สกัดบึ้มสภา! ตร.ตั้งจุดตรวจเข้ม เตือนดำเนินคดีม็อบทุกรายที่ทำผิด

19 กุมภาพันธ์ 2564 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น.และ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.(จร.) ในฐานะรองโฆษก บช.น.แถลงเตรียมความพร้อมการรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร กรณีการชุมนุมในวันที่ 19-20 ก.พ.

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า สำหรับการชุมนุมวันที่ 19 ก.พ. เวลา 17.00 น. ที่รัฐสภา (เกียกกาย) ม็อบเฟสต์ได้ประกาศชักชวนในโซเชียลเพียงกลุ่มเดียว ขณะนี้กรุงเทพฯอยู่ในช่วงประกาศ พ.ร.บ.ควบคุมโรค และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เตือนกลุ่มผู้ชุมนุมว่าจัดกิจกรรมเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย บช.น.และ บก.ปอท.ยืนยันจะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทุกราย รวมถึงผู้โพสต์ชักชวนถือว่าเป็นตัวการผู้ร่วมกระทำผิดด้วย เช่นเดียวกับการชุมนุมเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่สถานทูตเมียนมา เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่สามย่านมิตรทาวน์ และเมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มผู้ชุมนุมได้ละเมิดกฎหมายหลายข้อ โดยเฉพาะการปิดการจราจร และก่อความเดือดร้อนให้ประชาชน

ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้ใช้พลุ ดอกไม้เพลิง ดอกไม้ไฟ และระเบิดปิงปอง วัตถุดังกล่าวสามารถทำอันตรายแก่ร่างกายและชีวิตผู้อื่นได้ ทั้งยังเป็นเชื้อเพลิงก่อให้เกิดเพลิงไหม้ในอาคาร สถานที่ราชการ โบราณสถาน หรือสถานที่อื่นๆ สร้างความเสียหายในภาพรวมของประเทศ บช.น.จึงมีความจำเป็นใช้บางมาตรการเพื่อป้องกันเหตุร้าย โดยตั้งจุดตรวจค้น แบริเออร์ และจุดสกัดต่างๆ ขณะนี้ตำรวจได้ตั้งจุดตรวจค้นโดยรอบอาคารรัฐสภา บริเวณแยกเกียกกาย ถนนทหาร ถนนพระราม 5 และถนนสามเสน มีตำรวจทำการตรวจค้นบุคคลที่นำอาวุธเข้ามาในพื้นที่ชุมนุม หากพบบุคคลต้องสงสัยนำพลุ ดอกไม้เพลิง ดอกไม้ไฟ และระเบิดปิงปอง จะทำการตรวจค้นกรณีที่การครอบครองวัตถุเป็นความผิด ก็จะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน ดำเนินคดีตามกฎหมายทันที ถ้าไม่เป็นความผิดจะทำการตรวจสอบและยึดไว้

ทั้งนี้ หากกลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มมีการขว้างปาวัตถุอันตราย เหมือนกับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ตำรวจจะใช้มาตรการตามอำนาจหน้าที่ที่ไม่ใช่ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ โดยใช้กระบวนการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดย พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.ได้สั่งการจัดกำลังตำรวจเพียงพอต่อการชุมนุมทั้งในวันนี้และพรุ่งนี้ เพื่อดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย 3 ส่วน ได้แก่ 1. ดูแกลุ่มผู้ชุมนุมให้อยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสม และไม่กระทบต่อประชาชนโดยรวม 2. ป้องกันเหตุร้ายจากมือที่สามอาจก่อเหตุในบริเวณนั้น และ 3. ดูแลอำนวยความสะดวกประชาชนที่พักอาศัย หรือผ่านสัญจรในบริเวณนั้น

พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า การชุมนุมในวันนี้เวลา 17.00 น. ถนนที่อาจได้รับผลกระทบด้านการจราจรมี 3 เส้นทาง 1. ถนนสามเสน 2. ถนนประชาราษฎร์สาย 1 และ 3. ถนนทหาร ขอให้หลีกเลี่ยงการจราจรตั้งแต่เวลา 14.00 น.เป็นต้นไป เส้นทางที่ปิดการจราจร ได้แก่ ถนนสามเสน (หน้าอาคารรัฐสภา) ทุกช่องทาง เส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบและควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ ถนนสามเสน (แยกบางกระบือ-แยกเกียกกาย), ถนนประชาราษฎร์สาย 1 (แยกเกียกกาย-แยกบางโพ), ถนนทหาร (แยกเกียกาย-แยกสะพานแดง) และเส้นทางที่แนะนำเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบ (กรณีเดินทางจากแยกบางกระบือ-แยกบางโพ) ใช้เส้นทางถนนสามเสน-ขวาแยกบางกระบือ-ถนนอำนวยสงคราม-ซ้ายแยกเกษะโกมล-ถนนพระราม 5-ถนนเตชะวาณิช-ซ้ายแยกสะพานสูง-ถนนประชาราษฎร์สาย 2-แยกบางโพ เบื้องต้นตำรวจจะวางแบริเออร์และแผงเหล็กใช้กำหนดพื้นที่

ส่วนการชุมนุมในพรุ่งนี้ (20 ก.พ.) ขณะนี้ยังไม่ทราบเวลาและสถานที่แน่ชัด แต่คาดว่าเป็นช่วงบ่ายที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หรือสนามหลวง ขอให้หลีกเลี่ยงถนนราชดำเนินกลาง (แยกผ่านฟ้า-แยกผ่านพิภพลีลา) และถนนดินสอ (แยกวันชาติ-แยกมหรรณพ) อย่างไรก็ตาม มีบทเรียนจากกรณีการชุมนุมเมื่อวันที่ 13 ก.พ. กลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนตัวจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมายังสนามหลวง ทำให้เกิดผลกระทบกับประชาชนในการสัญจร สำหรับผู้ใช้เส้นทางสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ขอให้หลีกเลี่ยงไปใช้สะพานพระราม 8 สะพานกรุงธน (ซังฮี้) สะพานพุทธยอดฟ้า และสะพานพระปกเกล้า ถนนโดยรอบของถนนราชดำกลางสามารถใช้งานได้ปกติ หากกลุ่มผู้ชุมนุมไม่เคลื่อนที่สามารถใช้ถนนอัษฎางค์-แยกผ่านพิภพลีลา-สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า

ทั้งนี้ บช.น.ได้จัดเตรียมกำลังตำรวจจราจร คอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด หากต้องการสอบถามข้อมูลเส้นทาเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) โทรศัพท์ 1197 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือทางแอพพลิเคชั่น M-Help Me และทางเว็บไซต์ WWW.TRAFFICPOLICE.GO.TH.