เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการโยธา ได้มีโครงการจะก่อสร้างปรับปรุงและขยายถนนจากซอยถาวรธวัช (หลังรามฯ) ถึงสะพานข้ามคลองจิก ม.อัสสัมชัญ ระยะทางประมาณ 2,200 เมตร โดยการก่อสร้างทางยกระดับเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรด้านหลัง ม.รามคำแหง สนามกีฬาหัวหมาก นั้น

พื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดที่มีชุมชนอยู่อาศัยกันอย่างหนาแน่น รามถึงบ้านพักอาศัยและอพาร์ตเมนต์ หอพัก หาก กทม.ดำเนินการจะทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวได้รับผลกระทบและเดือดร้อน ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมที่อาจจะเกิดจากรถวิ่งบนทางยกระดับด้วย ทั้งฝุ่นเขม่า เสียงดัง และความสั่นสะเทือนที่วิ่งขึ้น-ลงตลอดเวลา และจะไม่ช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรแต่อย่างใด เพราะพื้นที่โครงการสั้นๆ หากแต่จะเป็นการปิดกั้นพื้นที่กลายเป็นอุโมงค์ครอบถนน ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่นเขม่า เสียงดังสะท้อนทุกทิศทางตามมามากมาย ซึ่งซอยถาวรธวัช 1 นั้นเคยถูกเวนคืนบ้านคนละครึ่งหลังเพื่อทำถนนระบายรถจากสนามกีฬาหัวหมาก มาสู่ถนนพระราม 9 มาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อปี 2537 การที่ กทม.มาจัดทำโครงการขยายถนนและทางยกระดับ จึงเป็นการลิดรอนสิทธิ์ของชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวซ้ำสอง ถือว่าไม่เป็นธรรมต่อชาวบ้านอย่างยิ่ง

ที่สำคัญโครงการฯ ดังกล่าวยังไม่มีการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนหรือผู้มีส่วนได้เสียก่อน ตามที่กฎหมายกำหนดแต่อย่างใด แต่ทว่า กทม.กลับเริ่มตั้งงบประมาณในปี 2564 มาดำเนินการเบื้องต้นแล้วกว่า 78.5 ล้านบาท จึงอาจเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือเป็นการใช้ดุลยพินิจโดยมิชอบ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2560 ม.41 ม.25 ประกอบ พรบ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม 2535 และ พรบ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง 2539 โดยชัดแจ้ง

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจึงจะนำความไปเข้าพบและหารือกับผู้ว่าฯ กทม.เพื่อคัดค้านและขอให้สั่งการให้มีการทบทวนโครงการฯ ดังกล่าวเสีย และหากข้อคัดค้านนี้ไม่ได้รับการตอบสนอง สมาคมฯ และชาวบางกะปิ จะนำความนี้ไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อระงับโครงการดังกล่าวต่อไป โดยสมาคมฯ และชาวบางกะปิ จะเข้าพบผู้ว่าฯ กทม.ในวันนี้ วันจันทร์ที่ 8 ก.พ.64 เวลา 13.00 น. ณ สำนักงานผู้ว่าฯ กทม. ศาลาว่าการ กทม.1 เสาชิงช้า เขตพระนคร กทม.