บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) นครราชสีมา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) นครราชสีมาคึกคักและเข้มคนขึ้นทุกวัน
ในส่วนการแข่งขันการเลือกตั้ง "นายก อบจ.นครราชสีมา" นอกจากจะมีบุคคลอื่นแล้ว ยังมีอดีตนายก อบจ.นครราชสีมา ช่วงปี 2552-2555 ที่น่าจับตามองอีก 1 คนและเป็นตัวเต็งที่มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะได้เข้าไปบริหาร อบจ.นครราชสีมาอีกสมัย คือ "นายแพทย์สำเริง แหยงกระโทก" เบอร์ 3 หัวหน้ากลุ่มรักษ์โคราช อดีตสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา อดีตข้าราชการกรวงสาธารณสุขระดับ 10 เข้ารับสายสะพาย 4 สาย
แต่ด้วยอุดมการณ์ต้องการพัฒนาบ้านเกิด จึงสมัครลดตำแหน่งตนเองจากระดับ 10 มาเป็นระดับ 9 ตำแหน่งสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาร่วมกว่า 10 ปี โดยใช้สโลแกนว่า "สู้อำนาจเงิน ด้วยศรัทธาประชาชน" การหาเสียงด้วยนโยบาย สภาประชาชน ปลุกฟื้นเศรษฐกิจบ้านเอง ขอพลังชาวโคราช สร้างประวัติศาสตร์ พลิกโฉม ปฏิรูป อบจ.นครราชสีมา แก้ไขความเดือดร้อนของชาวโคราช สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างเศรษฐกิจ สร้างนโยบาย 12 ด้าน โปร่งใส ไม่ขัดแย้ง ไร้เงินทอน ตรวจสอบได้ "1 เสียงของท่าน บอกต่อ 10 คน : สู้...อำนาจเงิน (ให้จบที่รุ่นเรา)"
ส่วนแนวนโยบายติดป้ายระบุว่า "รวมพลังกับหมอแหยง, ปฏิรูปการเมือง นำโคราชสู่วิถีใหม่ สร้างสภาประชาชน, การเมืองสีขาว โคราชสีเขียว, ปฏิรูปงบประมาณผ่านทุกอำเภอ ชาวโคราชร่วมกำหนด, ทำทันทีทุกอำเภอ อำเภอขนาด S 30 ล้านบาท M 40 ล้านบาท L 50 ล้านลบาท และ XL 100 ล้านบาท เลือกหมอแหยงเป็นนายก อบจ.นครราชสีมา"
หลังจากมีการสมัครรับเลือกตั้ง นายแพทย์สำเริง แหยงกระโทก ผู้สมัครนายก อบจ.นครราชสีมา เบอร์ 3 กลุ่มรักษ์โคราช ก็ได้รณรงค์ Kick Off ปล่อยขบวนรถแห่หาเสียง จำนวน 49 คัน เพื่อวิ่งไปตามชุมชนต่างๆ ในพื้นที่เขตเลือกตั้งทั้ง 48 เขต 32 อำเภอ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์นโยบายต่างๆ ควบคู่ไปกับการลงพื้นที่หาเสียง ก่อนถึงวันเลือกตั้งนายก อบจ.ในวันที่ 20 ธันวาคม 2563
นายแพทย์สำเริง แหยงกระโทก เบอร์ 3 กลุ่มรักษ์โคราช กล่าวว่า ตนได้ลงพื้นที่พบปะประชาชนอย่างหนัก วันละ 10 กว่าจุด เพื่อเสนอนโยบายการจัดตั้งสภาประชาชนให้ประชาชนทุกเขต ทุกอำเภอ ได้มีสิทธิ์มีเสียงในการเข้ามาตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณของ อบจ.ปีละ 4,000 ล้านบาท ให้สามารถใช้พัฒนาจังหวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โปรงใส่ที่สุด แต่ด้วยความที่นโยบายสภาประชาชนนี้เป็นการดึงงบประมาณมาให้กับประชาชนอย่างแท้จริง จึงทำให้เกิดแรงต้านจากนักการเมืองกลุ่มเดิม ไม่มีใครเอาด้วย ดังนั้น ตอนนี้ตนจึงต้องเดินคนเดียว แม้จะรู้สึกเหน็ดเหนื่อยแต่ก็ไม่เคยย่อท้อ เพราะเป็นความตั้งใจจริง อีกทั้งตนก็ไม่มีเงินถุงเงินถังเหมือนคู่แข่ง เดินสายหาเสียงปากเปล่า มีเพียงนโยบายดีๆ เสนอประชาชนเท่านั้น
ขณะเดียวกันที่มีกระแสข่าวว่ามีพรรคเพื่อไทย เข้ามาสนับสนุนตนในการเลือกตั้งครั้งนี้ตนก็ขอยืนยันว่าไม่มีพรรคการเมืองใดมาสนับสนุน เพียงแต่ว่าในวันรับสมัครเลือกตั้ง อบจ.ตนได้เข้าไปจับมือกับนักการเมืองหลายๆ คน และมีนักการเมืองฝั่งของพรรคเพื่อไทยด้วย ทำให้สื่อไปตีความว่าพรรคเพื่อไทยมาสนับสนุนตน ซึ่งเรื่องนี้ยืนยันว่าไม่จริง ตนลงสมัครในนามกลุ่มอิสระ ชื่อกลุ่มรักษ์โคราชเท่านั้นและพร้อมที่จะร่วมมือกับนักการเมืองทุกพรรคที่มีอุดมการณ์เดียวกัน เพื่อขับเคลื่อนนโยบายพัฒนาจังหวัดนครราชสีมา ให้มีความเจริญในทุกด้าน
สำหรับจังหวัดนครราชสีมามีทั้งหมด 32 อำเภอ 289 ตำบล 3,743 หมู่บ้าน 737,377 ครัวเรือนมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) 334 แห่ง แบ่งเป็นองค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง, เทศบาลนคร 1 แห่ง, เทศบาลเมือง 4 แห่ง, เทศบาลตำบล 85 แห่ง, องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) 243 แห่ง มีประชากรจำนวน 2,610,164 คน
อนึ่ง สำหรับประวัติและผลงาน นายแพทย์สำเริง แหยงกระโทก คนทั่วไปเรียกว่า "หมอแหยง" เกิดวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2495 ในชนบทห่างไกลความเจริญ ณ หมู่บ้านแชะ ตำบลครบุรี อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา บิดาชื่อ นายทึม แหยงกระโทก มารดาชื่อนางเหลือ แหยงกระโทก อาชีพของบิดามารดา ทำนาทำไร่ มีพี่น้อง 10 คน
นายแพทย์สำเริง แหยงกระโทก เป็นบุตรคนที่ 10 เนื่องจากในอดีตยังไม่มีการวางแผน ครอบครัว และมีพี่น้องที่ได้เสียชีวิตไป 2 คน ด้วยโรคมาเลเรียและบาดทะยัก (เพราะการสาธารณสุขยังไม่เจริญพอเพียง จึงเสียชีวิตด้วยโรคที่รักษาได้ง่าย ๆ) คงเหลือ 8 คน เป็นชาย 4 คน เป็นหญิง 4 คน ชายทั้ง 4 คนได้บวชเรียนในพระพุทธศาสนาทุกคนการศึกษาของบิดา มารดารและพี่น้องของนายแพทย์สำเริง แหยงกระโทก สูงสุดไม่เกินชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีเพียง นายแพทย์สำเริง แหยงกระโทก คนเดียวที่มีโอกาสได้เรียนสูงกว่าชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และสำเร็จการศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิตได้
คุณพ่อทึม แหยงกระโทก ได้เป็นพ่อตัวอย่างแห่งชาติ จังหวัดนครราชสีมา รับโล่รางวัลจาก ฯพณฯ องคมนตรี ณ สวนอัมพร กรุงเทพฯ เมื่อปี 2543
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี