ช่วงเวลาปัจจุบัน ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงของการเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ เพื่อให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่วางไว้ เราต้องทำสิ่งใดบ้างเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายที่กำหนดไว้ คือ ความอยู่ดีกินดีอย่างมีความสุขและยั่งยืนของคนในชาติในภาพรวม องค์ประกอบที่จะทำให้เกิดผลดังกล่าวตามยุทธศาสตร์ชาติกำหนดไว้ 23 ด้าน หนึ่งในนั้นคือด้านการเกษตร ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสำคัญของแผนปฏิรูปประเทศทั้ง 13 ด้าน โดยเป็นส่วนสำคัญของการผลักดันให้เกิดความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ
หากมองลึกลงในรายละเอียดของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็น การเกษตร พบว่าประกอบด้วย 6 ประเด็นย่อย คือเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น เกษตรปลอดภัย เกษตรชีวภาพ เกษตรแปรรูปเกษตรอัจฉริยะ และการพัฒนาระบบนิเวศการเกษตร โดยมีเป้าหมายสำคัญต้องทำให้เกษตรกรประกอบอาชีพด้านการเกษตรได้อย่างมั่นคง สร้างความมั่งคั่งให้กับครอบครัวและประเทศชาติได้โดยรวม และมุ่งหวังให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปเพื่อสะสมปัญหา และสร้างปัญหาใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม ตามที่ปรากฏให้เห็นกันบ่อยครั้ง
ประเด็นการดำเนินการตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ เช่น ประเด็นย่อยเกษตรอัจฉริยะได้ถูกนำมาสร้างเป็นแนวทางการพัฒนาหลายแนวทาง ภายใต้แนวทางต่างๆ ดังกล่าว จะต้องมีแผนงาน/โครงการ/กิจกรรมมารองรับต่อไปดังนั้น การดำเนินการภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ จึงประกอบด้วยหลายระดับในเชิงนโยบาย และครอบคลุมในทุกพื้นที่ แตกย่อยกันลงไป แต่เมื่อไล่ย้อนกลับมาขึ้นมาจะต้องสามารถตอบโจทย์ตามยุทธศาสตร์ชาติได้ ดังนั้น หากเจ้าหน้าที่ในระดับปฏิบัติการ ซึ่งเป็นระดับล่างสุดของการนำนโยบายไปปฏิบัติ ไม่มีความเข้าใจที่ถ่องแท้ต่อยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูปประเทศ ต่างๆที่กล่าวมา การดำเนินการในระดับปฏิบัติการจึงยากที่จะบรรลุผลตามเป้าหมายได้ เหมือนกับว่าแต่ละโครงการ/กิจกรรมที่ถูกนำไปดำเนินการให้เกิดผลสำเร็จ เป็นจิ๊กซอว์ตัวเล็กๆ ของภาพรวมของผลสำเร็จตามยุทธศาสตร์ชาติ เมื่อจิ๊กซอว์ตัวเล็กๆ ดังกล่าวไม่สอดคล้องกับภาพใหญ่ จึงไม่มีทางที่จะเป็ภาพที่สมบูรณ์ตามที่ต้องการได้ ดังนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วน ตั้งแต่ระดับบนสุดไปจนถึงระดับล่างสุดในระบบการบริหารบ้านเมืองจะต้องมีความเข้าใจที่ตรงกันและมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน ซึ่งจากการที่มีโอกาสได้ติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติมาระยะหนึ่ง เห็นได้ว่า ยังมีความเข้าใจที่ไม่ตรงกันและไม่เป็นไปในแนวทางที่จะส่งผลต่อความสำเร็จของการปฏิรูปกระเทศและการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติให้เกิดผล และพบว่าบางหน่วยงานซึ่งเป็นกลไกของภาครัฐ ให้ความสนใจต่อการทำงานตาม Function มากกว่าการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ และขับเคลื่อนเน้นหนักงานนโยบายเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้ามากกว่าวางรากฐานเพื่อให้สอดรับกับเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ ยิ่งส่งผลให้เป้าหมายของการพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติห่างไกลออกไปทุกขณะ
สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสเดินทางไปจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อติดตามการดำเนินงานตามแนวทางการปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นด้านการเกษตร เน้นประเด็นย่อยเกษตรอัจฉริยะ พบว่ามีประเด็นที่จะต้องเร่งรัดให้มากยิ่งขึ้น กำหนดเป้าหมายให้ตรงกัน จึงจะทำให้เกิดผลสำเร็จได้ รวมถึงเห็นความก้าวหน้าของการพัฒนาการเกษตรที่ใช้กลไกของแปลงใหญ่เป็นกลไกหลัก โดยการสร้างเกษตรกรปราดเปรื่อง(Smart Farmer) และเกษตรกรรุ่นใหม่ (Young Smart Farmer) เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งทำงานอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงและขยับเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้น เกษตรกรมีการรวมตัวกันพัฒนาอาชีพและกิจกรรมต่อเนื่องต่างๆ เกิดผลดีต่อการบริหารแปลงใหญ่ มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการแปลง การจัดการด้านปัจจัยการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเด็นเรื่องน้ำและการกำจัดศัตรูพืช รวมทั้งการยกระดับคุณภาพของผลผลิตไปสู๋ระดับ Premium การพัฒนาระบบสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อผู้บริโภค ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของการปฏิรูปด้านการเกษตรที่ชัดเจนมากขึ้น หากแปลงใหญ่มีการรวมตัวกันในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป พัฒนาแบบสมาชิกมีความพร้อมมีการช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างสมาชิก ก่อนที่ภาครัฐจะเข้าไปส่งเสริมและสนับสนุน โดยไม่ต้องรอหรือเรียกร้องการช่วยเหลือจากภายนอกแต่อย่างใด สมาชิกในกลุ่มมีความสุขที่อยู่ร่วมกัน ทุกวันที่ 20 ของเดือนต้องมาประชุมปรึกษาหารือกัน โดยสมาชิกแต่ละรายจะนำข้าวหม้อแกงหม้อมาร่วมกัน มีการร่วมกิจกรรมสันทนาการหลังจากกิจกรรมหลัก หากมีเวลาเพียงพอ แสดงให้เห็นถึงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของสมาชิก เป็นที่น่ายินดีว่าสมาชิกกลุ่มแปลงใหญ่ดังกล่าวปลอดหนี้กันทุกคน และยังคงต้องก้าวเดินต่อไปด้วยความมั่นคง เป็นการก้าวที่ค่อยเป็นค่อยไป และมีความยั่งยืนสอดคล้องกับเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี อย่างแท้จริง
สมชาย ชาญณรงค์กุล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี