"อังคณา"ทวงดีเอสไอ 17 ปีคดี"ทนายสมชาย"ไม่คืบ พี่สาว"วันเฉลิม"ระบุหายตัวนานกว่า 9 เดือนแล้ว จ่อยื่นหนังสือเรียกร้ององค์การ EU กดดัน ด้าน"กรวัชร์"รับห่วงความรู้สึกครอบครัวคนหาย
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2564 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยาทนายสมชาย นีละไพจิตร , นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 พร้อมญาติผู้สูญหายในประเทศไทย และนักกิจกรรมจากแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย รวม 20 คน เดินทางยื่นหนังสือต่อ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีดีเอสไอ เพื่อทวงถามความคืบหน้าคดีและร่วมรำลึก 17 ปี การหายตัวไปของ ทนายสมชาย นีละไพจิตร และผู้สูญหายคนอื่นๆ
นางอังคณา กล่าวว่า เวลาผ่านไป 17 ปีแล้วกับการหายตัวไปของ นายสมชาย นีละไพจิตร แต่จนถึงทุกวันนี้รัฐบาลยังไม่สามารถหาตัวคนผิดมาลงโทษได้ ขณะที่ตำรวจระบุว่าได้พยายามทำงานเพื่อติดตามคดี แต่ส่วนตัวก็มองว่าไม่มีอะไรคืบหน้า ซึ่งคดีการหายตัวไปถือว่าเป็นการถูกบังคับให้สูญหาย และเป็นคดีแรกที่ถูกนำขึ้นสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมจนถึงชั้นฎีกา แม้สุดท้ายศาลมีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเห็นว่าคดีบุคคลถูกบังคับให้สูญหายไม่มีความคืบหน้า แต่ก็ขอบคุณดีเอสไอที่ยืนยันว่าจะยังคงทำคดีอย่างต่อเนื่อง แต่หลักสำคัญที่จะบ่งบอกถึงความจริงใจว่ายังมีความพยายามแก้ปัญหาการบังคับบุคคลสูญหาย คือบทบาทของรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งไม่เคยแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหาเรื่องนี้
นางอังคณา กล่าวว่า แม้ที่ผ่านมาจะมีความพยายามในการผลักดันร่าง พ.ร.บ.ลงนามอนุสัญญาคนหายของสหประชาชาติ เข้าสภาตั้งแต่ปี 2555 แต่จนถึงขณะนี้เกือบ 10 ปี รัฐบาลไม่เคยพูดถึง และแม้จะมีการตั้งคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบกรณีถูกกระทำทรมานและถูกบังคับให้สูญหาย แต่คณะกรรมการชุดนี้กลับพยายามลบชื่อผู้สูญหายในไทยออกจากรายชื่อของคณะทำงานด้านการบังคับสูญหายโดยไม่สมัครใจขององค์การสหประชาชาติ มากกว่าการเปิดเผยที่อยู่และชะตากรรมของผู้สูญหาย หรือนำคนผิดมาลงโทษ และชดใช้เยียวยาเหยื่อและครอบครัว จึงไม่แปลกใจที่ไม่เคยได้ยิน พล.อ.ประยุทธ์ เอ่ยชื่อผู้สูญหายในประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ขอเรียกร้องทางการไทยให้ผ่านร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย พ.ศ. .... เพื่อสอดคล้องกับมาตรฐานสิทธิมนุษยชนและกฎหมายระหว่างประเทศไทย ป้องกันการอุ้มหายอย่างมีมาตรฐานในอนาคต
ขณะที่ น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยการเมืองที่ถูกอุ้มหายในประเทศกัมพูชา เปิดเผยว่า นานกว่า 9 เดือนแล้วที่นายวันเฉลิม หายตัวไป และล่าสุดก็ยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับคดี ทั้งจากทางการไทย และประเทศกัมพูชา แม้ว่าการสืบสวนคดีในปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีในการสืบสวนสอบสวนที่ดี แตกต่างจากเมื่อ 17 ปีก่อน รวมถึงมีพยานหลักฐานต่างๆ เช่น ภาพจากกล้องวงจรปิด แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ดำเนินการอะไร ซึ่งตนเองวางแผนไว้ว่าหากครบกำหนด 1 ปีของการสูญหาย ตนเองจะเดินทางไปยื่นหนังสือให้องค์กรต่างประเทศในทวีปยุโรป เพื่อเรียกร้องให้เรื่องดังกล่าวมีความคืบหน้า
ด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า ดีเอสไอติดตามคดีคนสูญหายมาโดยตลอดและทุ่มเทการทำงานตั้งแต่ตนเองมารับตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ ซึ่งการสูญหายเป็นระยะเวลานานก็มีผลทำให้พยานหลักฐานสำคัญสูญหาย ซึ่งก็มีผลต่อรูปคดี แต่อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอก็จะพยายามติดตามและหาหลักฐานประกอบคดีให้ถึงที่สุด เพื่อจะได้กระจ่าง เพราะเป็นห่วงความรู้สึกครอบครัวของผู้สูญเสีย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี