นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า ระหว่างเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนมกราคม ของทุกปี ประเทศไทยเข้าฤดูหนาวมีอุณหภูมิต่ำลงทำให้ฝุ่นละอองไม่สามารถกระจายตัว จึงทำให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM2.5 และฝุ่นละอองขนาดใหญ่หรือ PM10 โดยเฉพาะพื้นที่ในเมืองอย่างกรุงเทพมหานครและ 17 จังหวัดภาคเหนือต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ดังกล่าว
ในส่วนของกรมควบคุมมลพิษ มีแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งหลายหน่วยงานนำแผนไปปฏิบัติและปรับปรุงการดำเนินงานให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินการควบคุมปริมาณการจำกัดใช้รถขนาดใหญ่และโดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล สร้างความเข้าใจให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดำเนินชีวิตไม่ให้ฝุ่นละออง PM2.5 ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ผ่านคณะทำงานสื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ในการหารือกับกลุ่มอุตสาหกรรม ด้านการจราจรและท่องเที่ยว เข้ามามีส่วนร่วมช่วยลดค่า PM2.5
สำหรับมาตรการป้องกันในพื้นที่ต่างจังหวัดโดยเฉพาะภาคเหนือ รัฐบาลได้พัฒนาแอพพลิเคชั่นจัดระเบียบการเผา หรือจองเบิร์น เข้าคิวการเผา เพื่อไม่ให้เกิดความหนาแน่นของการเผาที่ก่อผลกระทบ PM2.5 และ PM10 เป็นการจัดระเบียบการเผาในพื้นที่เกษตร การเผาป่าและการเผาในที่โล่ง ควบคู่กับการมาตรการบริหารจัดการเชื้อเพลิงก่อนถึงฤดูกาล หรือชิงเผา เพื่อลดปริมาณเชื้อเพลิงในพื้นที่ไหม้ซ้ำซาก และเมื่อถึงห่วงที่เกิดไฟป่า ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในระดับจังหวัด เข้ามาทำงานร่วมกับภาคประชาชน นอกจากนี้ ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. ยังได้ดำเนินโครงการปลูกป่าและป้องกันไฟป่า เพื่อช่วยสนับสนุนท้องถิ่นชุมชนให้มีความพร้อมเผชิญปัญหาไฟป่า ป้องกันไฟป่าและดับไฟป่าได้อย่างรวดเร็ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี