางเดือน ธ.ค. จะได้รับอิทธิพลจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ส่งผลให้บางพื้นที่อาจมีฝนตกหนัก แต่ จ.สงขลาจะมีฝนอยู่ในระดับปานกลาง โดยเฉพาะบริเวณ อ.ระโนด

“ช่วงเฝ้าระวังสำคัญคือวันที่ 14–17 ธ.ค. ซึ่งอาจมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางในพื้นที่ อ.เทพา สะบ้าย้อย นาทวี และ อ.หาดใหญ่ คาดการณ์ปริมาณฝนสะสมประมาณ 50–60 มิลลิเมตร ซึ่งยังสามารถบริหารจัดการได้ สถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้นหลังวันที่ 17–18 ธ.ค. โดยเฉพาะ อ.หาดใหญ่ ที่คาดว่าจะเข้าสู่เขตปลอดภัย”

นายรัฐศาสตร์ กล่าวว่าสถานการณ์น้ำในพื้นที่ยังคงต้องเฝ้าระวังในจุดลุ่มต่ำและพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมขัง และผลกระทบจากน้ำทะเลหนุน  ติดตามระดับน้ำในคลองสายหลักอย่างต่อเนื่อง พบว่าระดับน้ำในคลอง ร.1 ลดลงแล้วประมาณ 1.6 เมตร แสดงให้เห็นถึงการระบายน้ำที่ดีขึ้น  ประเมินว่าหากปริมาณฝนที่ตกลงมาไม่เกิน 250 มิลลิเมตร จังหวัดยังสามารถบริหารจัดการน้ำได้