ในปีที่ผ่านมา มีประเด็นเกี่ยวกับโรงเรียนและครูได้รับความสนใจจากสังคม โดยเฉพาะนักเรียนและบรรดาผู้ปกครองของพวกเขาเหล่านั้นเป็นอย่างมากรวมไปถึงการวิพากษ์วิจารณ์ในแง่มุมต่างๆ อันหลากหลายผ่านช่องทางสื่อหลักและสื่อออนไลน์ ผมจึงถือโอกาสสรุปประเด็นที่มีการกล่าวถึงโรงเรียนและครูตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นออกมา เพื่อขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการหาทางออกที่เหมาะสมแก่ทั้งครู โรงเรียน และนักเรียน (ผู้ปกครอง) ดังนี้
ประเด็นแรก คือ เรื่องของความรุนแรงและการใช้อำนาจ ซึ่งในปีที่ผ่านมาผมได้พยายามสื่อสารในเรื่องนี้มาโดยตลอดว่า นี่เป็นปัญหาที่ต้องจัดการโดยเร็ว เพราะถ้าไม่แก้ไขจะยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก็มีตั้งแต่ครูลงโทษรุนแรงกับนักเรียน นักเรียนกระทำรุนแรงและคุกคามกันเอง ไปจนถึงกฎระเบียบของโรงเรียนที่นักเรียนไม่ยอมรับ โดยเฉพาะเรื่องทรงผมและเครื่องแบบ นั่นอาจตีความหมายได้ว่า สภาพสังคมในโรงเรียนไม่น่าอยู่ และสร้างปัญหาให้กับนักเรียน
ประเด็นที่สอง คือ เรื่องคุณภาพของการเรียนรู้ ซึ่งถ้าตามอ่านบทความของผมจะทราบอย่างชัดเจนว่า ผมเตือนเรื่องครูและโรงเรียนไม่สามารถสอนให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ที่มีคุณภาพได้มาโดยตลอด ปัญหานักเรียนคิดวิเคราะห์ และแก้ปัญหาไม่เป็น รวมไปถึงคุณภาพการศึกษาด้านวิชาการอ่อน ถึงตอนนี้ยิ่งชัดเจนแล้วหลังจากปรากฏผลคะแนนสอบ O-NET ของนักเรียนไทยที่สอบตกทั้งประเทศ อีกทั้งคะแนน PISA ที่ต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านมาก
นี่เป็นปัญหาเรื้อรังมานานหลายสิบปี ที่ถึงปัจจุบันนี้ก็คงกลายเป็นคำถามที่ชวนน่ากังวลขึ้นมาว่า “เรามีโรงเรียนแบบนี้ไปทำไม” สำหรับผมถ้าโรงเรียนไม่สามารถตอบคำถามนี้ เพื่อให้สังคมยอมรับในเรื่อง “คุณค่าและประโยชน์” ของโรงเรียนได้ ก็ควรต้องยุบทิ้งไป เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่รัฐบาลจะต้องเอาภาษีประชาชนไปอุดหนุนกับโรงเรียนที่ไม่สามารถทำหน้าที่ที่สังคมต้องการได้อีก
ดังนั้น สิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องทำความเข้าใจก็คือ “เรามีโรงเรียนไปทำไม” ซึ่งผมแบ่งได้เป็น 4 เรื่องใหญ่ ดังนี้
1. การพัฒนาศักยภาพทางการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาของนักเรียน เพื่อให้นักเรียนมีสมรรถนะการเรียนรู้และการแก้ปัญหาได้ด้วยตนเองต่อไป และเป็นปัจเจกบุคคลที่มีคุณภาพทางสติปัญญา
2. การสร้างและพัฒนาบุคลิกภาพและจิตสำนึกของนักเรียนให้สามารถที่ดำเนินชีวิตของตนเองได้และมีสำนึกความรับผิดชอบต่อส่วนรวม ผ่านกระบวนการค้นพบตัวเองและดึงศักยภาพของตนเองออกมาใช้ประโยชน์ทั้งต่อตนเองและส่วนรวม
3. การอยู่ร่วมกันกับคนอื่นที่แตกต่างด้วยความเข้าใจ และยอมรับความแตกต่างของแต่ละคนการเคารพในความคิดและตัวตนของคนอื่น ทำให้สามารถที่จะทำงานและใช้ชีวิตร่วมกับคนที่หลากหลายในสังคมได้โดยไม่สูญเสียความเป็นตัวตนของตนเอง
และ 4. การสร้างความเป็นพลเมืองร่วมกันผ่านการเข้าใจและยอมรับแรงยึดเหนี่ยวทางสังคมร่วมกันผ่านขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมความเชื่อศรัทธา จนถึงกฎหมายของประเทศ รวมไปถึงการตระหนักถึงหน้าที่และความรับผิดชอบของตนเองในฐานะพลเมืองของประเทศที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อประเทศชาติและเพื่อนร่วมชาติ
ด้วยเป้าหมายทั้งหมดนี้ อาจกล่าวได้ว่า โรงเรียนที่ปฏิบัติหน้าที่ทั้ง 4 ประการตามที่กล่าวมาถือเป็นการขับเคลื่อนกลไกสำคัญในการ “สร้างคนและสร้างชาติ” อย่างแท้จริง แต่ในปัจจุบันตามที่กล่าวถึงปัญหาของโรงเรียนตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไปแล้วนั้น โรงเรียนไม่ได้ทำหน้าที่เป็นกลไกของการสร้างคนและสร้างชาติ และอาจเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความขัดแย้งแตกแยกของคนในสังคม ซึ่งส่งผลให้ประเทศชาติเกิดความอ่อนแอขึ้น
ผมคิดว่า ถึงเวลาแล้วที่เราต้องมาตั้งคำถามพื้นฐานเกี่ยวกับ “โรงเรียน” โดยเฉพาะคำถามเกี่ยวกับ“การมีโรงเรียน” อย่างตรงไปตรงมา และค้นหาสาเหตุที่ทำให้โรงเรียนในปัจจุบันเบี่ยงเบนออกไปจากเป้าหมาย ของ “การมีโรงเรียนที่ควรจะเป็น” ซึ่งไม่ใช่เพียงเพื่อให้ครูมีงานทำ นักเรียนมีที่ไปรวมกลุ่มกับเพื่อน หรือผู้บริหารกระทรวงมีตำแหน่งและอำนาจ เท่านั้น
อันที่จริง “การทำโรงเรียนให้เป็นโรงเรียน” แม้ว่าจะเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผ่านนโยบายของรัฐมนตรีว่าการที่ดูแลการบริหารจัดการทั้งหมด แต่เมื่อปัญหาไม่ได้รับการจัดการมาอย่างยาวนาน อีกทั้งคุณภาพการเรียนรู้ของนักเรียนก็เสมือนจะได้รับความสำคัญไม่มากนักในช่วงเวลาที่ผ่านมา ดังนั้น ถึงเวลาแล้วหรือยังครับ ที่พวกเรา(โดยเฉพาะคนที่สนใจเรื่องของการศึกษา) ต้องเปิดตัวออกมาร่วมด้วยช่วยกันตอบคำถามดังกล่าวนี้ เพื่อเสนอแนะกระบวนการหรือแนวทางที่จะปฏิรูปโรงเรียนให้เป็นสถานที่ในการสร้างความหมายทั้ง 4 ประการ (ดังที่ผมนำเสนอไป) สู่การเติบโตอย่างมีคุณภาพของนักเรียน ทั้งในด้านวิชาการและการดำเนินชีวิต เพราะการยกระดับคุณภาพการศึกษาไทย ไม่ควรต้อง “รอ” ต่อไปอีกแล้ว
กนก วงษ์ตระหง่าน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี