22 กุมภาพันธ์ 2564 ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ได้มีการทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ในการประเมินสุขภาพจิตนักเรียน ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งในการสร้างความปลอดภัยให้แก่เด็กนักเรียน โดยหลักการสำคัญประการหนึ่งของโรงเรียนที่จะเป็นโรงเรียนคุณภาพ คือเรื่องความปลอดภัยและเป็นสถานที่ที่เด็กอยู่แล้วมีความสุข ซึ่งจากการหารือร่วมกันหลายฝ่ายเห็นตรงกันว่า เรื่องของความปลอดภัยสำหรับเด็กจะต้องปลอดภัยทั้งด้านร่างกายและจิตใจ จึงเป็นที่มาของการทำความตกลงระหว่าง สพฐ.กับกรมสุขภาพจิตดังกล่าว
โดยกรมสุขภาพจิตจะเข้ามาให้ความรู้แก่ครูในการประเมินนักเรียนของ สพฐ.ด้วยแบบสอบถาม ซึ่งจะทำให้ทราบว่าเด็กแต่ละคนมีสุขภาพจิตระดับใด จากนั้นจะแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มปกติและไม่ปกติ โดยเฉพาะกลุ่มไม่ปกติก็จะถูกแบ่งย่อยออก เช่น ชอบทำร้ายตัวเอง หรือทำร้ายคนอื่น หรือมีปัญหาทางจิตอะไรบ้าง
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า ความร่วมมือดังกล่าว นอกจากกรมสุขภาพจิตจะให้ความรู้ในการประเมินเด็กแล้ว ยังให้ความรู้การดูแลเด็กแต่ละกลุ่มด้วย ซึ่งถ้าเกินความสามารถของครูก็จะให้คำแนะนำในการประสานกับหมอ พยาบาล ในแต่ละพื้นที่นั้นๆ ซึ่งถ้าสามารถทำงานประสานกันได้ตามแนวทางนี้ทั้งหมดจะทำให้เด็กมีทั้งสุขภาพกายที่ดี และสุขภาพจิตที่สมบูรณ์ โดยขณะนี้กรมสุขภาพจิตและสพฐ.ได้เชื่อมโยงข้อมูลถึงกันแล้ว
ดังนั้น หากเราป้อนข้อมูลเด็กโดยถามคำถาม 9 ข้อ ก็จะสามารถประเมินได้เลยว่าเด็กแต่ละคนมีสภาพจิตใจเป็นอย่างไร เพื่อที่จะสามารถดูแลแก้ปัญหากันแต่เนิ่น ๆ อย่างไรก็ตามสพฐ.คาดหวังที่จะให้มีการประเมินเด็กทุกคนทั้งประเทศ แต่ในทางปฏิบัติจะเริ่มทำต้นแบบก่อน เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว. ศึกษาธิการ ที่จะสร้างโรงเรียนคุณภาพของชุมชน และโรงเรียนดีสี่มุมเมือง ดังนั้น จึงจะมีการนำร่องในโรงเรียนคุณภาพของชุมชน และโรงเรียนดีสี่มุมเมืองก่อนในปีการศึกษา 2564 เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ปกครองและชุมชนว่าเมื่อส่งลูกมาเรียนโรงเรียนดังกล่าวแล้วจะได้รับการดูแลด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิตเป็นอย่างดี
“ผมรู้สึกหดหู่ใจทุกครั้งที่มีข่าวเกี่ยวกับสุขภาพจิตของเด็ก โดยเฉพาะเมื่อเร็วๆ นี้ที่มีเด็ก ป.6 ผูกคอตาย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเด็กแค่ ป.6 ผูกคอตาย อาจจะขาดความรัก ความอบอุ่นในครอบครัวหรือไม่มีที่ปรึกษาที่ดี ดังนั้น การทำงานร่วมกันครั้งนี้ น่าจะทำให้ สพฐ.และหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลจิตใจของเด็กช่วยกันทำให้เด็กมีสุขภาพกายที่ดี สุขภาพใจที่ดี สามารถเรียนได้อย่างมีความสุข และที่สำคัญสถาบันครอบครัว พ่อแม่ ผู้ปกครอง จะต้องให้ความร่วมมือในการช่วยสอดส่องดูแล สังเกตพฤติกรรมของลูกหลานด้วย” ดร.อัมพร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี