“พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง” ผบช.สตม. นำแถลง “ตม.6-ตม.ระนอง” ตะครุบสาวเมียนมาลักลอบค้าประเวณี พร้อมแม่เล้าคนไทยคาโรงแรม
1 ธันวาคม 2563 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.สุเมธ เมฆขจร ผบก.ตม.6 , พ.ต.อ.ไพรัช พุกเจริญ รอง ผบก.ตม.6 ร่วมแถลงข่าวจับกุมคดีคนต่างชาติกระทำความผิดรายสำคัญ
สืบเนื่องจาก ตม.จว.ระนอง ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ไพรัช พุกเจริญ รอง ผบก.ตม.6 , พ.ต.อ.สมชาย จิตสงบ ผกก.ตม.จว.ระนอง , พ.ต.ท.พิษณุ เบี้ยแก้ว รอง ผกก.ตม.จว.ระนอง นำโดย พ.ต.ต.พิศุทธิ์ สุวรรณภาษิต สว.ตม.จว.ระนอง , ร.ต.อ.ศิรสิทธิ์ ทันศรี และ ร.ต.อ.สิทธิชัย เทียนทอง รอง สว.ตม.จว.ระนอง รับเรื่องร้องเรียนว่าบริเวณโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 5 ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง มีหญิงเมียนมาทำงานเป็นหมอนวดและค้าประเวณี เจ้าหน้าที่จึงวางแผนจับกุมได้ให้สายลับเข้าล่อซื้อ
ต่อมาสายลับได้แจ้งว่าได้ซื้อบริการนวดและบริการทางเพศจากหญิงชาวเมียนมา จำนวน 1 ราย เป็นเงินจำนวน 1,500 บาท ให้หญิงชาวเมียนมาเพื่อเป็นการซื้อบริการทางเพศกับหญิงดังกล่าว และหญิงดังกล่าวได้พาสายลับไปที่ห้องเลขที่ 103 เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและจับกุม ดังนี้
1.น.ส.คำปุ่น อายุ 52 ปี สัญชาติไทย ในความผิดฐาน “รับคนต่างด้าวทำงานโดยที่คนต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตทำงาน”
2.MS.SANDAR อายุ 27 ปี สัญชาติเมียนมา ในความผิดฐาน “เป็นผู้เข้าติดต่อ ชักชวน แนะนำตัว ติดตาม หรือรบเร้าบุคคลตามถนน หรือสาธารณสถาน หรือกระทำการดังกล่าวในที่อื่นใดเพื่อการค้าประเวณีอันเป็นการเปิดเผยและน่าอับอาย หรือเป็นที่เดือดร้อนรำคาญแก่สาธารณชนและเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ์จะทำได้”
3.MS.EI อายุ 27 ปี สัญชาติ เมียนมา ในความผิดฐาน “ เป็นผู้เข้าติดต่อ ชักชวน แนะนำตัว ติดตาม หรือรบเร้าบุคคลตามถนน หรือสาธารณสถาน หรือกระทำการดังกล่าวในที่อื่นใดเพื่อการค้าประเวณีอันเป็นการเปิดเผยและน่าอับอาย หรือเป็นที่เดือดร้อนรำคาญแก่สาธารณชน”
4.MS.MAY อายุ 27 ปี สัญชาติ เมียนมา ในความผิดฐาน “เป็นผู้เข้าติดต่อ ชักชวน แนะนำตัว ติดตาม หรือรบเร้าบุคคลตามถนน หรือสาธารณสถาน หรือกระทำการดังกล่าวในที่อื่นใดเพื่อการค้าประเวณีอันเป็นการเปิดเผยและน่าอับอาย หรือเป็นที่เดือดร้อนรำคาญแก่สาธารณชน”
จากการสอบถาม MS.SANDAR รับว่าตนเองได้รับเงิน จำนวน 1,500 บาท จากสายลับเพื่อขายบริการให้จริง โดยตนเองจะนำเงิน จำนวน 500 บาท ไปให้กับ น.ส.คำปุ่น โดยแบ่งเป็นเงินค่าห้อง 300 บาท ค่าน้ำดื่ม 20 บาท และค่าหมอนวด 100 บาท ซึ่งน.ส.คำปุ่น จะคืนเงินให้กับตนเองหลังจากทำงานครบ 10 วัน และรับว่าตนเองได้ทำงานเป็นหมอนวด ซึ่งเป็นงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำโดยเด็ดขาด โดยมี น.ส.คำปุ่น อายุ 52 ปี สัญชาติไทย เป็นนายจ้างจริง
เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ถูกจับกุมทั้ง 4 คน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองระนอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยพนักงานสอบสวนได้จัดทำบันทึกคัดแยกผู้เสียหายจากค้ามนุษย์แล้ว มีความเห็นว่าผู้ถูกจับไม่ใช่ผู้เสียหายในคดีค้ามนุษย์แต่อย่างใด
สำหรับการดำเนินการดังกล่าวสืบเนื่องจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กำชับให้มีการเก็บข้อมูลที่สำคัญทุกอย่าง(data entry) ที่เกี่ยวกับบุคคล กลุ่ม หรือองค์กร ซึ่งเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด บก.ตม.6 โดย พล.ต.ต.สุเมธ เมฆขจร ผบก.ตม.6 ได้สั่งการกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามนโยบาย ผบ.ตร. โดยเคร่งครัด และนำไปสู่ผลสัมฤทธิ์ในการปฎิบัติงานด้านตรวจคนเข้าเมือง
นอกจากนี้ยังเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี