ไข้เลือดออกระบาดหนัก “บ้านบางกลอย” คร่าชีวิตสตรีนักต่อสู้ชาวกะเหรี่ยง
26 พฤษภาคม 2565 นายพงษ์ศักดิ์ ต้นน้ำเพชร ชาวบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เปิดเผยว่า นางกิ๊ป ต้นน้ำเพชร ซึ่งเป็นพี่สาวและหนึ่งในกลุ่มชาวบ้านที่ถูกจับกุมดำเนินคดีกรณีบุกรุกป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จากการกลับไปยังชุมชนดั้งเดิมที่บริเวณใจแผ่นดิน เมื่อปี 2564 ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี ด้วยโรคไข้เลือดออก เมื่อเย็นวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านต่างรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากนางกิ๊ป หรือพี่กิ๊ป เป็นผู้หญิงที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เรียกร้องสิทธิชุมชนให้กับพี่น้องในหมู่บ้าน จึงเป็นความสูญเสียครั้งสำคัญของชุมชน
นางพงษ์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า นางกิ๊ปไม่สบายมีอาการปวดหัวเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา ก่อนลงจากหมู่บ้านไปหาหมอที่โรงพยาบาลแก่งกระจานในช่วงบ่ายวันที่ 22 พฤษภาคม แต่ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าไม่ทันเวลาตรวจเลือดให้มาตรวจใหม่ในวันรุ่งขึ้น นางกิ๊ปจึงกลับไปพักบ้านญาติที่แก่งกระจาน 1 คืน ช่วงเช้าจึงไปโรงพยาบาลอีกครั้ง หมอทำการตรวจพบว่าป่วยเป็นไข้เลือดออกและมีอาการหนัก จึงส่งตัวต่อไปที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี โดยรับเข้ารักษาในห้องไอซียู 2 คืน มีการใส่ท่อช่วยหายใจ เพราะมีอาการหนักมาก จนกระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา
“ตั้งแต่ต้นปี ชาวบ้านป่วยไข้เลือดออกเกือบ 40 ราย ป่วยมาลาเรีย 30 ราย ไม่เคยมีคนป่วยเยอะแบบนี้มาก่อน คนหนุ่มที่ร่างกายแข็งแรงก็ไม่ได้ไปหาหมอ อาศัยหายากินตามอาการ คนแก่หรือคนที่มีอาการหนักก็จะไปโรงพยาบาล ส่วนเจ้าหน้าที่ก็มีการพ่นยาไล่ยุงอยู่ตลอด แต่ปีนี้โรคเยอะมาก ส่วนหนึ่งก็เพราะมีการทำฝายชะลอน้ำหลายจุดในลำน้ำ มีการเก็บน้ำในแท็งค์ หรือสระที่สูบน้ำไปเก็บไว้ ก็อาจทำให้ยุงมีมากขึ้น” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
นายนิรันดร์ พงษ์เทพ ผู้ใหญ่บ้านโป่งลึก-บางกลอย กล่าวว่า ปีนี้มีการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกและไข้มาลาเรียหนักมาก ซึ่งการเสียชีวิตของนางกิ๊ปถือเป็นรายแรกในรอบหลายปี เนื่องจากปีที่ผ่านมาชาวบ้านฝั่งบางกลอยป่วยเป็นไข้เลือดออกหรือไข้มาลาเรียแทบทุกบ้าน ตนเองและลูกเมียก็เพิ่งหายป่วยจากไข้เลือดออกเช่นกัน
“ปีก่อน ๆ มีคนป่วยไข้เลือดออกไม่เยอะ แต่ปีนี้ยุงเยอะมาก อาจเพราะอากาศที่ร้อนขึ้น อาการก็ไม่ชัดเจน ปวดเมื่อยคล้ายเป็นโควิด บ้านไหนมีคนป่วย เจ้าหน้าที่จะเข้ามาพ่นยาไล่ยุง ยุงก็หนีไปบ้านอื่น ระบาดไปทั้งบางกลอยข้ามไปบ้านโป่งลึกด้วย” นายนิรันดร์ กล่าว
นางสาวอัญชลี อิสมันยี ตัวแทนภาคีเชฟบางกลอย กล่าวว่า ได้รับข้อมูลจากชาวบ้านว่าพี่กิ๊ปไปหาหมอที่แก่งกระจานด้วยอาการมีเลือดออกที่ผิวหนังแล้ว ชัดเจนว่าเป็นไข้เลือดออก และมีอาการหนัก แต่โรงพยาบาลไม่ยอมรับให้รักษาทันที แต่ให้กลับมาใหม่ในวันรุ่งขึ้น นอกจากนี้ได้รับข้อมูลจากชาวบ้านว่าในวันที่พี่กิ๊ปถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี มีชาวบ้านอีก 3 ราย ที่ป่วยไข้เลือดออกเช่นเดียวกันเดินทางไปหาหมอ แต่หมอกลับสั่งให้กลับไปรักษาตัวที่บ้าน ซึ่งชาวบ้านไม่เข้าใจว่าทำไมไม่รับตัวให้นอนโรงพยาบาล กังวลว่าหากกลับไปอาจมีอาการป่วยหนักจนเสี่ยงเสียชีวิตเหมือนกรณีพี่กิ๊ปได้
นางสาวอัญชลี กล่าวต่อว่า เมื่อเดือน ธันวาคม 2564 ทางภาคีเชฟบางกลอยได้รับการร้องขอจากชาวบ้านเรื่องปัญหาสุขภาพ จึงประสานงานกับแพทย์อาสากลุ่มเปลวเทียนลงพื้นที่บ้านบางกลอย ไปตรวจสุขภาพให้ชาวบ้าน พบว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่มีสุขภาพไม่แข็งแรง และชาวบ้านให้ข้อมูลว่ามีกรณีถูกเลือกปฏิบัติจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ทำให้เวลาไปหาหมอหรือไปโรงพยาบาลมักถูกการปฏิติบัติที่ไม่ดี หรือบางครั้งได้รับการรักษาที่ไม่เหมาะสม หรือบางครั้งมีอาการหนักแต่ถูกให้กลับไปรักษาตัวที่บ้าน
ด้านนายบุญธรรม กลิ่นสน ผู้อำนวยการ รพ.สต.ห้วยแม่เพรียง กล่าวว่า เบี้องต้นยังไม่ได้รับรายงานว่ามีชาวบ้านบางกลอยเสียชีวิตด้วยโรคไข้เลือดออก จึงยังให้ข้อมูลไม่ได้ เบี้องต้นชี้แจงว่า รพ.สต.ห้วยแม่เพรียงรับผิดชอบป้องกันโรคไข้เลือดออก ส่วนโรคไข้มาลาเรียเป็นหน้าที่รับผิดชอบของศูนย์ควบคุมโรคติดต่อนำโดยแมลงที่ 5 สำหรับกรณีการเสียชีวิตของนางกิ๊ป ต้นน้ำเพชร และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก ที่สอบถามมานั้น ตนจะขอไปตรวจสอบข้อมูลกับพื้นที่ก่อนจึงจะให้ข้อมูลได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี