‘หน.พรรคกรีน’ยก‘บ้านบางกลอย-ใจแผ่นดิน’ย้ำกลุ่มชาติพันธุ์ย้ายกลับถิ่นกำเนิดชอบธรรมแล้ว
25 ม.ค. 2564 นายพงศา ชูแนม หัวหน้าพรรคกรีน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว กรณีประชาชนกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงส่วนหนึ่ง ตัดสินใจอพยพจากบ้านบางกลอยล่าง กลับไปอยู่ที่บ้านบางกลอยบน หรือเที่เรียกกันว่า “บ้านใจแผ่นดิน” ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ดังนี้..
“#ไม่มีความเป็นธรรมใดๆจะหยดย้อยจากฟากฟ้าจะได้มาต้องลุกสู้ สัจธรรมของผมกำลังถูกท้าทายด้วยต่อสู้กันของพี่น้องชาติพันธุ์กับสัตว์เลื้อยคลาน
.......
ค่อนข้างประหลาดใจสำหรับอารยชนว่าไฉนคนเมืองผู้เพียบพร้อมด้วยการศึกษาของไทยแต่ให้ค่ากับจระเข้น้ำจืดตัวหนึ่งแต่ละเลยวิถีชีวิตเพื่อนร่วมชาติเพราะเขาเป็นกะเหรี่ยง
.....
ผมมีผัสสะพอรับรู้ได้ว่าสังคมคนเมืองและสื่อสารมวลชนไทยผู้ทรงอิทธิพล เทน้ำหนักให้จระเข้มากกว่าสิทธิพื้นฐานของเพื่อนมนุษย์ชาติพันธุ์กะเหรี่ยงผู้ขอทวงคืนสิทธิการอยู่ในถิ่นกำเนิด
......
หลายคนหลายกลุ่มอคติกับพี่น้องชาติพันธุ์.เหยียดหมิ่น และสำคัญตนว่าเป็นผู้มีอารยะ
......
แม้นแต่องค์กรสากลโลกเขาสรุปชัดเจนว่ากลุ่มชาติพันธุ์ทั่วโลกคือปัจจัยสำคัญในการปกป้องโลกไม่ให้เข้าสู่สภาวะโลกร้อน แต่รัฐบาลไทยและคนไทยที่สูงด้วยอำนาจและการศึกษาจึงไม่รู้สึกรู้สากับการละเมิดสิทธิมนุษยชน
....
ผมในฐานะคนชัดเจนเรื่องการให้คนอยู่ร่วมกับป่าและเป็นต้นตำหรับ"คนอยู่ ป่ายัง" ยังยืนยันชัดว่า
.....
1).พี่น้องกะเหรี่ยงกลับไปอยู่ถิ่นเกิด ที่ใจแผ่นดินเป็นเรื่องชอบธรรมแล้ว
2).ชุดความเชื่อในสถาบันการศึกษาใดๆที่สอนการอนุรักษ์แนวขับไล่คนออกจากป่า เป็นตำราอวิชชา สอนผิด เชื่อผิด ทำร้ายสังคมไทยมานานมากแล้ว
3).รัฐบาลโดยเฉพาะนายก รองนายกและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ล้วนเป็นเสมือนพวกหลงใหลอำนาจนิยม ไม่มีวันเข้าใจมนุษยธรรมวิสัยได้..ขอประณาม
4).ขอเรียกร้องให้สังคมไทยค้นหาความจริง ความเป็นธรรม ไม่ใช่แค่ความถูกฺผิดตามกฏหมาย
5).ผมและพรรคกรีนพร้อมสนับสนุนพี่น้องกะเหรี่ยงให้ยืนหยัดต่อสู้เพื่อรักษาสิทธิการอยู่อาศัยที่ใจแผ่นดิน ถิ่นกำเนิดพวกเขา
.....
ทั้งนี้ กรณีชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงบ้านบางกลอยบน หรือบ้านใจแผ่นดิน ถูกทางการสั่งให้อพยพลงมาอยู่ที่บ้านบางกลอยล่างตั้งแต่ปี 2539 แต่ในปี 2554 มีบางส่วนพยายามกลับเข้าไปอยู่ในพื้นที่เดิม ทำให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐมีการใช้กำลังไล่รื้อและเผาทำลายสิ่งก่อสร้างของชาวบ้าน และเกิดเป็นคดีความฟ้องร้องกันขึ้น โดยชาวบ้านยืนยันว่าบ้านใจแผ่นดินเป็นชุมชนเก่าแก่มีหลักฐานการตั้งรกรากมานับร้อยปี กระทั่งเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2561 ศาลปกครองสูงสุดมีคำวินิจฉัยว่าการกระทำของฝ่ายเจ้าหน้าที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : อยู่ก็อดตาย! ชาวบางกลอยอพยพกลับป่า ‘ใจแผ่นดิน’ สมทบอีกระลอก-หนีโควิด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 'ศาลปค.สูงสุด' สั่งกรมอุทยานฯชดใช้ เผาบ้าน-ไล่ที่'กะเหรี่ยง'แก่งกระจาน ย้ำใช้อำนาจมิชอบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี