“ผบช.สตม.” นำทีมแถลง “ตม.จันทบุรี-ตม.สระแก้ว” จับขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย
2 กุมภาพันธ์ 2564 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบก.ตม.3 , พ.ต.อ.ทรงโปรด สิริสุขะ , พ.ต.อ.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ , พ.ต.อ.รัชธพงศ์ เตี้ยสุด , พ.ต.อ.หฤษฎ์ เอกอุรุ รอง ผบก.ตม.3 และ พ.ต.อ.เฉลิมชนม์ แหลมทอง ผกก.ตม.จว.จันทบุรี และ พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ร่วมแถลงข่าวการจับกุมขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว
สืบเนื่องจาก ตม.จว.จันทบุรี ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองในพื้นที่ สกัดจับแก๊งลักลอบนำพาและขนคนเข้าเมือง บริเวณจุดตรวจผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยสามารถจับกุม นายวุฒิพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี สัญชาติไทย ในความผิดฐาน “ช่วยเหลือซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใด ๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายให้พ้นจากการจับกุม” และจับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา จานวน 6 คน ในความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมด้วยรถยนต์ของกลาง เก๋งยี่ห้อฟอร์ด สีเทา ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ
นอกจากนี้ ตม.จว.จันทบุรีได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองในพื้นที่ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ทำการสกัดจับ นายนที (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สัญชาติไทย ในความผิดฐาน “ช่วยเหลือซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใด ๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายให้พ้นจากการจับกุม, เคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่โดยผิดกฎหมาย” และจับกุมบุคคลต่างด้าว สัญชาติกัมพูชาจำนวน 6 คน ในความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต, เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” พร้อมด้วยของกลางรถยนต์กระบะอีซูซุดีแมกซ์ สีขาว ทะเบียนชลบุรี จำนวน 1 คัน โดยทั้งสองกรณีมีพยานหลักฐานที่จะต้องดำเนินการสืบสวนขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการต่อไป
ทางด้านเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.สระแก้ว ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่า จะมีการลับลอบขนแรงงานต่างด้าวเพื่อเข้ามาทำงานในประเทศไทยบริเวณบ้านทับพริก ต.ทับพริก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันตั้งจุดตรวจตามเส้นทางที่ได้รับแจ้ง พบรถต้องสงสัยตามที่สายลับแจ้ง จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ขอทำการตรวจค้นรถกระบะยี่ห้อ มิตซูบิชิ ไทรทัน สีดำ โดยมีนายจักรกฤษ อายุ 32 ปี สัญชาติไทย เป็นชาวบ้าน ต.หนองบอน อ.เมือง จ.สระแก้ว เป็นผู้ขับขี่ และพบชาวกัมพูชานั่งอยู่ในรถและกระบะท้ายอย่างแออัด จำนวนหลายคน
จากการตรวจสอบพบว่าชาวกัมพูชาทั้งหมด ไม่มีเอกสารใดๆ แสดงตน โดยทั้งหมดรับสารภาพว่าลักลอบเข้าประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติ ไม่ทราบจุดพิกัดที่แน่ชัด ตั้งใจจะไปทำงานตัดอ้อยในพื้นที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว มีนายจ้างชื่อ “เฮียเล็ก” เป็นคนว่าจ้าง และมี นายเอี๊ยะ นายหน้าต่างด้าวเถื่อนชาวกัมพูชา เป็นผู้ติดต่อหาคนงานในหมู่บ้านฝั่งประเทศกัมพูชา โดยเสียค่านายหน้าคนละ 800 บาท นำมาส่งต่อให้ นายจักรกฤษ เพื่อนำไปส่งให้นายจ้างชาวไทยอีกทอดหนึ่ง
เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา นายจักรกฤษ ฯว่า “ช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าว ที่หลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือการมั่วสุม ณ ที่ใดๆ อันเป็นการฝ่าฝืนต่อ พ.ร.ก.กำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ส่วนชาวกัมพูชาทั้ง 13 คน แจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นบุคคลต่างด้าว (ชาวกัมพูชา) หลบหนีเข้าและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือการมั่วสุม ณ ที่ใดๆ อันเป็นการฝ่าฝืนต่อ พ.ร.ก.กำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548” นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองน้ำใส จ.สระแก้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
คดีที่ 2 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.สระแก้ว ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง บูรณาการออกตรวจพื้นที่ตามแนวตะเข็บชายแดน ตามนโยบายสกัดกั้นขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายของรัฐบาล ต่อมาเจ้าหน้าที่ออกตรวจถึงบริเวณป่าไร่อ้อย บ้านป่าไร่ใหม่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้พบกระบะโตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ สีขาว จอดอยู่บริเวณชายป่าอ้อยมีลักษณะพิรุธต้องสงสัย จึงได้เฝ้าสังเกตการณ์
ต่อมาพบชาวกัมพูชา จำนวน 4 คน เดินเท้ามาขึ้นกระทะท้ายของรถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ขอทำการตรวจสอบ พบนายยอด (ผู้ถูกจับกุม) เป็นผู้ขับขี่ และพบชาวกัมพูชา จำนวน 4 ราย นั่งอยู่ท้ายกระบะ ทั้งหมดไม่มีเอกสารใดๆ แสดงตน และรับสารภาพว่าลักลอบเข้าประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติ ตั้งใจจะไปทำงานคัดรองเท้ามือสองในตลาดโรงเกลือ โดยเสียค่านายหน้าคนละ 500 บาท
เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา นายยอด ว่า “ ช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าว (ชาวกัมพูชา) ที่หลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นการจับกุม ส่วนชาวกัมพูชาทั้ง ๔ ราย แจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นบุคคลต่างเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย อนึ่ง ทั้งสองคดีชุดสืบสวนอยู่ระหว่างขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี