‘บิ๊กแจ๊ด’ลั่นไม่ยอม คดีลูกทีมดับปริศนาไม่มีมวยล้ม ขอสาวถึง‘จอมบงการ’
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปทุมธานี ว่า เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 30 มกราคม 2564 ที่วัดโบสถ์ ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง หัวหน้าทีมครอบครัวคนรักปทุม เป็นประธานพิธีสวดพระอภิธรรมศพคืนสุดท้ายของ นายดำรงค์ ยิ้มแย้ม อดีตสมาชิกสภาเทศบาลตำบลบ้านกลาง และเป็นอดีตผู้สมัคร ส.อบจ. เขต 4 อำเภอเมืองปทุมธานี ในนามทีมครอบครัวคนรักปทุม โดยคืนนี้หลังจากพระสงฆ์ได้สวดพระอภิธรรมศพเสร็จสิ้นแล้ว ได้มีพิธีบรรจุศพ นำดินเหนียวและดอกไม้วางเคารพศพ เพื่อที่จะนำศพไปเก็บไว้ที่วัดบัวแก้วเกสร ตำบลระแหง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี เนื่องจากทางญาติยังติดใจกับคดี
นางสาวมนต์ณัฐ ยิ้มแย้ม อายุ 50 ปี น้องสาวผู้ตาย กล่าวว่า เราต้องว่าให้เป็นไปตามหลักฐาน และฟังทางตำรวจที่ดูแลเรื่องคดีนี้ จากที่ได้ติดตามข่าวทราบว่าผู้ต้องหาเข้ามาไปมอบตัวแล้วอ้างพี่ชายขับรถกระบะไปปาดหน้ารถจักรยานยนต์ แล้วไปเปิดกระจกชูนิ้วกลางใส่ ซึ่งเขาไม่ใช่เป็นคนแบบนั้น ที่ผ่านมาเคยนั่งไปกับพี่ชายอยู่ประจำก็ไม่เคยเห็นว่าพี่ชายจะมีพฤติกรรมตามที่ผู้ก่อเหตุอ้าง
ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนยอมไม่ได้ ที่เห็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลทำอะไรแล้วไม่ผิด กลุ่มอิทธิพลเหล่านี้ไม่ควรที่จะมีอีกต่อไปแล้ว จังหวัดปทุมธานีไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อน กี่ครั้งกี่หนที่กลุ่มผู้มีอิทธิพลในจังหวัดปทุมธานีทำอะไรก็ไม่มีความผิด ทุจริตกี่เรื่องก็ไม่ผิด วันนี้ตนลุกขึ้นมาสู้เพื่อบ้านเกิด รวมถึงท่านอื่นๆที่ร่วมกันสู้ไปกับตน อย่างนายดำรงค์ มีคนไปทำร้ายเขา ซึ่งที่ผ่านมาตนทราบดีว่าผู้ตายมีโรคประจำตัวคืออะไร โดยเขามีโรคประจำตัวคือโรคไต เขาไม่ได้มีโรคอื่น คดีนี้ไม่มีการเป็นมวยล้มเด็ดขาด ตนต้องขอบคุณ 2 ท่าน คือ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
“ที่ผมรับไม่ได้ คือ เมื่อมีผู้ต้องหามามอบตัวแล้วมาให้การว่านายดำรงค์ขับรถปาดหน้าแล้วตามไปต่อย ซึ่งคนอย่างเขาเป็นไปไม่ได้ที่จะขับรถปาดหน้าแล้วจะมีกิริยาก้าวร้าวให้ของลับใครได้ ตั้งแต่ร่วมงานกันมาผมไม่เคยเห็นเขาด่าใคร เป็นที่รักของทุกคนทำให้ผมรู้สึกสลดใจ ในเมื่อคุณทำร้ายเขายังมาใส่ร้ายเขาอีก แทนที่จะยอมรับอย่างลูกผู้ชาย และที่น่าเกลียดที่สุดวันนี้ตำรวจได้ทำสำนวน พร้อมเอาผู้ต้องหาที่มามอบตัวไปฟ้องลหุโทษ เพื่อให้เป็นคดีเพียงโทษปรับ แต่ท่านอัยการสั่งให้ตำรวจกลับไปสอบมาใหม่ มาตรา 290 ทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยผมพร้อมไปเป็นพยานว่านายดำรงค์ไม่ได้มีโรคอื่น มีเพียงโรคไตอย่างเดียว ไม่มีโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดสมองเลย ก่อนถูกต่อยไม่เคยมีอาการปวดหัวอาเจียนเลย ฝากพยานที่ได้เห็นนายดำรงค์มีอาการปวดหัวอาเจียนมาร่วมกันเป็นพยาน และจะต้องให้สาวให้ถึงคนบงการด้วย” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าว
สำหรับสาเหตุที่ต้องเก็บศพนั้น เนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สุด อาจจะต้องส่งผ่าพิสูจน์อีกก็ได้ เพื่อให้ผ่านพ้นกระบวนการขั้นตอนการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ และจะมีพิธีการฌาปนกิจในวันที่ 25 มีนาคม 2564 ที่วัดโบสถ์ อำเภอเมืองปทุมธานี ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี