วันที่ 26 ตุลาคม 2563 ที่บริเวณหน้าศาลาสมโภชน์กรุงรัตน์โกสินทร์สองร้อยปี ข้างมณฑบพระสยามเทวาธิราชจำลอง บนถนนมหาดไทย ตรงข้างเทศบาลเมืองอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้มีมวลชนคนใส่เสื้อเหลืองชาวอำเภอ อรัญประเทศ จำนวนมาก เดินทางมารวมตัวกันเพื่อประกาศเจตนารมณ์ในการร่วมกันปกป้องสถานบันพระมหากษัตริย์
โดยมีนายบรรพต ศรีพรม กำนันตำบลบ้านใหม่หนองไทรฯในฐานะประธานชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านอำเภออรัญประเทศ ได้นำสมาชิกชมรมฯใส่เสื้อเหลืองมาร่วมชุมนุมปกป้องสถานบัน นอกจากนี้นาบำรุง ล้อเจริญวัฒนชัย ประธานหอการค้าจังหวัดสระแก้ว ได้นำสมาชิกหอการค้าจังหวัดสระแก้ว มาร่วมในการแสดงพลังปกป้องสถานบัน โดยมีนายนายสุรศักดิ์ ชิงนวรรณ์ ส.ส.เขต 3 จังหวัดสระแก้ว (พปชร.) มาร่วมแสดงความจงรักภักดีในการปกป้องสถาบันด้วย
ซึ่งบรรยากาศการมารวมตัวกันในครั้งนี้ของคนเสื้อเหลืองชาวอรัญประเทศ ได้มีการนำป้ายไวนิลเขียนข้อความว่า “ชาวอรัญประเทศ ปกป้อง เทิดทูน สถาบันพระมหากษัตริย์” นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านเขียนข้อความบนกระดาษขาวแผ่นใหญ่ระบุรักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ จำนวนมากมาชูเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีสถาบันพระมหากษัตริย์
ต่อมานายบรรพต ศรีพรม ประธานชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน อำเภออรัญประเทศฯได้อ่านแถลงการณ์ชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนชาวอำเภออรัญประเทศฯขอแสดงจุดยืนในการปกป้องสถานบันพระมหากษัตริย์ จะไม่ให้ใครมาลบหลู่หรือจาบจ้วงอย่างเด็ดขาด เพราะชาวอรัญประเทศทุกคนจะปกป้องสถานบันฯด้วยชีวิต โดยมีนายบำรุง ล้อเจริญวัฒนชัย ประธานหอการค้าจังหวัดสระแก้ว และนายสุรศักดิ์ ชิงนวรรณ์ สส.เขต3 จ.สระแก้ว ร่วมเป็นสักขีพยานและร่วมแสดงจุดยืนร่วมกัน ก่อนทั้งหมดจะร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงสดุดีมหาราชา อย่างกึกก้อง โดยใช้เวลารวมพลคนเสื้อเหลืองอรัญประเทศปกป้องสถานบัน เป็นเวลา 1 ชม.เศษ ก่อนแยกย้ายกันกลับ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศฯมาดูแลความสงบเรียบร้อยโดยรอบ
วันเดียวกัน ที่หน้าเสาธง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี นายแพทย์ปรเมษฐ์ กิ่งโก้ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี ได้นำเจ้าหน้าที่ส่วนราชการ บุคคลกร และพนักงานในสังกัด พร้อมในกันทำกิจกรรม “แสดงพลังความจงรักภักดี ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์” ต่อพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงที่ 10 ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้ผู้ร่วมงานได้สวมเสื้อสีเหลือง ซึ่งเป็นสีประจำวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พร้อมอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 และรัฐกาลที่ 10 ชูเหนือหัว เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี
โอกาสนี้นายแพทย์สาธารณะสุขได้นำกล่าวถวายคำสัตย์ ความว่า “ข้าพเจ้าจะจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ข้าพเจ้าจะดำรงไว้ซึ่งเกียรติภูมิของความเป็นชาติไทย และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ยิ่งชีพจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ข้าพเจ้าซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ และจะเทิดทูนธำรงรักษาไว้ซึ่งราชวงศ์จักรีตลอดไป” เสร็จแล้วได้ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ต่อด้วยกล่าวแสดงพลังปกป้องสถาบันทรงพระเจริญ
ขณะที่บริเวณหน้าองค์การบริหารส่วนตำบลเขาขาว ต.เขาขาว อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช มีกลุ่มคนท้องถิ่น นำโดยนายเกษม สังข์แก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขาขาว นำคณะผู้บริหาร ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง ร่วมกับพลังมวลชน ภาคีเครือข่าย และชาวบ้านกว่า 500 คน พร้อมใจสวมใส่เสื้อสีเหลือง และนำภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ร.9 และ ร.10 ธงชาติไทย รวมทั้งป้ายไวนิลระบุข้อความแสดงเจตนารมณ์ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ก่อนจะรวมตัวกันหน้าสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลเขาขาว แล้วเคลื่อนขบวนไปตามถนนด้านหน้า อบต.มุ่งหน้าไปตามสถานที่สำคัญในพื้นที่
ทั้งวัดโรงเรียน และชุมชน ซึ่งได้รับความสนใจกับชาวบ้านสองฝั่งถนน รวมทั้งผู้ที่ขับรถผ่านถนนเส้นดังกล่าวต่างส่งเสียงทรงพระเจริญ ตลอดเส้นทางที่ขบวนผ่าน ก่อนที่กลุ่มพลังมวลชนทั้งหมดจะเดินกลับมาหน้าสำนักงาน อบต.เพื่อร่วมกันร้องเพลงชาติ เพลงสรรเสริญพระบารี และพร้อมใจเปล่งเสียง ทรงพระเจริญ หลังเสร็จกิจกรรมกลุ่มพลังมวลชนทั้งหมด ทยอยเดินทางกลับบ้านอย่างสงบ โดยไม่มีเหตุการณ์วุ่นวาย อย่างไรก็ตามการรวมตัวของผู้บริหาร ข้าราชการ พนักงานและลูกจ้างขององค์การบริหารส่วนตำบลเขาขาว ครั้งนี้ ถือเป็นแห่งแรกของจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่กลุ่มมวลชนคนท้องถิ่น ออกมารวมตัวแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
ทั้งนี้ ที่บริเวณหน้าองค์การบริหารส่วนตำบลคลองขนาก หมู่ที่ 2 ตำบลคลองขนาก อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง นาย ชูชาติ อินทร์ใย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองขนาก พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลคลองขนาก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พนักงานส่วนตำบล พนักงานจ้าง ผู้นำชุมชน และประชาชนในตำบลคลองขนากจำนวนกว่า 200 คน ได้พร้อมใจกันใส่เสื้อสีเหลือง ถือธงชาติและธงตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์ ร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี
เพื่อเป็นการปกป้องและเทิดทูนสถาบันสำคัญของชาติ อันมีสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้ดำรงคงอยู่ มั่นคง วัฒนาสถาพรสืบไป และยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความร่วมมือร่วมใจเสริมสร้างความมั่นคงแก่ประเทศชาติ และเพื่อให้ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหากำหนดมาตรการตรวจสอบ ติดตาม เฝ้าระวังการกระทำล่วงละเมิด ถือเป็นหน้าที่สำคัญยิ่งยวดในอันที่จะเชิดชูสถาบันนี้ไว้ด้วยความจงรักภักดีและปกป้องรักษาพระบรมเดชานุภาพต่อไป
ส่วนที่ลานจัตุรัส หน้าหอนาฬิกาหาดใหญ่ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ได้มีพลังมวลชนชาวหาดใหญ่ ทั้งไทยพุทธ มุสลิม และชาวไทยเชื้อสายจีน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ กว่า 3,000 คน พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อเหลือง และถือธงชาติไทย พร้อมกับพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง รัชกาลที่ 9 และ 10 ร่วมกันจัดกิจกรรมรวมพลคนรักสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะการปกป้องสถาบันพระมาหากษัตริย์ ที่กำลังถูกจาบจ้วง และต้องการปฏิรูปจากกลุ่มเยาวชนที่เคลื่อนไหวทางการเมือง
โดยหลังจากมีการเคลื่อนขบวนมารวมตัวกันที่บริเวณลานจัตุรัส หน้าหอนาฬิกาหาดใหญ่ ก็ได้มีการขึ้นพูดแสดงความรู้สึก และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีต่อประเทศชาติ และพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า และทำให้ประเทศไทยสามารถดำรงอยู่มาได้จนถึงปัจจุบันโดยที่ไม่ต้องตกเป็นทาสใคร
นอกจากนี้ยังมีการร่วมกันร้องเพลงที่มีความหมายเทิดทูนสถาบัน และสร้างความรัก ความสามัคคี ของคนในชาติจำนวน 6 เพลง ทั้ง เพลงล้นเกล้าเผ่าไทย , เพลง รูปที่มีทุกบ้าน , เพลงที่สุดในโลก , เพลงรักกันไว้เถิด , เพลงขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป และ เพลง รักพ่อ... ไม่มีวันพอเพียง พร้อมๆไปกับการโบกสะบัดธงชาติไทย และชูพระบรมฉายาลักษณ์ขึ้นเอาไว้เหนือหัว ซึ่งเป็นการประกาศจุดยืนพร้อมที่จะปกป้องสถาบันให้คงอยู่กับประเทศไทย
ทั้งนี้ที่บริเวณลานจัตุรัส หน้าหอนาฬิกาหาดใหญ่ แห่งนี้ ในช่วงวันที่ 19 ตุลาคม ที่ผ่านมา ก็ได้มีการรวมตัวกันของกลุ่มเครือข่ายเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ในภาคใต้ ซึ่งได้มีการรวมตัวกันหลายพันคนเช่นเดียวกัน และได้ออกมาแสดงจุดยืนทางด้านการเมือง โดยเฉพาะการขอให้มีการปฏิรูประบบการศึกษาไทย รวมทั้งตัวครูผู้สอน และเรียกร้องทางการเมืองขอให้นายกลาออก แต่ยังไม่ได้มีการกล่าวพาดพิง หรือเรียกร้องปฏิรูปสถาบัน
และทางกลุ่มคนเสื้อเหลืองก็ได้มีการส่งตัวแทนออกมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย โดยพร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นของเหล่าเยาวชน แต่ต้องไม่ละเมิด หรือจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์โดยเด็ดขาด ซึ่งทางกลุ่มคนเสื้อเหลืองในหาดใหญ่ ก็พร้อมที่จะรวมตัวกันปกป้องสถาบันจนถึงที่สุด
ขณะที่ นายสนิท กุลธรรม ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดปราจีนบุรี ได้ยื่นหนังสือปกป้องสถาบันให้กับนายวิธรัช รามัญ นายอำเภอประจันตคาม โดยเป็นการยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด และนายกรัฐมนตรี ณ ที่ว่าการอำเภอประจันตคาม โดยมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และนักเรียน ร่วมในการยื่นหนังสือครั้งนี้ รวมกว่า 200 คน ซึ่งสถานการณ์เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย
กลุ่มผู้ร่วมยื่นหนังสือในครั้งนี้มีการถือป้ายพร้อมข้อความเช่น ชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี ร่วมปกป้อง เทิดทูน ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ รักในหลวง ห่วงลูกหลาน ร่วมปกป้องเทิดทูนสถาบัน เหนือเกล้าชาวประชา คือพระราชาของคนไทย ร่วมใจปกป้องสถาบัน เรารักในหลวง ประวัติศาสตร์ชาติไทยไม่เป็นเมืองขึ้นของใครในโลกนี้เพราะเรามีพระมหากษัตริย์
จากที่มีเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มนิสิตนักศึกษา เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ต่อต้านรัฐบาล จนมีการออกมาชุมนุมทั่วประเทศ ได้มีการปราศรัยและปลุกระดมให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น รวมถึงพาดพิงและก้าวล่วงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งทางชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อำเภอประจันตคาม เห็นว่าการกระทำดังกล่าวได้เกินขอบเขต จึงออกมาปกป้องสถาบันสำคัญของชาติด้วยอุดมการณ์และความจงรักภักดีที่มีต่อสถาบัน
นายสนิท กุลธรรม ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า การเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเราอยู่ภายใต้พระประมุข เราต้องปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ในฐานะที่ตัวผมเป็นประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดปราจีนบุรี อุปนายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทยทำความดีให้กับบ้านเมืองเราก็ภูมิใจ วันนี้ก็มีอ่านแถลงการณ์ ปฏิญาณตนยื่นหนังสือ “เรารักทุกฝ่ายนะครับ สถานการณ์ตอนนี้มีการจาบจ้วงพระมหากษัตริย์ ซึ่งพระมหากษัตริย์เราต้องยกไว้เหนือหัว ประเทศไทยถ้าเราไม่มีพระมหากษัตริย์เราจะอยู่ยาก ขั้นตอนต่อไปต้องรอฟังจากสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทยว่าจะขับเคลื่อนไปอย่างไร ซึ่งในวันนี้ได้มีการยื่นหนังสือทั่วทั้งจังหวัดปราจีนบุรี อยากจะฝากถึงน้องๆทุกคนไม่อยากให้ไปก้างล่วงถึงพระมหากษัตริย์ จะทำเรื่องขับไล่ใครเราไม่ว่า จะขอบอกว่าการที่จะไปล้วงล้ำพระมหากษัตริย์มันไม่ดี”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี