สั่งตั้ง‘วอร์รูม’

สกัดไข้เลือดออกลุกลาม

ผู้ว่าฯโคราชจี้ต้องคุมเข้ม

หลายจังหวัดตื่นตัวกางแผนรับมือไข้เลือดออกระบาดหนัก หลังเข้าหน้าฝน โดยโคราชป่วยแล้วกว่า 400 ราย ตาย 1 ศพ ผู้ว่าฯสั่งพื้นที่หมู่บ้านที่มีผู้ป่วยให้เปิดศูนย์สั่งการปฏิบัติการฉุกเฉินทันที ย้ำเก็บกวาดลูกน้ำยุงลายไม่ให้มีต่อเนื่องกัน28วัน ส่วนเชียงใหม่แนวโน้มคนป่วยเพิ่มขึ้นทุกเดือน ปรับแผนเชิงรุก กำจัดลูกน้ำยุงลาย

เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม นพ.สุผล ตติยนันทพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยสถานการณ์ระบาดของโรคไข้เลือดออกในพื้นที่จ.นครราชสีมาว่า แนวโน้มการระบาดเพิ่มขึ้น เพราะเป็นช่วงหน้าฝน ซึ่งสถิติทั่วประเทศเป็นแนวโน้มเดียวกันหมด สำหรับจ.นครราชสีมา 32 อำเภอ นายสยาม ศิริมคงคล ผวจ.นครราชสีมา ประธารคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ รวมไปถึงนายอำเภอทุกอำเภอ สาธารณสุขอำเภอ อสม.ทุกส่วนราชการ และทั้งท้องถิ่นบูรณาการทำโครงการ โคราชเมืองสะอาด เก็บกวาด ภาชนะที่มีน้ำขังไม่ให้เป็นที่เพาะลูกน้ำยุงลาย โดยทุกส่วนที่เกี่ยวข้องมีมาตรการเข้มข้น ทั้งนี้ ถ้ามีการระบาดต่อเนื่อง เราจะเปิดศูนย์ปฏิบัติการหรือศูนย์สั่งการไม่ให้มีแหล่งเพาะพันธ์ลูกน้ำยุงลาย พร้อมทั้งเร่งระดมพ่นหมอกควันเพื่อกำจัดยุงลายอีกทาง

นพ.สุผลกล่าวอีกว่า สำหรับตัวเลขผู้ป่วย และผู้เสียชีวิตขณะนี้ ในจ.นครราชสีมามีผู้ป่วยมากกว่า 400 ราย ถือว่าอยู่ประมาณ 17 ต่อแสนประชากร ซึ่งมาตรฐานไม่ควรเกิน 50 ต่อแสนประชากร ผู้เสียชีวิตมี 1 ราย เป็นผู้ป่วยชายอายุ 51 ปี ไม่มีโรคประจำตัว อาชีพเกษตรกร รับจ้างทำสวนอาศัยอยู่ในต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ เข้ารับการรักษา 21 กุมภาพันธ์ 66 และเสียชีวิตวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ซึ่งเราได้ตั้งวอร์รูม เพิ่มความเข้มข้นตามมาตรการ ป้องกันการเสียชีวิต

ส่วนมาตรการเตรียมประกาศการระบาดนั้น นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมามีหนังสือสั่งการลงไปแล้วทั้ง 32 อำเภอทุกหมู่บ้าน ชุมชน ทุกท้องถิ่นว่า ให้พื้นที่หมู่บ้านที่มีผู้ป่วยให้เปิดศูนย์สั่งการปฏิบัติการฉุกเฉินทันที เพื่อเก็บกวาดลูกน้ำยุงลายไม่ให้มีต่อเนื่องกัน 28 วัน ไม่มีผู้ป่วยรายใหม่ ส่วนผู้ที่ต้องระวังเป็นพิเศษก็คือ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง เด็ก เพราะจากข้อมูลผู้ป่วยกว่า 400 รายนี้ ส่วนใหญ่อยู่ในวัยเรียนชั้นประถมศึกษา

ด้านนพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงใหม่เผยว่า สถานการณ์ไข้เลือดออกในจ.เชียงใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-23กรกฎาคม พบผู้ป่วย 2,316 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 117.51 ต่อประชากรแสนคน เสียชีวิต 3 ราย พบมากที่สุดในกลุ่มอายุ 10-14 ปี กลุ่มอายุ 25-34 ปี และกลุ่มอายุ 5-9 ปี และพื้นที่ที่พบระบาดมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อ.เมืองเชียงใหม่ อ.แม่อาย อ.ฝาง อ.เชียงดาว และ อ.แม่ริม

ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคจัดประชุมออนไลน์เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ที่ผ่านมาร่วมกับทีมสาธารณสุขใน 30 อำเภอของ 18 จังหวัดคือ แม่ฮ่องสอน เชียงราย น่าน พะเยา ตาก เพชรบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด อุบลราชธานี กระบี่ ภูเก็ต สงขลา สตูล นราธิวาส กรุงเทพมหานคร และเชียงใหม่ ที่พบผู้ป่วยต่อเนื่องนานเกิน 8 สัปดาห์ และมีผู้ป่วยไข้เลือดออกใน 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา มากกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังในช่วงเวลาเดียวกัน ถือว่าเข้าใกล้เกณฑ์ประกาศให้เป็นพื้นที่ระบาดไข้เลือดออก ซึ่งจะประกาศหลังเฝ้าระวัง จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม

สำหรับจังหวัดเชียงใหม่พบว่า อำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่ เป็นพื้นที่ที่เข้าเกณฑ์การประกาศโรคระบาด ตามมาตรา 9 พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มีตำบลที่พบระบาดมากกว่า ร้อยละ 40 ทั้งนี้ ตำบลระบาด หมายถึง พบผู้ป่วยต่อเนื่องนานเกินกว่า 8 สัปดาห์ โดยมีผู้ป่วยยืนยันอย่างน้อย 1 ราย และผู้ป่วยใน 4 สัปดาห์ล่าสุด เกินกว่าค่ามัธยฐาน 5 ปีย้อนหลัง บวก ร้อยละ 20 ส่วนผู้ป่วยต่อเนื่อง หมายถึง พบผู้ป่วยรายใหม่ ติดต่อกันนานเกินกว่า 8 สัปดาห์ โดยไม่มีการทิ้งช่วงของการพบผู้ป่วยเกิน 28 วัน

“ไข้เลือดออกในพื้นที่จ.เชียงใหม่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกเดือน จากเดือนพฤษภาคม มีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก ทั้งหมด 178 ราย ต่อมาเดือนมิถุนายน มีผู้ป่วยไข้เลือดออก 901 ราย และล่าสุดเดือนกรกฎาคม มีผู้ป่วยสะสมแล้ว 952 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสมตั้งแต่เดือนมกราคม 2,316 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 117.51 ต่อประชากรแสนคน มีพื้นที่ระบาดต่อเนื่อง 89 หมู่บ้าน และพื้นที่พบผู้ป่วยใหม่ 406 หมู่บ้าน โดยเฉพาะอ.แม่อาย อ.เมืองเชียงใหม่ จึงเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับแผนทำงาน พร้อมปฏิบัติการเชิงรุก ดำเนินการตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่ กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงตัวอ่อน และฆ่ายุงตัวแก่ที่เป็นพาหะของการแพร่ระบาดโรคไข้เลือดออก โดยไม่ต้องคำนึงถึงรัศมีการระบาด 100 เมตรอีกต่อไป เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกให้ได้เร็วที่สุด