“ผบช.สตม.” นำทีมแถลง “ตม.6-ตม.สุราษฎร์ธานี” ตามรวบหนุ่มใหญ่มาเลเซีย หนีหมายฉ้อโกง 10 ล้านบาท เช็คเจอโดนอีกกระทง “อยู่เกินกำหนด”
12 กุมภาพันธ์ 2564 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุเมธ เมฆขจร ผบก.ตม.6 , พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตติ์ประยูรตี รอง ผบก.ตม.6 และ พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ร่วมแถลงผลการจับกุมคนต่างชาติกระทำความผิดรายสำคัญ และคดีที่น่าสนใจ
สืบเนื่องมาจากก่อนการจับกุมคดีนี้ สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จว.สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากตัวแทนของบริษัทแห่งหนึ่งว่ามีคนต่างชาติ ชื่อนายโล่ว (Mr.Low) หรืออาเหว่ย อายุ 43 ปี สัญชาติมาเลเซีย ซึ่งเป็นลูกจ้างมีตำแหน่งเป็นผู้จัดการฝ่ายประสานงานของบริษัทฯ ได้ทำการปลอมเอกสารการเบิกจ่ายเงิน โดยอ้างว่าต้องนำไปจ่ายค่างวดให้แก่ผู้รับเหมาก่อสร้างในโครงการก่อสร้างวิลล่าชื่อ ดุก จำนวนหลายครั้ง ในระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายน 2563 แต่นายเหว่ยไม่ได้นำเงินส่วนนั้นไปชำระค่าว่าจ้างให้แก่ผู้รับเหมาแต่อย่างใด รวมค่าเสียหายที่นายเหว่ยได้ทำการฉ้อโกงเงินบริษัทดังกล่าวในฐานะนายจ้างไปเป็นจำนวนเงินประมาณ 10 ล้านบาท แล้วได้หลบหนีออกจากพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ไปพำนักอยู่ตามที่ต่างๆ จนกระทั่งพนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติให้ศาลจังหวัดเกาะสมุย ออกหมายจับเพื่อติดตามตัว นายเหว่ย มาดำเนินคดี และศาลจังหวัดเกาะสมุย จึงได้อนุมัติหมายจับที่ 102/2564 ในฐานความผิดฉ้อโกง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ออกสืบสวนจนทราบมาว่านายเหว่ย ซึ่งได้หลบหนีหมายจับดังกล่าวกลับมาหาแฟนสาวในพื้นที่อำเภอเมือง จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้สนธิกำลังร่วมกันวางแผนจับกุมตัวนายเหว่ยตามหมายจับ ซึ่งนายเหว่ยกำลังเดินอยู่ในตลาดแห่งหนึ่งใน ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี จึงได้แจ้งให้นายเหว่ยทราบว่าต้องถูกจับตามหมายจับ และนายเหว่ยรับว่าตนเองชื่อ นายโล่ว (Mr.Low) หรืออาเหว่ย อายุ 43 ปี สัญชาติมาเลเซีย ตรงตามหมายจับจริง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เมื่อตรวจสอบการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ตามรายละเอียดข้อมูลการเดินทางของนายโล่ว (Mr.Low) หรือ อาเหว่ย อายุ 43 ปี สัญชาติมาเลเซีย เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรครั้งสุดท้ายทางด่าน ตม.สะเดา ตม.จว.สงขลา เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2563 ด้วยประเภทการอนุญาตสงวนสิทธิ์กลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีก ได้รับอนุญาตถึง 29 ต.ค.2563 ทำให้การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรขณะทำการจับกุมสิ้นสุดลง จำนวน 99 วัน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดอีก 1 ข้อหา
ด้าน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม./โฆษก สตม. , พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1/รองโฆษก สตม. , พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รอง ผบก.ตม.2/รองโฆษก สตม. และ พ.ต.อ.หญิง เอกอาภา ตันศิริ รอง ผบก.อก.สตม./รองโฆษก สตม. ร่วมกันเปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาด
ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.ระดมกวาดล้างคนต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ขบวนการขนคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตลอดจนการขนแรงงานต่างด้าวเข้า-ออกพื้นที่จังหวัดที่มีคำสั่งห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงการจัดให้มีการเล่นพนันในรูปแบบต่างๆเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
สตม. จึงขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดต่างๆ รวมทั้งการดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนหรือ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี