พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระปฐมบรมราชโองการพระราชทานอารักขาแก่ประชาชนชาวไทยความว่า “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอดและครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” แสดงถึงพระราชปณิธานอันแน่วแน่ในการสืบสานพระราชภารกิจของพระบรมราชชนกนาถ
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานพระราชดำริให้ดำเนินโครงการต่างๆมากมาย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ราษฎร ตลอดระยะเวลาที่ครองราชย์นานกว่า 70 ปีทรงให้ความสำคัญในเรื่องน้ำมากเป็นพิเศษ จะเห็นได้จากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่กรมชลประทานได้ถวายงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท ตั้งแต่โครงการอันเนื่อง มาจากพระราชดำริโครงการแรกคือ โครงการอ่างเก็บน้ำเขาเต่า ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จนถึงปัจจุบันเกิดผลเป็นรูปธรรมมีมากกว่า 3,000 โครงการ มีทั้งโครงการชลประทานขนาดเล็ก ขนาดกลาง ไปจนถึงโครงการขนาดใหญ่กระจายอยู่ทั่วประเทศ
นายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รักษาการอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่าปีที่กรมชลประทานดำเนินงานสนองพระราชดำริภายใต้การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์กรมชลประทาน 20 ปี มีความก้าวหน้าภาพรวมของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันรวมทั้งสิ้น 3,481 โครงการ ในจำนวนนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ 3,206 โครงการ สามารถเก็บกักน้ำได้เพิ่มขึ้น 6,771 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) มีพื้นที่รับประโยชน์ 4.9 ล้านไร่ และมีราษฎรได้รับประโยชน์กว่า 589,000 ครัวเรือนขยายพื้นที่ชลประทานได้ 3.41 ล้านไร่ และในปี 2563 แล้วเสร็จอีก14 โครงการ สามารถกักเก็บน้ำได้ ความจุเก็บกักน้ำรวม 2.5 ล้าน ลบ.ม.เพิ่มพื้นที่ชลประทานได้ 2,700 ไร่ มีพื้นที่รับประโยชน์รวม 8,189 ไร่ และราษฎรได้รับประโยชน์กว่า 2,091 ครัวเรือน
นอกจากนี้ในปี 2564 กรมชลประทานจะยังคงเร่งรัดขับเคลื่อนโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริอีก 8 โครงการ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถเก็บกักน้ำได้เพิ่มขึ้น 11.56 ล้านลบ.ม.มีพื้นที่รับประโยชน์ 23,088 ไร่ และมีราษฎรได้รับประโยชน์กว่า 8,700 ครัวเรือน ขยายพื้นที่ชลประทานได้ 12,050 ไร่
สำหรับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่กรมชลประทานจะเร่งรัดขับเคลื่อน เพื่อสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด ที่สำคัญๆ ที่กำลังดำเนินการก่อสร้าง เช่น
โครงการอ่างเก็บน้ำลำน้ำชีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เดิมชื่อ อ่างเก็บน้ำยางนาดี พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานพระราชดำริให้พิจารณาเลื่อนพื้นที่ที่จะสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำลำน้ำชีใหม่ เพื่อลดผลกระทบต่อราษฎร จากนั้นกรมชลประทานได้ดำเนินสำรวจออกแบบ ขณะนี้่อยู่ระหว่างการก่อสร้างอาคารที่ทำการ บ้านพักชั่วคราว ถนนเข้าหัวงาน พร้อมเตรียมที่จะก่อสร้างตัวเขื่อน และอาคารประกอบ
อ่างเก็บน้ำลำน้ำชีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีความจุ 70.21 ล้านลบ.ม. เป็นเขื่อนดินสันเขื่อนกว้าง 9 เมตร ความยาว 1,580 เมตร สูง 24 เมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2567 เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะเป็นแหล่งน้ำต้นทุนสนับสนุนสถานีสูบน้ำตามลำน้ำชี ในเขตจังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา และขอนแก่น มีพื้นที่ได้รับประโยชน์ฤดูฝน 75,000 ไร่ และในฤดูแล้ง 30,000 ไร่ ราษฎรได้รับประโยชน์ 27 หมู่บ้าน กว่า 22,000 คน ในพื้นที่ อ.หนองบัวระเหว อ.บ้านเขว้า และ อ.เมืองชัยภูมิ อีกทั้งยังจะทำให้มีน้ำใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคเพียงพอตลอดปี สนับสนุนแหล่งน้ำเพื่อการทำประมง ช่วยชะลอน้ำไม่ให้ไหลลงด้านล่างเร็วเกินไป สามารถบรรเทาอุทกภัยบริเวณพื้นที่ท้ายอ่างเก็บน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โครงการอ่างเก็บน้ำลำสะพุงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริอีกโครงการที่กำลังก่อสร้าง เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลางความจุ 48 ล้านลบ.ม. คาดแล้วเสร็จปี 2567 เมื่อแล้วเสร็จจะทำให้มีน้ำเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภคและผลิตประปาในพื้นที่ตลอดทั้งปี สร้างความมั่นคงด้านน้ำให้ภาคเกษตรกรรมในฤดูฝนกว่า 40,000 ไร่ และในฤดูแล้งอีกกว่า 8,000 ไร่ โดยมีประชาชนได้รับประโยชน์จากโครงการประมาณ 5,145 ครัวเรือน หรือประมาณ 20,580 คน
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริอีกโครงการหนึ่งที่กรมชลประทานกำลังดำเนินขับเคลื่อน คือ โครงการอ่างเก็บน้ำลำห้วยบอนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลโซง อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2539 ขณะนี้กรมชลประทานได้ดำเนินการสำรวจออกแบบแล้วเสร็จ ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนเตรียมการก่อสร้าง
อ่างเก็บน้ำลำห้วยบอนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง มีความจุในระกักเก็บ 6.02 ล้านลบ.ม. ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 6 ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2568 เมื่อแล้วเสร็จจะสามารถส่งน้ำให้พื้นที่การเกษตรได้ประมาณ 5,500 ไร่
ในปี 2564 กรมชลประทานยังจะขับเคลื่อนดำเนิน โครงการอ่างเก็บน้ำลำเจียงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดชัยภูมิ อีกโครงการหนึ่ง ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลางมีความจุ 45.17 ล้านลบ.ม สร้างปิดกั้นลำน้ำเจียงซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของลำน้ำชี ในท้องที่อำเภอภักดีชุมพล และ อำเภอหนองบัวแดง คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2567 มีพื้นที่รับประโยชน์ 30,000 ไร่
นอกจากนี้กรมชลประทานยังได้ส่งเสริมการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด ให้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เกิดสัมฤทธิผลสู่พสกนิกรทั่วทั้งแผ่นดิน โดย ได้ดำเนินการสนับสนุนโครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เช่น ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ศูนย์อำนวยการและประสานงานพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และโครงการพัฒนาพื้นที่ป่าขุนแม่กวงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นต้น
รวมทั้งยังได้ซ่อมแซมบำรุงรักษาโครงการอันเนื่องพระราชที่ดำริที่มีอยู่ให้อยู่ในสภาพดี สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากโครงการใดที่มีศักยภาพที่จะใช้ประโยชน์ได้เพิ่มเติมก็จะทำการปรับปรุงเพื่อต่อยอดให้มีศักยภาพสูงขึ้นกว่าเดิม ตลอดจนได้สนับสนุนการพัฒนาโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริอื่นๆ เช่น ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงเพื่อแก้ปัญหาพื้นที่เฉพาะ และโครงการรักษ์น้ำเพื่อพระแม่ของแผ่นดิน เป็นต้น ทั้งนีี้เพื่อให้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมีสภาพดีพร้อมใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพอยู่ตลอดเวลา
“น้ำคือชีวิต” โครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีส่วนสำคัญที่ช่วยเติมเต็มหรือต่อยอดคุณภาพชีวิตของราษฎรให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน ซึ่งกรมชลประทานได้สนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด โครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อสร้างความผาสุกให้กับพสกนิกรชาวไทยทั่วทั้งประเทศตลอดไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี