ล็อกดาวน์‘แม่สอด’
2ชุมชนเสี่ยงโควิดระบาด
พบติดเชื้อเพิ่มเป็น5ราย
ทีมสอบสวนโรคเร่งเช็ค
เมียนมายังคงอ่วมหนัก
พบป่วยใหม่1.1พันคน
ไทยพบติดโควิด-19 เพิ่มอีก 10 ราย มาจากต่างประเทศส่วนที่ จ.ตาก ได้มีการประกาศล็อกดาวน์ ชุมชนบ้านถุงทองและชุมชนมัสยิดมะดีนะฮ์ ใน อ.แม่สอด หลังพบผู้ติดเชื้อรวม 5 คน ขณะที่ สธ. เตรียมเสนอ ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กในสัปดาห์นี้ เพื่อพิจารณาข้อเสนอลดวันกักตัวผู้เดินทางเข้าประเทศไทย เหลือ 10 วัน ด้าน เมียนมา พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,137 คน ภายในวันเดียว ส่งให้ยอดสะสมอยู่ที่เกือบ 33,500 ราย ขณะที่ทางการเริ่มผ่อนคลายมาตรการเพื่อพยุงเศรษฐกิจ
ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 รายงานสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม 2563 ว่า พบผู้ป่วยรายใหม่ 10 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ เนปาล 1 ราย สหรับอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย ญี่ปุ่น 1 ราย สหรัฐ 1 ราย โปแลนด์ 1 ราย สหราชอาณาจักร 3 ราย อยู่ใน State Quarantine ส่วนอีก 2 ราย จากการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกและผู้ติดเชื้อในชุมชนจาก จ.ตาก เป็นชาวเมียนมา ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสม 3,679 ราย รักษาหายเพิ่ม 11 คน รวมหายป่วยแล้ว 3,478 ราย เสียชีวิตสะสมคงที่ 59 ราย
เร่งสอบสวนโรค9ผู้ใกล้ชิด2ผู้ติดเชื้อ
อีกด้านหนึ่ง ทีมควบคุมโรคติดต่อ รพ.แม่สอดเร่งสอบสวนโรค 9 ผู้ใกล้ชิดสามีภรรยาชาวเมียนมาป่วยโควิด-19 พร้อมเร่งสอบสวนโรคกลุ่มเสี่ยงสูงที่สัมผัสโดยตรง ซึ่งมีจำนวน 5 คนที่เป็นสมาชิกในครอบครัว และพบกลุ่มเสี่ยงชาวต่างด้าวอีก 4 คน ในมัสยิดเดียวกัน
เจ้าหน้าที่นำรถตรวจเชื้อชีวนิรภัยพระราชทาน 5 คัน ตั้งจุดตรวจกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 ในพื้นที่ชุมชนอิสลามแม่สอด และชุมชนบ้านถุงทองแม่สอด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก หลังมีการตรวจปฏิบัติการเชิงรุกตั้งแต่วันที่ 12-13 ตุลาคม และพบผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 2 คน ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ เป็นสามีภรรยาชาวเมียนมา จากจำนวนกลุ่มตัวอย่าง 2,995 คน
คาดติดเชื้อจากสมาชิกในครอบครัว
สำหรับผู้ติดเชื้อทั้ง 2 คน ถูกส่งตัวไปรักษาที่ รพ.แม่สอดทันที พร้อมเร่งสอบสวนโรคกับผู้เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงสูงที่สัมผัสโดยตรง ซึ่งมีจำนวน 5 คนที่เป็นสมาชิกในครอบครัว และพบกลุ่มเสี่ยงชาวต่างด้าวอีก 4 คน ในมัสยิดเดียวกัน ขณะนี้ต้องรอผลตรวจสอบอย่างเป็นทางการ โดยสองสามีภรรยาที่ติดเชื้อโควิด-19 เป็นคนสุขภาพแข็งแรง ไม่แสดงอาการผิดปกติ พักอาศัยในชุมชนมานานหลายปี คาดว่าอาจติดเชื้อจากบุตรชาย หรือสมาชิกในครอบครัวที่มีอาชีพค้าขายตามแนวชายแดน
ตากพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น5ราย
ขณะที่เพจเฟซบุ๊กหมอแล็บแพนด้า ได้เผยความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระบุข้อความว่า พบผู้ติดเชื้อที่อ.แม่สอด จ.ตาก เพิ่มเป็น 5 รายแล้วครับ สรุปคร่าวๆ ได้ดังนี้ 1. พบผู้ติดเชื้อชาวเมียนมาในพื้นที่ อ.แม่สอดจำนวน 2 บวก 3 ราย รวมเป็น 5 ราย 2. ควบคุมพื้นที่เสี่ยงเฉพาะจุด(ชุมชนมะดีนัสฮ์ ชุมชนถุงทอง) -งดศาสนกิจในมัสยิด รวมทั้งวัดใน5 ชุมชน - รร.หยุด5แห่ง 7วัน (เริ่มวันจันทร์) ให้เรียนระบบออนไลน์แทน -สถานบริการ ให้ปิดชั่วคราว 7วัน -ห้างร้าน ให้เข้มงวดมาตรการคัดกรอง การป้องกัน รวมถึงจำนวนคนในร้าน
3. ตั้งด่านคัดกรองบริเวณแนวต่อแต่ละอำเภอติดชายแดน (เริ่มบ่ายนี้) 4. ปิดด่านถาวร(สะพาน2) และ ท่าข้ามธรรมชาติ 7 วัน เพื่อจัดระเบียบ จัดระบบให้เกิดความเรียบร้อยและปลอดภัยมากที่สุด
ตากประกาศล็อกดาวน์2 ชุมชน
ทางด้าน นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้เรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการทุกอำเภอตามแนวชายแดนเป็นการด่วน หลังการสอบสวนโรคผู้ใกล้ชิดสามีภรรยาชาวเมียนมาที่ติดเชื้อโควิด-19 ครั้งล่าสุด พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 3 คน ทำให้ขณะนี้ในพื้นที่ อ.แม่สอด มีผู้ติดเชื้อ รวม 5 คน ในพื้นที่ชุมชนบ้านถุงทอง โดยการประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียด และไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนร่วมสังเกตการณ์
ขณะที่ทีมสอบสวนโรคได้นำผู้ใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยงสูงอีกหลายคนในชุมชนบ้านถุงทองเข้าตรวจเชื้อโควิด-19 เพิ่ม แต่ผลเป็นลบทั้งหมด ซึ่งเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและสาธารณสุขจังหวัด ได้ล็อกดาวน์ 2 ชุมชุมเสี่ยง คือ ชุมชนบ้านถุงทอง และ ชุมชนมัสยิดมะดีนะฮ์ โดยห้ามบุคคลเข้า-ออกก่อนได้รับอนุญาตเด็ดขาด
ศบค.ชุดเล็กเตรียมหารือลดวันกักตัว
มีรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุข เตรียมเสนอที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ชุดเล็ก ภายในสัปดาห์หน้านี้ พิจารณาข้อเสนอในการลดวันกักผู้ที่ตัวเดินทางเข้าประเทศไทย ในสถานที่กักกันตัวที่รัฐจัดให้ จากเดิม 14 วัน เหลือ 10 วัน โดยที่ผ่านมา ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อ นักวิชาการที่ร่วมกันศึกษาข้อมูลพบว่า การลดวันกักตัว จาก 14 วัน เหลือ 10 วัน ไม่มีความต่างกัน อาจจะมีความเสี่ยงบ้างแต่ไม่มาก และอยู่ในศักยภาพควบคุมป้องกันการแพร่เชื้อระบาดได้
ทั้งนี้ เพื่อลดอุปสรรค หากเปิดประเทศ ซึ่งการกักตัว 14 วัน ใช้เวลานาน ค่าใช้จ่ายมากขึ้น และหลายประเทศได้มีการลดวันกักตัวลงแล้ว ในส่วนของประเทศไทย จึงต้องนำมาหารือถึงประเด็นนี้ แต่ยังคงมาตรการความปลอดภัยไว้
เมียนมาติดเชื้อวันเดียว1,137คน
ส่วนที่เมียนมา สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงน่าเป็นห่วง มีผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มเป็นจำนวนมาก โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 1,137 คน ยอดสะสมอยู่ที่เกือบ 33,500 คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 34 คน ยอดรวมอยู่ที่ 799 คน ขณะที่ทางการเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคลงบ้างแล้ว
ทั้งนี้ ในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา โรงงานผลิตเสื้อผ้าหลายแห่งในเมืองย่างกุ้งได้รับอนุญาตให้เปิดทำการอีกครั้งเพื่อพยุงเศรษฐกิจแม้ว่าสถานการณ์แพร่ระบาดจะยังไม่ดีขึ้น และล่าสุดพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นรายแรกในรัฐกะยา ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ เป็นพยาบาลวัย 35 ปี ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากเมืองย่างกุ้งหลังไปเข้ารับการฝึกอบรมที่โรงพยาบาลหู คอ จมูก ในย่างกุ้ง เป็นเวลานาน 9 เดือน
ปารีสเงียบเหงาหลังเคอร์ฟิวคืนแรก
ส่วนที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ประกาศเคอร์ฟิวเป็นคืนแรก ปรากฎว่า ในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาตั้งแต่เวลา 21.00 น. ถึง 06.00 น. ท้องถนนอยู่ในสภาพเงียบสงบ ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กลับมาระบาดหนักอีกครั้ง โดยมีผลบังคับใช้ในกรุงปารีส และตามเมืองใหญ่อีก 8 แห่ง ไปจนถึงวันที่ 1 ธันวาคม ครอบคลุมประชากรราว 20 ล้านคน ฝรั่งเศสพบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 30,000 คน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ถือเป็นตัวเลขสูงสุด นับตั้งแต่โควิด-19 เริ่มระบาดเมื่อหลายเดือนก่อน
ติดเชื้อทั่วโลก39.6ล้านราย
สำหรับการสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นับถึงช่วงเย็นวันที่ 17 ตุลาคม 2563 พบว่า ทั่วโลกมียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 39,633,188 ราย เสียชีวิต 1,109,833 ราย รักษาหา 29,678,446 ราย สหรัฐ ติดเชื้อ 8,288,278 ราย เสียชีวิต 223,644 ราย อินเดีย ติดเชื้อ 7,432,680
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี