ติดเชื้อใหม่230รายตาย1
ศบค.ห่วงกทม.
กลุ่มเสี่ยงไม่ยอมพบหมอ
เชื่อมโยงบ่อน/สถานบันเทิง
หวั่นแพร่ระบาดมากกว่าเดิม
ระยองสุดเศร้าทารกติดไวรัส
อังคารนี้ชัดเยียวยา3,500บาท
ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19พบผู้ติดเชื้อใหม่ 230 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ศพ เป็นชายวัย 67 ปี ชี้คนที่มีอายุน้อยและมีโรคประจำตัวถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเสียชีวิต ยอมรับสถานการณ์ใน กทม. ยังน่าห่วง เพราะกลุ่มเสี่ยงที่เชื่อมโยงบ่อน สถานบันเทิง ไม่ยอมไปพบหมอ ระยองพบผู้ป่วยอีกเศร้าทารกวัย5เดือนติดเชื้อ โฆษกรัฐบาลย้ำอังคารนี้รู้ผลเยียวยา3,500 บาท
เมื่อวันที่ 16 มกราคม เวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 230 ราย โดยแบ่งเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 209 ราย จำนวนนี้เป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 83 ราย และจากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 126 ราย และผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ อยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 21 ราย ซึ่งจำนวนนี้มาจากสหราชอาณาจักรถึง 7 คน จากนี้ต้องมีการแยกเชื้อว่าเป็นเชื้อชนิดไหน เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับเชื้อชนิดใหม่ของสหราชอาณาจักรที่กระจายตัวได้เร็ว
แต่ถึงอย่างไรก็ตามทั้ง 7 คนดังกล่าว ยังอยู่ในสถานที่ควบคุม ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 11,680 ราย ยอดหายป่วยสะสม 8,906 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 2,704 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิตสะสม 70 ราย
ผู้เสียชีวิตมีประวัติไปสถานบันเทิง
สำหรับผู้เสียชีวิตรายใหม่ เป็นชายอายุ 67 ปี จ.กทม. ยังไม่ทราบประวัติโรคประจำตัว โดยวันที่ 21 ธ.ค.ไปสถานบันเทิงช่วงดึก และวันที่ 23 ธ.ค. ก็ไปสถานบันเทิงซ้ำ ในช่วงดึกอีก นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราขอให้สถานบันเทิงปิดให้บริการเร็ว ต่อมาวันที่ 24-27 ธ.ค. มีอาการไข้ ไอ เสมหะ และมีน้ำมูก ต่อมาวันที่ 29 ธ.ค.ทราบว่ามีพนักงานในสถานบันเทิงที่ไปใช้บริการติดเชื้อโควิด จึงไปตรวจ วันที่ 30 ธ.ค.พบติดเชื้อโควิดและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล วันที่ 30 ธ.ค.-14 ม.ค. มีการปอดอักเสบรุนแรง มีโรคแทรกซ้อน ทำให้ไตวายเฉียบพลัน และเสียชีวิตวันที่ 14 ม.ค.
อายุน้อย-มีโรคประจำตัวคือกลุ่มเสี่ยง
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในส่วนของผู้ติดเชื้อรายสัปดาห์ จะเห็นว่าผู้ติดเชื้อในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ม.ค.อยู่ที่ 1,627 ราย ขณะที่สัปดาห์แรกอยู่ที่ 2,674 ราย ถือว่าลดลงมา ต้องขอขอบคุณที่ทุกคนช่วยกันกดกราฟลงมาได้ ถ้าเราลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ก็จะทำให้ยอดสะสมค่อยๆลดลงมาด้วย และถ้าดูจำนวนวันที่มีรายงานผู้ติดเชื้อจะพบว่าทั้งประเทศไม่มีการรายงานผู้ติดเชื้อรอบใหม่ 17 จังหวัด ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อในช่วง 7-14 วันที่ผ่านมา 30 จังหวัด มีรายงานผู้ติดเชื้อในช่วง 7 วันที่ผ่านมา 30 จังหวัด เราอยากให้ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อต่อไปเรื่อยๆ ที่จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น และหากเรามาดูจำนวนผู้เสียชีวิตจากการแพร่ระบาดรอบใหม่ 10 คน จะเห็นว่าคนที่มีอายุน้อยและมีโรคประจำตัวถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเสียชีวิต
ยอดติดเชื้อจากบ่อนตะวันออกเริ่มลด
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในที่ประชุมของกระทรวงสาธารณสุขเช้าวันเดียวกันนี้ ที่ ศาสตราจารย์ เกียรติคุณ นายแพทย์ อุดม คชินทร กรรมการในคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ได้สรุปข้อมูลที่สำคัญคือการแยกแยะกลุ่มที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดออกมาเพื่อให้เห็นการกระจายตัวที่ชัดเจน โดยจำนวนผู้ป่วยที่เชื่อมโยงกับบ่อนการพนันในพื้นที่ภาคตะวันออก ระหว่างวันที่ 15 ธ.ค. 63 ถึง 13 ม.ค. 64 มีทั้งสิ้น 702 คน กระจายตัวอยู่ในหลายจังหวัด และมีผู้เสียชีวิต 2 คน แต่จากข้อมูลผู้ติดเชื้อจากกรณีดังกล่าวเริ่มลดลงมา ถ้าไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มไปอีก 14 วัน เราถึงจะมั่นใจได้ว่าไฟกองนี้ดับลงไป
จำนวนผู้ป่วยที่เชื่อมโยงกับสถานบันเทิงในกทม.ระหว่างวันที่ 15 ธ.ค. 63 ถึง 13 ม.ค.64 มีผู้ติดเชื้อ 197 ราย กระจายตัวไปหลายจังหวัด เสียชีวิต 1 ราย แต่จำนวนผู้ติดเชื้อยังมีรายงานประปรายแม้สถานบันเทิงจะปิดทั้งหมดจึงต้องเฝ้าระวังต่อไป
จำนวนผู้ป่วยที่เชื่อมโยงกับสนามชนไก่ จ.อ่างทอง วันที่ 15 ธ.ค. 63ถึง 13 ม.ค. 64 มีจำนวนผู้ติดเชื้อ 129 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ทิศทางการติดเชื้อตอนนี้ลดลงมา ถ้าไม่มีบ่อนก็จะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้เพิ่มเติมอีก และจำนวนผู้ป่วยในจังหวัดอื่นที่เชื่อมโยงกับตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร ระหว่างวันที่ 18 ธ.ค. 63 ถึง 13 ม.ค.64 มีผู้ป่วย 564 ราย กระจายตัวไป 43 จังหวัด โดยไม่รวมกับกลุ่มผู้ใช้แรงงานในพื้นที่ที่ติดเชื้อ
วอนกลุ่มเสี่ยงใน กทม.ไปตรวจ-กักตัว
เมื่อถามว่าการแพร่ระบาดใน กทม.ยังพบรายวันจะมีมาตรการเพิ่มเติมอย่างไร และสาเหตุมาจากอะไร นพ.ทวีศิลป์ ตอบว่า ข้อกำหนดหรือข้อปฏิบัติต่างๆ ต้องรอให้กทม.เป็นผู้แจ้งให้ทราบ แต่กรณีที่ยังมีผู้ติดเชื้ออยู่ ซึ่งขณะนี้จำนวนค่อยๆ ลดลง แต่ตัวเลขยังเป็นสองหลัก หากดูกราฟตอนเดือน ธ.ค.ถึงตอนนี้จะเห็นว่าค่อยๆ ขึ้นเนิบๆ แต่มีแนวโน้มทรงตัว
“เราออกมาตรการเมื่อวันที่ 4 ม.ค.จะครบ 14 วัน วันที่ 17 ม.ค.แนวโน้มน่าจะดี แต่ปัญหาที่ประชุมกระทรวงสาธารณสุขคุยกันพบว่าผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเมื่อมีการแจ้งไป บางรายไม่ว่างมาตรวจ และเมื่อไม่มีอาการก็ออกไปไหนมาไหน ประเด็นนี้ถือเป็นปัญหาจะทำอย่างไรให้ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอยู่กับบ้าน ดังนั้นใครที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงขอให้รีบไปตรวจและกักตัวอยู่กับบ้าน และไปตรวจซ้ำอีกครั้ง หากไม่ทำเช่นนี้ก็อาจจะมีการแพร่เชื้อโดยไม่รู้ตัว” โฆษก ศบค. กล่าว
สุพรรณบุรีพบป่วยเพิ่มโยงสนามชนไก่
นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่าพบผู้ป่วยโควิด-19 รายที่ 17 ของการระบาดระลอกใหม่ โดยเป็นชายไทย อายุ 25 ปี ชาว อ.เมืองสุพรรณบุรี มีความเกี่ยวเนื่องสนามชนไก่ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงได้นำมากักตัวที่ ศูนย์กักตัวจังหวัดสุพรรณบุรี กระทั่งตรวจยืนยันพบป่วยเป็นโควิด-19 ในวันที่ 15 ม.ค. จากการตรวจหาเชื้อทั้งหมด 3,738 ราย ขณะนี้มีผู้ป่วยสะสมรวม 17 ราย รักษาหายแล้ว 12 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัว 5 ราย
ปัจจุบัน ทาง จ.สุพรรณบุรี ได้สุ่มตรวจคัดกรองหาเชื้อเชิงรุก โดยจัดตั้งหน่วยเคลื่อนที่เฉพาะกิจ COVID-19 ของ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี โดยได้รับความร่วมมือจาก ส.ส.สรชัด สุจิตต์ สุพรรณบุรี เขต 1 รองประธานกรรมาธิการสาธารณสุข จัดเจ้าหน้าที่หน่วยเคลื่อนที่เฉพาะกิจ COVID-19 จะเดินทางออกตรวจเชิงรุก ตรวจกลุ่มผู้ค้าตลาดนัด ตลาดสด ผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ มีเป้าหมายครอบคลุมทั้งจังหวัด 6,000 ราย ซึ่งกลุ่มนี้ไม่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อ แต่มีโอกาสในการพบปะผู้คนมากกว่าคนกลุ่มอื่น จึงตั้งเป้าหมายตรวจคัดกรอง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน เพื่อให้ชาว จ.สุพรรณบุรี ปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19 โดยเร็ว
ระยองติดเชื้อเพิ่มอีก4ราย
ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดระยอง ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ภก.วีระศักดิ์ เจียมอนุกูลกิจ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างรุนแรงในพื้นที่จังหวัดระยอง
นายชาญนะ กล่าวว่า วันนี้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 4 คน รวม 562คน รักษาหายแล้ว 443คน ลดลงมาเรื่อยๆ ซึ่งในพื้นที่อำเภอเมืองระยอง ยังเป็นพื้นที่ที่มีผู้ป่วยมากที่สุด ส่วนจุดที่น่าเป็นห่วงคือ ที่บ้านมาบเหลาชะโอน ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง ที่เริ่มจากการตรวจพบคนขับรถตู้ แล้วก็มีการเดินทางไปในวงกว้างหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นร่วมงานสังสรรค์งานปีใหม่ในหมู่บ้าน และพบกับเพื่อนฝูง จึงเป็นพื้นที่ที่น่าเป็นห่วงเช่นเดียวกับที่ ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง ที่พบผู้ติดเชื้อที่อยู่ในพื้นที่ และเดินทางไปในพื้นที่หลายแห่ง ทั้งตลาด ร้านหมอ และเทศบาล แต่อย่างไรก็ตามได้มีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เชิงรุกเพื่อติดตามกลุ่มเสี่ยงเพื่อเข้ามาตรวจหาเชื้อต่อไปนอกจากนี้ยังมีเรื่องของการพนันที่ยังพบว่ามีการลักลอบเล่นกันอยู่จากผลการจับกุมของตำรวจ
เร่งสอบเชิงลึกเด็ก5เดือนติดเชื้อ
ภก.วีระศักดิ์ เจียมอนุกูลกิจ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง กล่าวว่า ผู้ป่วยทั้งหมดส่วนใหญ่ไม่รุนแรงมีเพียง 5 ราย ที่ต้องรับยา โดยยังเชื่อมโยงกับบ่อนการพนัน และโรงเบียร์ป๋าแดง ชลบุรี ส่วนกรณีพบผู้ติดเชื้อที่หมู่บ้านมาบเหลาชะโอน ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจเชิงรุกถึงในหมู่บ้าน และมีรถตรวจพระราชทานไปตรวจหาเชื้อกับกับกลุ่มเสี่ยงทุกคนในวันนี้
สำหรับกรณีเด็กหญิงวัย 5 เดือน ที่ติดเชื้อโควิด-19 แต่ยังไม่สามารถทราบว่าติดเชื้อมาจากใคร เพราะพ่อแม่และผู้ใกล้ชิด ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ และยังได้ตรวจเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล ที่สัมผัสทารกทุกคนก็ไม่พบเชื้อดังนั้นจึงต้องสอบสวนไปถึงญาติและคนที่เข้ามาเยี่ยมทารกในช่วงที่ผ่านมาและตรวจซ้ำผู้ใกล้ชิดทารกเพื่อหาที่มาของเชื้อต่อไป ซึ่งนับว่า การติดเชื้อโดยไม่ทราบที่มานั้นเพิ่งจะเกิดขึ้นเป็นรายแรก
เลยหวั่นผู้ค้าลอตเตอรี่กลับบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอำเภอวังสะพุง เรียกประชุมด่วนทุกภาพส่วน หวั่นการเดินทางของผู้ค้าลอตเตอรี่ในอำเภอวังสะพุง จะทำให้นำเชื่อโควิดเข้าพื้นที่จังหวัดเลย เน้นคุมเข้ม 5 จังหวัดควบคุมเข้มงวด ได้แก่ สมุทรสาคร ระยอง จันทบุรี ตราดชลบุรี และจับตามองพิเศษ อีก 23 จังหวัด เรียกกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ท้องถิ่นทุกภาคส่วนประชุม ซักซ้อมทำความเข้าใจ เพื่อสร้างความมั่นใจ
นายประยูร อรัญรุท นายอำเภอวังสะพุงกล่าวว่า ในส่วนมาตรการตรงนี้ทาง อ.วังสะพุง ได้ประชุมของทีมของกรรมการของโรคติดต่อ อ.วังสะพุง กำนันผู้ใหญ่บ้านใน อ.วังสะพุงทุกคน ท้องถิ่นทุกที่ ทุกองค์กรทางเจ้าหน้าที่ อสม. ต่างๆ เพื่อที่จะมาใช้มาตรการต่างๆ ที่กำหนด ก็คือ หนึ่งหากเดินทางกลับมาถึง อ.วังสะพุงจะต้องมีการกักตัว 14 วัน คือโฮมแคนรันทีนซึ่งวิธีการกักตัวจะให้ทางสาธารณสุขนั้นไปบอกทำความเข้าใจกับ อสม. ว่าจะต้องกักตัวอย่างไรจะให้ไม่พาโรค ไปติดกับครอบครัวรอบๆ และในครอบครัวตัวเองการใช้หน้ากากอนามัยในครอบครัว การเว้น ระยะห่างการใช้ของส่วนตัวคนในครอบครัวให้แยกกันต่างหากภายในช่วงเวลา 14 วัน ที่กลับมากักตัว นี่คือแนวทางที่ทางอำเภอคุยกันและเป็นแนวทางให้กับกำนันผู้ใหญ่บ้านนำไปปฏิบัติเพื่อที่จะไปแก้คำสั่งให้กับผู้ที่กลับมาจากลอตเตอรี่ 5 จังหวัดที่เป็นจังหวัดเสี่ยง
ผู้ว่าฯ เลยสั่งเน้นย้ำมาตรการเข้มข้น
ในส่วนของจังหวัดอื่นๆนั้นก็ใช้ในลักษณะเช่นเดียวกันคือต้องมากักตัว 14 วันแต่หากมีความจำเป็นจริงๆ ก็ต้องมีการดูเป็นเรื่องๆ ไป การใช้มาตรการทางสังคมว่าต้องปลอดต้องรับผิดชอบต่อสังคม ทำให้สังคมมันอยู่ได้อย่างปลอดเชื้อ ซึ่งเราก็ใช้มาตรการร่วมกันในการดูแลดูแลสังคมร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมและก็ใช้การรับรู้และการทำความเข้าใจกับทุกคนการตระหนักรู้และไม่ตระหนกให้เค้าประกอบอาชีพได้มีงานทำได้มีเศรษฐกิจดีแล้วก็ปลอดจากโควิดไปด้วย โดยทาง นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้เน้นย้ำได้ดำเนินการอย่างเข้มข้นและก็ใช้แอปพลิเคชั่นไทยชนะหรือหมอชนะนำมาใช้ให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด
คาดต้องจับตา1.5หมื่นคน
สำหรับจังหวัดที่เสี่ยงหนักหนักเป็นพื้นที่สีแดงหากกลับมาในพื้นที่ อ.วังสะพุง คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 15,000 คน ที่จะต้องจับตามองเป็นพิเศษเนื่องจากในช่วงก่อนหน้านี้ก็มีคนไปขาย แต่อาจจะเปลี่ยนไปขายในของจังหวัดอื่นๆ แต่ก็ยังมีหลายคนที่ไปขายในจังหวัดที่เสี่ยง 5 จังหวัดนั้น ทางอำเภอ เรามีวิธีในการนำลอตเตอรี่ไปขายก็คือให้ญาติพี่น้องส่งลอตเตอรี่ ไปทางไปรษณีย์แต่ถ้าหากกลับมาที่ จ.เลยก็ต้องกัก 14 วันอย่างเด็ดขาด ซึ่งล่าสุดมีการเช็คแล้วว่าใน 5 จังหวัดที่เสี่ยงสีแดงจะมีอยู่ประมาณ 100 กว่าคน ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษในช่วงวันที่ 16-17 ที่จะถึงนี้ หลังจากขายลอตเตอรี่เสร็จเค้าจะเดินทางกลับบ้าน ย้ำไปยังกำนันผู้ใหญ่บ้าน สั่งห้ามปิดบังข้อมูลเด็ดขาด หากปล่อยปะละเลยก็จะมีความผิดเช่นกัน ต้องได้ข้อมูลที่แท้จริง และระบุให้ชัดที่ไปขายนั้น ตำบลหมู่บ้านอำเภอจะเป็นการดีมาก
กำนันวังสะพุงวอนอย่าเพิ่งกลับ
นางพัชรพร มุ่งเคริกลาง กำนันตำบลวังสะพุง กล่าวว่า จริงๆ แล้วตรงนั้นเป็นพื้นที่สีแดงเข้มด้วยเป็น 5 จังหวัด หากเป็นไปได้เมื่อคุณจำหน่ายลอตเตอรี่ก็อยากให้รับผิดชอบต่อสังคมด้วยกัน ช่วงนี้ไม่อยากให้กลับมาในพื้นที่วังสะพุง จ.เลยหรือพื้นที่อื่นๆ ของ จ.เลย โดยเฉพาะ อ.วังสะพุงจนกว่าสถานการณ์มันจะดีขึ้นกว่าปกติ ทุกวันนี้คนที่อยู่ในพื้นที่ อ.วังสะพุง นั้นน่ะเค้าก็เกิดความหวาดระแวงและจากคนไปขายลอตเตอรี่จะนำเชื้อกลับเข้ามาสู่ อ.วังสะพุง เข้ามาในชุมชน มันส่งผลกระทบต่อหลายหลายอย่างที่หามิได้ไม่เฉพาะแต่คนในหมู่บ้านในชุมชนก็จะโดนผลกระทบไปด้วยหากเป็นไปได้ก็คืออยากให้รับผิดชอบด้วยกัน ใครไปขายในพื้นที่สีแดง แดงเข้ม ถ้าจังหวัดนั้นหากถ้าอยากไปขายลอตเตอรี่ก็ให้อยู่ที่โน่นก่อนจนกว่าสถานการณ์มันปกติมันจะดีขึ้น เพราะว่าชาวบ้านเค้าก็หวาดระแวงจริงๆ หากต้องการที่จะมาจังหวัดเลยคุณก็ต้องกักตัว 14 วันไม่สามารถที่จะออกไปไหนได้ ตามมาตรการที่คณะกรรมการควบคุมโรคอำเภอวังสะพุงกำหนดไว้แล้วนั้น ก็ต้องยอมรับตรงนี้ กลับมาแล้วก็ต้องกักตัว 14 วัน
ค้านเปิดด่านการค้าหวั่นโควิดเข้าไทย
ทางด้าน นายอุดม หมั่นศึกษา ผู้ใหญ่บ้านห้วยต้นนุ่น หมู่ 4 ต.แม่เงา อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ได้เรียกประชุมลูกบ้านห้วยต้นนุ่น เพื่อขอมติความเห็นต่อกรณี ที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีมติให้เปิดจุดผ่อนการค้าชายแดน จำนวน 5 แห่ง โดยมีจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนบ้านห้วยต้นนุ่น รวมอยู่ด้วย เนื่องจากห้วงเวลานี้มีสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก รวมทั้งไทย และเมียนมา หากมีการเปิดด่านจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนช่องทางห้วยต้นนุ่น ขณะที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 รุนแรงอยู่ นั้น ผู้ใหญ่บ้านบ้านห้วยต้นนุ่น จึงเรียกประชุมชาวบ้านเพื่อขอมติว่า จะยินยอมให้ทาง จังหวัด ฯ เปิดจุดผ่อนปรนชายแดนบ้านห้วยต้นนุ่น ต่อไปหรือไม่ โดยที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ ด้วยเสียง 131 เสียง ซึ่งเกินครึ่งของหมู่บ้าน ไม่ยอมให้มีการเปิดด่านในวันที่ 18 ม.ค.64 ที่จะถึงนี้ และขอให้ทาง จังหวัด ฯ ทบทวน และชะลอคำสั่ง จนกว่าสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 จะคลี่คลาย ต่อไป แต่ถ้าหากว่าทาง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ไม่มีการทบทวน ชาวบ้านห้วยต้นนุ่น จะรวมตัวไปปิดเส้นทางช่องทางห้วยต้นนุ่นต่อไป
นอกจากหมู่บ้านห้วยต้นนุ่นแล้ว ยังมีหมู่บ้านอื่นๆ อีกที่ไม่เห็นด้วยกับการเปิดด่านค้าชายแดนช่องทางบ้านห้วยต้นนุ่น ได้แก่ บ้านประตูเมือง หมู่ 3 ต.แม่เงา , บ้านสวนอ้อย หมู่ 6 ต.แม่เงา , บ้านห้วยนา หมู่ 5 ต.แม่เงา , บ้านหัวเงา หมู่ 2 ต.แม่เงา , บ้านนาหัวแหลม หมู่ 7 ต.แม่เงา , บ้านต่อแพ หมู่ 1 ต.แม่เงา , บ้านหลวง หมู่ 8 ต.แม่เงา , บ้านแม่สะเป่เหนือ หมู่ 6 ต.ขุนยวม และ บ้านแม่สะเป่ใต้ หมู่ 4 ต.ขุนยวม
คนในพื้นที่เห็นพ้องต้องช่วยป้องกัน
นายพัชรพงษ์ ก่อนเกียรติยศ ผญบ.หมู่ 1 ต.แม่กิ๊ อ.ขุนยวม กล่าวว่า ทุกวันนี้กำนันผู้ใหญ่บ้าน อสม.เป็นหน้าด่านตลอด ทำทุกอย่างเพื่อช่วยกันป้องกัน ไม่ใช่เห็นผลประโยชน์แค่คนไม่กี่คน แล้วทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนภายหลัง ตนไม่เห็นด้วยกับการจะเปิดด่าน
นายสุรชัย ธรรมชาติแห่งเขา ผญบ. หมู่ 10 บ้านแม่โข่จู ต.เมืองปอน อ.ขุนยวม กล่าวว่า ถ้าเปิดด่านโควิด-19ไม่มาแน่ ก็สามารถเปิดเลย แต่ถ้าโควิด-19มาใครจะรับผิดชอบครับเอาตรงนี้ให้ชัดเจนไปเลยนะครับ ทุกวันนี้ย้ำแล้วย้ำอีกในหมู่ผู้รักษาความสงบหมู่บ้านา (ผรส.) เป็นหูเป็นตาทำอย่างเต็มที่ไม่อยากให้โควิด-19เข้ามาในพื้นที่นี่คือเหตุผลที่เป็นห่วงพื้นที่แม่ฮ่องสอน มิใช่ไม่อยากให้เปิดด่าน
จากการสอบถามผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ อ.ขุนยวมและประชาชนทั่วไป ต่างกังวลในเรื่องการเปิดด่าน เนื่องจากหวั่นเกรงว่า จะเป็นการเปิดช่องให้มีการระบาดของโรคโควิด 19 เข้ามาในพื้นที่ อ.ขุนยวม ขณะที่ทางภาครัฐยังนิ่งเงียบและไม่มีการออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด
อังคารนี้ชัดเยียวยาสามพันห้า
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลักเกณฑ์การเยียวยา 3,500 บาท ระยะเวลา 2 เดือนนั้น มีหลักเกณฑ์ที่แตกต่างออกไปจากครั้งก่อน โดยครั้งนี้จะเป็นการพิจารณาหลักเกณฑ์จากฐานข้อมูลที่มีอยู่แล้วนำมาพิจารณาการจ่ายเงินเยียวยา ซึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ โดยแรงงานในระบบหรือข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจที่ยังช่วยเหลือตัวเองได้ จะไม่นำมาพิจารณาในครั้งนี้ ดังนั้นส่วนที่เหลืออยู่จะได้รับการเยียวยา เบื้องต้นอยู่ที่ประมาณ 35-40 ล้านคน โดยในวันอังคารนี้จะมีการประชุม ครม.และมีความชัดเจน แต่ทั้งนี้กลุ่มปราะบางที่มีถึง 14 ล้านคน ก็จะได้รับการเยียวยาอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ผู้ที่เคยลงทะเบียนในแอพพลิเชั่นต่างๆ และมีฐานข้อมูลในแอพพลิเคชั่นเป๋าตังค์ อาจจะไม่ต้องลงทะเบียนซ้ำ เพราะมีฐานข้อมูลอยู่แล้ว แต่รัฐบาลก็จะมีมาตรการคัดกรองอย่างรอบคอบ
เชียงใหม่ลดเที่ยวบิน
นายอมรรักษ์ ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลมีมาตรการควบคุมการเดินทางของประชาชน เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ได้กำหนดมาตรการเดินทางเข้ามาในพื้นที่ โดยอนุญาตให้เดินทางได้เฉพาะกรณีมีความจำเป็น ภายใต้มาตรการปฏิบัติที่เข้มงวด จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2564 สายการบินต่างๆ ได้ปรับลดเที่ยวบินจากตารางบินปกติลงกว่าร้อยละ 85 เหลือเพียงวันละ 30 เที่ยวบิน มีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยเหลือวันละ 1,300 คน โดยงดการให้บริการในเส้นทางบินข้ามภาค คงเหลือเฉพาะเส้นทางเชียงใหม่-ดอนเมือง และเชียงใหม่-สุวรรณภูมิ
ผู้โดยสารที่เดินทางผ่านสนามบินจะต้องปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม และจังหวัดเชียงใหม่ อย่างเคร่งครัด ต้องสแกน QR code ไทยชนะ เพื่อ “เช็กอิน” และ “เช็กเอาท์” เพื่อเข้าออกอาคารผู้โดยสาร การลงทะเบียน AOT App สำหรับผู้โดยสารขาออก และการลงทะเบียน CM-CHANA รวมถึงแสดงเอกสารรับรองความจำเป็นในการเดินทาง สำหรับผู้โดยสารขาเข้า และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการดูแลสุขอนามัยของผู้โดยสาร ผู้ใช้บริการ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้เพิ่มรอบความถี่ในการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรคบริเวณจุดสัมผัสของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ตลอดจนอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจตามมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะถาดใส่สิ่งของสัมภาระอย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือผู้โดยสารและผู้ใช้บริการปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวข้างต้น รวมทั้งสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เว้นระยะห่าง ล้างมือด้วยเจลแอกอฮอล์ ที่มีให้บริการตามจุดต่างๆ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี