วินจักรยานยนต์แห่ให้กำลังใจ รมว.แรงงาน ปลื้มช่วยผู้ประกันตน รับเงินเยียวยาคนละ 4,000 บาท เลขาธิการ สปสช. เผย มีผู้ประกันตนลงทะเบียนโครงการ “ม33เรารักกัน” 3 วัน ยอดแตะ 7.6 ล้านราย
“จุรินทร์” สั่งพาณิชย์จังหวัด เร่งตรวจสอบราคาสินค้าในร้านค้าที่รับชำระ‘คนละครึ่ง-เราชนะ-เรารักกัน’ หากพบโก่งราคาให้ลงโทษหนัก ขณะที่โครงการเราชนะ มีผู้ใช้สิทธิ์รวมแล้วกว่า 28.8 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยมากกว่า41,522ล้านบาท

เมื่อเวลา 08.45น.วันที่ 23กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงแรงงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ให้การต้อนรับ นายมานิตย์ พรหมการีย์กุล ประธานสภาองค์การลูกจ้างแรงงานยานยนต์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายสันติ ปฏิภาณรัตน์ เลขาธิการสมาคมผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างแห่งประเทศไทย และ รองประธานสหพันธ์แรงงานนอกระบบ เพื่อให้กำลังใจและสนับสนุนการทำงานของรมว.แรงงานที่ได้ให้ความช่วยเหลือกรณีผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด -19 ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว กลาโหม ได้สั่งการ รมว.แรงงาน ดำเนินการหาทางช่วยเหลือ จนในที่สุดมีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาเห็นชอบโครงการ ม33เรารักกัน เพื่อช่วยเหลือผู้ประกันตนในระบบประกันมาตรา 33 ที่มีจำนวน 9.27 ล้านคน ให้ได้รับเงินช่วยเหลือจากผลกระทบโควิด -19 คนละ 4,000 บาทตามโครงการ ม33เรารักกัน ได้เป็นผลสำเร็จ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด ออกตรวจสอบราคาสินค้าที่จำหน่ายในร้านค้าที่ได้รับประโยชน์จากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทั้ง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คนละครึ่ง เราชนะ และล่าสุดกำลังจะมี เรารักกัน เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าอย่างไม่สมเหตุสมผล จนทำให้ประชาชนที่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลได้รับความเดือดร้อน และให้รายงานสถานการณ์เข้ามาทุกวัน

“ให้กำชับร้านค้าต้องปิดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจน ห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา หรือจำหน่ายสินค้าในราคาที่สูงเกินสมควรโดยเด็ดขาด หากพบเห็นดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และมีโทษหนัก”นายจุรินทร์ กล่าว สำหรับโทษตามพรบ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้า มีโทษปรับไม่เกิน 10,000บาทและกรณีขายแดงเกินสมควร มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน รายงานผลการลงทะเบียนของผู้ประกันตนมาตรา 33 ผ่านเว็บไซต์ www.ม33เรารักกัน.com เพื่อรับสิทธิเงินช่วยเหลือเยียวยาค่าครองชีพจากรัฐบาลคนละ 4,000 บาท โดยเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์-7 มีนาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. ว่า วันนี้เป็นวันที่ 3 โดยตัวเลขล่าสุด ณ เวลา 15.00 น. สรุปรวมยอดผู้ลงทะเบียนรับสิทธิ์รวมกัน 3 วัน มีจำนวนทั้งสิ้น 7,687,131 ราย หากลงทะเบียนแล้วแต่ไม่ผ่านสามารถขอทบทวนสิทธิผ่านเว็บไซต์ www.ม33เรารักกัน.com ได้ในวันที่ 15-28 มีนาคม 2564

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการเปิดจุดรับลงทะเบียนโครงการเราชนะ (โครงการฯ) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่กลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ณ สาขาและจุดบริการเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำนักงานคลังจังหวัด สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ รวมถึงหน่วยรับลงทะเบียนเคลื่อนที่ของกระทรวงมหาดไทยทั่วประเทศ โดยมีผู้ที่ได้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ จนถึงปัจจุบันแล้ว จำนวน 995,349 คน

ทั้งนี้ กลุ่มผู้ที่ที่ลงทะเบียนระหว่างวันที่ 15-21 กุมภาพันธ์ จะทราบผลการคัดกรองคุณสมบัติในวันที่ 4 มีนาคม และจะได้รับวงเงินสิทธิ์ครั้งแรกในวันที่ 5 มีนาคม และกลุ่มผู้ที่ลงทะเบียนระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์-5 มีนาคม จะทราบผลการคัดกรองคุณสมบัติในวันที่ 15 มีนาคม และจะได้รับวงเงินสิทธิ์ครั้งแรกในวันที่ 19 มีนาคม

สำหรับข้อมูลความคืบหน้าของการเข้าร่วมโครงการฯ ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ มีดังนี้ กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ เป็นต้นมา จำนวน 23,457.9 ล้านบาท สำหรับกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com เป็นผู้ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ จำนวนมากกว่า 15.1 ล้านคน มีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ เป็นต้นมา จำนวน 18,064.5 ล้านบาท รวมมีผู้ใช้สิทธิ์จำนวน 28.8 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยไปแล้วมากกว่า 41,522.4ล้านบาท