นายกฯสั่งเข้มมาตรการคุมโควิด
ลากยาวถึง31ม.ค.
สมุทรสาครตรวจ600รง.ต่อวัน
ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกให้จบ
กทม.โซนตะวันตกน่าห่วง
‘ศิริราช’แจงพบ6คนป่วยใหม่
ศบค.รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 171 ราย ยอดสะสม 12,594 กระจาย 61 จว. ตั้งเป้าค้นหาเชิงรุกโรงงานสมุทรสาคร 600 แห่งต่อวัน หวังเคลียร์ให้จบสิ้นเดือนมกราคมเตือนกทม.ยังน่าห่วง ยอดทรงๆ ลดๆ พบคนป่วยในโซนตะวันตกติดจ.สมุทรสาคร โยงสถานบันเทิง
จึงยังวางใจไม่ได้ ย้ำแผนจัดหาวัคซีนต้องมั่นใจก่อนว่าปลอดภัยถึงฉีดให้ปชช.นายกฯปันไม่ผูกขาดไม่ปิดกั้นนำเข้าวัคซีน แต่ช่วงแรกระบาดหนัก รบ.ต้องดำเนินการควบคุมการซื้อและฉีดแต่ผู้เดียว โดยผ่าน อย.รับรองเท่านั้น เพื่อความปลอดภัย ย้ำเข้มงวดมาตรการสกัดโควิดยาวไปถึงสิ้นเดือนมค. ก่อนประเมินเป็นระยะ รองเลขาฯอย.ยันยังไม่ไฟเขียวขึ้นทะเบียนวัคซีนในไทย‘ศิริราช’แจงบุคลากรติดโควิด6คน ปฎิบัติงานในส่วนอาคารศึกษา ไม่เกี่ยวดูแลผู้ป่วย พร้อมประกาศเตือนบุคลากรทั้งรพ.เฝ้าระวังอาการทางเดินหายใจ14วัน
เมื่อวันที่ 19 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อประจำวัน
ติดเชื้อใหม่171-16จว.ยังเป็นศูนย์
โดยระบุว่า ไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่ 171 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 158 ราย มาจากผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังและบริการ 33 ราย มาจากค้นหาเชิงรุกในชุมชน 125 ราย ในจำนวนนี้เป็นการค้นหาเชิงรุกใน จ.สมุทรสาคร 120 ราย เป็นคนไทย 14 คน และแรงงานต่างด้าว 106 ราย นอกจากนี้ เป็นผู้ติดเชื้อที่มาจากต่างประเทศและอยู่ในสถานกักตัวของรัฐ 13 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 12,594 ราย หายป่วยสะสม 9,356 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 3,168 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ยอดสะสมคงที่ 70 ราย และขณะนี้มีผู้ติดเชื้อสะสมกระจายอยู่ใน 61 จังหวัด แบ่งเป็นจังหวัดที่มีรายงานการติดเชื้อในช่วง 7 วันที่ผ่านมา 30 จังหวัด ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อในช่วง 7-14 วันที่ผ่านมา 31 จังหวัด และไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อเลย 16 จังหวัด
สุ่มตรวจวันละ600โรงงานจบสิ้นมค.
นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (อีโอซี) กระทรวงสาธารณสุข และที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก ได้หารือประเด็นจ.สมุทรสาครว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อวันนี้แม้จะน้อยลงกว่าวันก่อน ถือว่าเบาใจได้ แต่อย่าเพิ่งวางใจ เพราะยิ่งค้นหาเชิงรุกมากเท่าไหร่ยิ่งเจอ จึงวางแผนการสอบสวนโรคว่าจะสุ่มตรวจโรงงานละ 50 ราย ให้ได้วันละ 600 โรงงาน ซึ่งจ.สมุทรสาครมีโรงงานทั้งสิ้น 11,467 แห่ง จึงจำเป็นต้องระดมบุคลากรทางการแพทย์มาจาก 12 เขตตรวจราชการเข้ามาในพื้นที่ ต้องใส่อุปกรณ์ป้องกันตนเอง (PPE) ตรงนี้รัฐทำอย่างเดียวไม่ได้ โรงงานต่างๆต้องร่วมมือด้วย เราอยากตรวจให้เร็วที่สุด เพราะมาตรการต่างๆ ที่ออกข้อกำหนดมาจะสิ้นสุดในวันที่ 31 มกราคม ซึ่งภายในเดือนนี้เราจะทำให้ได้มากที่สุด อย่างประเทศสิงคโปร์ใช้เวลาตรวจเชื้อในแรงงานถึง 3 เดือน เรามองว่านานไป เราไม่อยากให้มีประกาศข้อกำหนดต่อเนื่องไปยาวถึงขนาดนั้น ดังนั้น เราต้องการเข้าไปตรวจโรค ขออย่าหวาดระแวงว่าจะมีประเด็นอื่น และขอให้เอกชนและภาคประชาชนร่วมมือกับรัฐ เพราะถ้าจัดการโรคได้จะควบคุมได้เร็ว
กทม.น่าห่วงโซนตต.โยงสถานบันเทิง
นพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า ในส่วนกทม.ยังน่าเป็นห่วง แม้กราฟตัวเลขผู้ติดเชื้อจะทรงๆ ลดๆ แต่เมื่อดูผู้ติดเชื้อแล้วจะอยู่ในโซน กทม.ตะวันตก ซึ่งติดกับจ.สมุทรสาคร และสาเหตุมาจากสถานบันเทิง ที่อาจมีความเชื่อมโยงกับที่จ.สมุทรสาคร ทำให้มาตรการต่างๆต้องทำควบคุมกันไป เช่น ค้นหาเชิงรุกในพื้นที่ดังกล่าว ขณะเดียวกัน ในส่วนระบบป้องกัน พบว่าขณะนี้ผู้ประกอบการและหน่วยงานของรัฐติดตั้งแอปพลิเคชั่นไทยชนะไปแล้ว 388,997 แห่ง และจากการประเมินของประชาชนให้คะแนนการใช้สูงถึง 4.93 ดาวจากคะแนนเต็ม 5 ดาว ถือว่าดีอย่างยิ่ง ส่วนกรณีแอปพลิเคชั่นหมอชนะที่มีประเด็นอยู่นั้น ทุกคนเข้าใจและมาช่วยกันทำงานเหมือนเดิม โดยมีแนวโน้มที่ประชาชนติดตั้งแอปพลิเคชั่นดังกล่าวเพิ่มขึ้น ตนอยากให้ประชาชนใช้อย่างต่อเนื่อง อย่าลบแอปพลิเคชั่นเลย เพราะไทยชนะจะติดตั้งในสถานที่ แต่หมอชนะจะติดตามที่ตัวบุคคล
ต้องมั่นใจ-ปลอดภัยถึงฉีดให้ปชช.
ผู้สื่อข่าวถามถึงการจัดหาวัคซีนของไทยถือว่าช้ากว่าประเทศอื่นหรือไม่ และมั่นใจได้อย่างไรว่าปลอดภัย นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เรื่องวัคซีนที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่วางแผนเรื่องนี้มาตลอด ไม่มีปกปิดชุดข้อมูล และการจัดหาวัคซีนถ้าพบว่ามีที่ใดน่าเชื่อถือและเป็นไปได้ นายกฯจะฟังข้อมูลอย่างรอบด้าน โดยมีคณะกรรมการโรคติดต่อ และคณะที่ปรึกษา ผอ.ศบค.ที่เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำ สิ่งที่ ศบค.มีมติเป็นการวางแผนที่ทำมานานแล้ว ยืนอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง น่าเชื่อถือและปลอดภัย นายกฯยืนยันว่าต้องมั่นใจจริงๆถึงจะฉีดให้ประชาชน เพราะผลิตวัคซีนรอบนี้เร่งรีบหลายเท่าตัว ปกติวัคซีนชนิดหนึ่งจะใช้เวลามากกว่าหนึ่งปี
“เราต้องมั่นใจจริงๆถึงค่อยใช้ เพราะบุคลากรการแพทย์จะเป็นกลุ่มแรกที่ได้ใช้ จึงต้องมั่นใจ เพราะเราจะเสียเขาไปไม่ได้ ถ้าไม่มั่นใจคงไม่มีใครอยากใช้ เราเชื่อมั่นในวิธีที่ ศบค.ช่วยกันคิดและตัดสินใจ ไม่ได้เกิดจากคนใดคนหนึ่ง เราเดินอย่างช้าๆ แต่ได้พร้าเล่มงาม ส่วนประเทศอื่นเขาติดเชื้อกันมาก็เร่งรีบ ไม่ว่ากัน อยู่ที่การตัดสินใจของผู้บริหารแต่ละประเทศ แต่ไม่ใช่เอาเวลามาบีบคั้นโดยไม่ได้อยู่บนพื้นฐานวิทยาศาสตร์การแพทย์ จึงขอฝากให้ทุกคนมั่นใจกับการเดินไปอย่างช้าๆ แต่เสียให้น้อยที่สุด”โฆษก ศบค.กล่าว และย้ำถ้าเราปกป้องตัวเอง ภูมิคุ้มกันของเราจะเป็นวัคซีนที่ดี ไม่ต้องรอวัคซีนข้างนอก
ไม่ปิดกั้นไม่ผูกขาดนำเข้าวัคซีน
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข ในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยกล่าวตอนหนึ่งถึงสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19ว่า เชื้อที่ระบาดขณะนี้มาจากเมียนมาแน่นอน ไม่ใช่สายพันธ์จากอังกฤษที่ตรวจพบในสถานกักตัว ซึ่งโชคดีที่เราควบคุมไว้ได้ โดยเฉพาะที่มาจากต่างประเทศ แต่เราต้องไม่ประมาท อยากให้เพื่อนบ้านทุกประเทศปลอดภัย หากเขาปลอดภัยเราก็ปลอดภัย
“ส่วนเรื่องวัคซีนที่จะนำเข้ามานั้น เราไม่ปิดกั้น ไม่ใช่แอสตร้าเซนเนก้าอย่างเดียว แต่ต้องมีมาตรฐานการรับรองจากต้นทางมาด้วย แล้วต้องมาผ่านมาตรฐานเรา แต่เรื่องการฉีด เมื่อเราได้วัคซีนมา และไม่ใช่อย.อนุญาตแล้วฉีดได้ทันที เพราะวัคซีนทยอยเข้ามาตามคิว หมายความว่าตอนนี้เรายังไม่มีวัคซีน ระหว่างนี้เราต้องศึกษาให้รอบคอบว่าเมื่อฉีดแล้วเป็นอย่างไร และเตรียมมาตรการป้องกัน ทำให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ และวันหน้าหากของที่อื่นได้ผลเราก็ซื้อได้ เราไม่ผูกขาดใครอยู่แล้ว”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ระยะแรกรบ.คุมเข้มจัดซื้อ-ฉีด
และว่า วันนี้เรายังเลือกวัคซีนไม่ได้มาก แต่ต่อไปเมื่อพัฒนาการแข่งขันก็มีคุณภาพมากขึ้น ราคาถูกลง ซึ่งวัคซีนเหล่านี้ต้องฉีดหลายครั้งและหลายปี ตราบใดที่ระบาดอยู่ เหมือนไข้หวัดธรรมดา แต่เป็นไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ สิ่งสำคัญสินค้าที่นำเข้ามาถือเป็นสินค้าควบคุมดูแลก่อนระยะแรก ถือว่าเราใช้ช่วงสถานการณ์ฉุกเฉินขณะนี้ที่มีการระบาด เรื่องวัคซีนตอนนี้ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะนำเข้า เป็นเรื่องของรัฐบาลที่รับผิดชอบ วันข้างหน้าถ้าดีแล้ว ในทางพาณิชย์ค่อยว่ากัน แต่วันนี้ใครจะมาฉีดเองไม่ได้ทั้งนั้น วัคซีนทั้งหมดต้องมาจากเรา เพราะเรารับผิดชอบต้องดูแล แต่ถ้าดำเนินการแล้วเกิดอะไรขึ้นมา ก็อยู่ที่บริษัทที่ผลิตยาและวัคซีนด้วยที่ต้องรับผิดชอบ ขอให้สื่อช่วยเสนอข่าวให้ดี ให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชน ไม่เช่นนั้นจะเกิดความสับสน วันนี้แม้ใครพร้อมดำเนินการและมีงบฯ พอก็ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะยังไม่มีวัคซีน ซึ่งเรื่องวัคซีนให้รัฐบาลเตรียมดูแลตรงนี้ก่อนให้เพียงพอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะผู้บริหาร เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการ“ฮาวทูแยก-แยกอย่างไรไม่ให้ติดเชื้อ”โดยนายกฯกล่าวตอนหนึ่งว่า ขอให้ทุกคนทิ้งขยะให้ถูกที่ โดยเฉพาะขยะมีพิษ ขยะติดเชื้อไม่ใช่เรื่องหน้ากากอนามัยย่างเดียว ยังมีขยะติดเชื้อตามโรงพยาบาลอีกจำนวนมาก จึงต้องบริหารจัดการขยะให้ดี ขอให้สื่อเสนอข่าวให้ตรงข้อเท็จจริง ถ้าเสนอไม่ตรงเลยแบบนี้ลำบาก วันนี้ขยะพิษหน้ากากพิษจากการป้องกันโควิดเยอะอยู่แล้ว อย่าสร้างขยะอย่างอื่นขึ้นมาอีก พวกขยะสังคมอะไรพวกนี้
ย้ำเข้มมาตรการยาวไปถึงสิ้นมค.
หลังประชุม พล.อ.ประยุทธ์แถลงอีกว่า สิ่งสำคัญสุดวันนี้เน้นเรื่องเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ยังอนุมัติแผนช่วยเหลือเยียวยาระยะต่อจากนี้ รัฐบาลจะดูแลคนให้มากที่สุด ในส่วนที่เรายังมีงบประมาณเหลืออยู่ แต่จำเป็นต้องสงวนไว้บางส่วน เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ในขั้นต่อไปเรื่องการระบาดด้วย ขณะนี้ตนคิดว่ามีแนวโน้มจะลดลง เราควบคุมได้แม้ตัวเลขจะสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ถ้าควบคุมได้ไม่มีปัญหา เตรียมความพร้อมทั้งเรื่องมาตรการคัดกรอง จัดพื้นที่ควบคุม วันนี้มีพื้นที่ควบคุมใหม่เกิดขึ้นมาเป็น Factory Quarantine ใช้โรงงานอุตสาหกรรมเป็นพื้นที่ควบคุมของเขาเอง เป็นความร่วมมือของโรงงานกับเรานอกจากของรัฐ ข้อสำคัญต้องขอความร่วมมือทุกท่านในเรื่องมาตรการต่างๆ ยังคงเดิมต้องปฎิบัติเหมือนเดิมต่อไป จะตอบได้ถึงเมื่อไหร่เหล่านี้ต้องรอดูการประเมินผลเป็นวาระๆไป วันนี้ต้องดูผลสิ้นเดือนมกราคมนี้ไปก่อน
สธ.ยันปี64ได้ฉีดวัคซีนครึ่งปท.
วันเดียวกัน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงชี้แจงข้อเท็จจริงการจัดหาวัคซีน เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าปี 2564 จะได้วัคซีนมาฉีดให้คนไทยครึ่งประเทศ จากซิโนแวคเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน และต่อด้วยแอสตราเซเนกา 26 ล้านโดส ปลายเดือนพฤษภาคม และจะเจรจาขอซื้อเพิ่มให้ครบถ้วน 50% ในปี 2564 ไม่ถือว่าล่าช้า
ปลัด สธ.กล่าวอีกว่า ยูนิเซฟระบุปลายปีจะมีวัคซีนเพียงพอใช้ทั้งโลก จึงฝากถึงผู้วิจารณ์ต้องตรวจสอบข้อมูลให้มาก ถ้ารีบร้อนนำมาใช้ต้องระมัดระวังผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายเกิดผลเสีย ขอให้ใช้ข้อมูลให้ครบถ้วน เพื่อลดความเข้าใจผิด พร้อมยืนยันบริษัท สยาม ไบโอไซเอนซ์ มีศักยภาพพร้อมที่สุดในการรับถ่ายทอดเทคโนโลยี ผ่านการเลือกโดยออกซ์ฟอร์ด และบริษัท แอสตราเซเนกา ที่หลายประเทศอยากถูกคัดเลือก และหากผลิตวัคซีนได้แล้วต้องส่งคืนให้รัฐบาลเท่าจำนวนที่ให้งบลงทุน 600 ล้านบาท ขอประชาชนมั่นใจแผนวัคซีนของ สธ. ต้องมีประสิทธิภาพปลอดภัย
ศิริราชแจงจนท.ติดเชื้อจากนอกรพ.
วันเดียวกัน ที่โรงพยาบาลศิริราช ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล แถลงถึงกรณีมีกระแสข่าวบุคลากรโรงพยาบาลศิริราชติดเชื้อโควิด-19ว่า ข้อเท็จจริงคือ เมื่อวันที่ 14 มกราคม มีบุคลากร 1 คน เป็นเจ้าหน้าที่เดินเอกสาร ปฏิบัติงานแล้วพบมีอาการผิดปกติจึงมาขอตรวจหาเชื้อโควิด ผลออกมาเป็นบวก จากการตรวจสอบพบเป็นการติดเชื้อนอกโรงพยาบาล ส่วนผลสอบสวนโรคในโรงพยาบาล พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 4 คน ซึ่งสัมผัสใกล้ชิด จึงตรวจหาเชื้อผลออกมา พบว่า 3 ใน 4 คนติดเชื้อ นอกจากนี้ ยังค้นหาเพิ่มเติมในกลุ่มคนที่มีโอกาสสัมผัสใกล้ชิด เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงกลางมี 50 คน จะได้ตรวจหาเชื้อเช่นกันพบว่ามี 2 คน 48 คน ไม่ติดเชื้อ
ยันทำงานในอาคารศึกษาไม่ผู้ป่วย
“สรุปขณะนี้มีบุคลากรทางการแพทย์ของศิริราชติดเชื้อรวม 6 คน อยู่ในการดูแลของแพทย์เรียบร้อยแล้ว ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เสี่ยงกลาง ที่ผลตรวจออกมาเป็นลบนั้น ให้หยุดปฏิบัติงานและกักตัวจนครบ 14 วัน และตรวจหาเชื้อวันที่ 7 และวันที่ 14 หากไม่พบเชื้อจะอนุญาตให้ออกจากระบบกักตัวได้ นอกจากนี้ ยังหาผู้สัมผัสเสี่ยงกลางเพิ่มเติม พบมีอีก 20 คน ขณะนี้ให้หยุดปฏิบัติงานระวังตัวที่บ้าน และเข้าตรวจหาเชื้อในวันที่ 7 และวันที่ 14 เช่นกัน ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ ที่อยู่ในภาควิชาเดียวกัน แต่ไม่ได้สัมผัสพูดคุยกันนั้นมีจำนวนไม่มาก ไม่จำเป็นต้องหยุดปฏิบัติงาน แต่ได้รับคำแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และตรวจหาเชื้อเช่นเดียวกัน”นพ.ประสิทธิ์กล่าว และยืนยันว่า บุคลากรทั้งหมดปฏิบัติงานในอาคารเกี่ยวกับการศึกษา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานดูแลผู้ป่วย หลังทราบข่าวได้ปิดอาคารทำความสะอาดฆ่าเชื้อแล้ว
เฝ้าระวังโรคระบบหายใจ14วัน
นพ.ประสิทธิ์กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ยังได้ออกประกาศ คำแนะนำให้บุคลากรที่อยู่ในโรงพยาบาลศิริราช เฝ้าระวังตัวเองช่วง 2 สัปดาห์นี้ ให้เฝ้าระวังโรคระบบทางเดินหายใจ หากมีอาการให้มาตรวจ และกำชับเรื่องการปฎิบัติตัวเข้มข้น มีการจัดทำฉากกั้นระหว่างรับประทานอาหาร ให้รับประทานอาหารอย่างเดียวไม่เน้นพูดคุย สำหรับการสอบสวนและควบคุมป้องกันโรคภายนอกโรงพยาบาลศิริราช หรือที่ชุมชนวัดสิงห์ นั้นเป็นหน้าที่กทม.จะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป
อย.ไม่รับรองวัคซีนรอเอกสารเพิ่ม
ด้านนพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณีมีสื่อและนักวิชาการบางคนโพสต์ข้อความระบุ อย.พิจารณาขึ้นทะเบียนวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซเนก้า แล้ววันนี้นั้น ขอยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีการขึ้นทะเบียนวัคซีนป้องกันโควิด- 19 ในประเทศไทย แต่อย่างใด ในส่วนของแอสตร้าเซเนก้า ตนชี้แจงไปแล้วว่า อยู่ระหว่างขอเอกสารเพิ่มเติม ในส่วนของมาตรฐานคุณภาพการผลิต ลอตที่ผลิตในต่างประเทศที่นำมายื่นขอขึ้นทะเบียนนั้น ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะส่งมาวันไหน แต่หากบริษัทส่งเข้ามาแล้วก็จะพิจารณาได้โดยอาจใช้เวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ การขึ้นทะเบียนได้ก็ ไม่ได้แปลว่าจะมีวัคซีนหรือไม่มีวัคซีนเข้ามาในประเทศไทย ขึ้นกับว่าทางบริษัทจะนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยหรือไม่ แต่หากภาคเอกชนหรือผู้นำเข้ารายใดที่ต้องการนำวัคซีนเข้ามาใช้ก็ต้องมาขออนุญาตเป็นผู้แทนจำหน่าย จากอย. โดยระบุให้ชัดว่าจะนำวัคซีนจากบริษัทใดเข้ามา พร้อมทั้งนำเอกสารหลักฐาน ต่างๆที่เกี่ยวข้อง วัคซีนนั้นเข้ามายื่นด้วย
ตากรับ32คนไทยจากเมียนมากลับ
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวตรวจหาผู้ติดเชื้อในพื้นที่แต่ละจังหวัด ที่ดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และสาธารณสุขจ.ตากนำคนไทยจากฝั่งเมียวดี ประเทศเมียนมา 32 ราย เป็นการเดินทางกลับลอตที่ 6 ที่แสดงความจำนงขอกลับข้ามมาฝั่งไทย มีรถฉุกเฉินของโรงพยาบาลแม่สอดไปรับถึงริมแม่น้ำเมย มีจำนวน 32 ราย ติดเชื้อ 21 ราย รักษาที่รพ.แม่สอด 3 ราย รพ.แม่ระมาด 6 ราย และรพ.พบพระ 12 ราย อีก 11 รายนำเข้า local quarantine โรงแรมภูอินน์ เพื่อกักตัวดูอาการต่อไป
ระยองไม่นิ่งเจอใหม่3คนสะสม568
นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองแถลงความคืบหน้าสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันของจังหวัดว่า ยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ของจ.ระยองมี 3 ราย รวมผู้ติดเชื้อทั้งหมด 568 คน รักษาหายแล้ว 482 คน ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 85 ราย ค้นหาเชิงรุกตรวจเชื้อไปแล้ว 17,652 คน ขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อของระยอง ยังไม่นิ่ง ยังใช้คงมาตรการเข้มข้นต่อไป สำหรับห้างสรรพสินค้าสนามกอล์ฟที่เสนอขอเปิดจึงยังไม่อนุญาต ป้องกันการกระจายเชื้อต่อไป และเตรียมตรวจเชิงรุก ตั้งเป้าตรวจกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด 40,000 คนเพื่อความมั่นใจ โดยจะลงไปตรวจตามตลาดหลักแต่ละพื้นที่ทั่วจังหวัด ประกอบด้วย ตลาดร้อยเสา ตลาดลุงหนู และตลาดปากน้ำ สถานบริการ แรงงาน และกลุ่มเสี่ยง เพื่อสแกนหาเชื้อ ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่เสี่ยง เพื่อนำไปสู่การผ่อนผันมาตรการต่อไป สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อทั้งหมด ขณะนี้อาการส่วนใหญ่ยังไม่รุนแรง มีแต่อาการไข้เล็กน้อย พร้อมฝากผู้ที่ทราบว่าตัวเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง แล้วยังไม่เข้ามาตรวจหาเชื้อ ขอความร่วมมือให้รีบเข้ามาตรวจ เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม จะได้สกัดการแพร่เชื้อ จ.ระยองจะได้ก้าวสู่การปลอดผู้ติดเชื้อโดยเร็ว มุ่งสู่ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดเป็นศูนย์โดยเร็ว
ราชบุรีติดเพิ่ม1พนง.เย็บเสื้อผ้า
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดราชบุรีรายงานสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เป็นหญิง อายุ 49 ปี ชาวบ้านหมู่ 3 ต.ห้วยยางโทน อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ทำงานที่บริษัทตัดเย็บเสื้อผ้า ที่นิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร หมู่ 2 ต.บางกระเจ้า อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เริ่มป่วยวันที่ 17 มกราคมและเข้ารักษาตัวที่ รพ.ปากท่อวันที่ 18 มกราคม ด้วยอาการไอ มีน้ำมูก มีประวัติเดินทางไปทำงานและกลับบ้านทุกวันด้วยรถยนต์ส่วนตัวกับเพื่อนร่วมงาน มีผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง 12 ราย แบ่งเป็นชาวราชบุรี 7 ราย เก็บตัวอย่างส่งตรวจแล้วรอผล และเพื่อนพื้นที่อื่น 5 ราย ได้ประสานมาตรวจหาเชื้อ รวมยอดสะสมของจ.ราชบุรีขณะนี้ 23 ราย มีผู้ป่วยพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 2 ราย รักษาหาย 21 ราย ซึ่งจ.ราชบุรี เร่งรัดคัดกรองกลุ่มเสี่ยงเชิงรุกอย่างต่อเนื่องเพิ่มในทุกอำเภอ ทั้งนี้ จำนวนผู้ได้รับการตรวจหาเชื้อรวม 1,991 ราย แบ่งเป็ฯสัญชาติไทยสะสม 1,339 ราย สัญชาติอื่นสะสม 652 ราย ไม่พบผู้ติดเชื้อจากการคัดกรอง รอผลการตรวจจากการคัดกรองอีก 29 ราย
สมุทรสาครป่วย12สะสม4.8พันคน
เวลา 17.00 น. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาครรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด – 19 รายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงว่า มีผู้ป่วยใหม่ 12 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 4,829 ราย รักษาหายแล้ว 3,127 ราย
กทม.ติดเพิ่ม13สะสมทะลุ606ราย
ศบค.รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) พบผู้ติดเชื้อใหม่ 13 ราย แบ่งได้ 2 กลุ่ม กลุ่มแรก ติดเชื้อในประเทศจากการไปพื้นที่เสี่ยง มีอาชีพเสี่ยง หรือสัมผัสกับผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้ 9 ราย ประกอบด้วยเพศชาย 5 ราย อายุ 23-47 ปี เพศหญิง 4 ราย อายุ 28-64 ปีสัญชาติไทย 8 ราย และแรงงานข้ามชาติอีีก 1 ราย ไม่มี อาการ 2 ราย และมีอาการไข้ 7 ราย รักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนในกทม. 4 ราย, โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช 1 ราย, โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน 1 ราย, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 2 ราย และรอสอบสวนโรค 1 ราย และกลุ่มที่สอง พบจากการคัดกรองเชิงรุกอีก 4 ราย เป็นเพศชาย 1 ราย อายุ 35 ปี และเพศหญิง 3 ราย อานุ 25 ปี 2 คน และอายุ 43 ปี 1 คน สัญชาติไทย 2 ราย แรงงานข้ามชาติ 2 ราย พบมีอาการป่วย 2 ราย และไม่มีอาการป่วย 2 ราย สถานรักษาพยาบาลอยู่ระหว่างประสานงาน ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 606ราย เลื่อนขึ้นมาอยู่อันดับ 3 เป็นจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุด รองจาก จ.สมุทรสาครและจ.ชลบุรี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี