วันที่ 2 เมษายน 2564 กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศ พื้นที่ภาคเหนือ วันที่ 2 เม.ย.64 เวลา 08.00 น. พบว่าเช้านี้คุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลางถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ ตรวจพบค่าฝุ่น 2.5 อยู่ระหว่าง 49 - 311 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยเกินเกณฑ์มาตรฐาน 23 พื้นที่ แบ่งเป็นอยู่ในระดับมีผลกระทบเป็นอันตรายต่อสุขภาพ (โซนสีแดง) 8 พื้นที่ และระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (โซนสีส้ม) 15 พื้นที่ มีเพียง 2 พื้นที่คือที่เพชรบูรณ์ และอุทัยธานี ที่คุณภาพอากาศยังปานกลาง แต่จ่อคาบเส้นเกินเกณฑ์มาตรฐาน 49 และ 50 ไมโครกรัมฯ (ค่ามาตรฐานอยู่ที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)

พื้นที่ค่าฝุ่น โซนสีแดง 8 จุด หนักสุดยังคงอยู่ที่ ต.ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย 311 ไมโครกรัมฯ ตามด้วย ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย 119 ไมโครกรัมฯ, ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน 108 ไมโครกรัมฯ, ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน 105 ไมโครกรัมฯ, ต.บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา 103 ไมโครกรัมฯ, ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง 98 ไมโครกรัมฯ, ต.นาจักร อ.เมือง จ.แพร่ 95 ไมโครกรัมฯ, ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ 92 ไมโครกรัมฯ

ด้านสถานการณ์คุณภาพอากาศ พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ในระดับดีมากถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ พบค่าฝุ่น 2.5 อยู่ระหว่าง 19-91 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินเกณฑ์มาตรฐานจำนวน 5 พื้นที่ โดยอยู่ในระดับมีผลกระทบเป็นอันตรายต่อสุขภาพ (โซนสีแดง) 1 พื้นที่คือ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครพนม 91 ไมโครกรัมฯ และอีก 4 พื้นที่อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (โซนสีส้ม) ที่บริเวณต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น, ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร, ต.บึงกาฬ อ.เมือง จ.บึงกาฬ

ขณะที่ เว็บไซต์ www.iqair.com ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศและจัดอันดับเมืองมลพิษโลก โดยรายงานแบบเรียลไทม์วันที่ 2 เม.ย.64 เวลา 08.00 น. พบว่าเมืองเชียงใหม่อยู่ในลำดับที่ 1 ของโลก ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 194 US AQI