เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2564 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบนโยบายและยุทธศาสตร์ในการปฏิบัติงาน โดยเน้นย้ำให้กระทรวงศึกษาธิการปฏิรูปการศึกษา โดยเฉพาะการผลักดันร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. .... ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา พร้อมกับให้กระทรวงศึกษาธิการกำกับดูแลมาตรฐานทางคุณธรรม จริยธรรม ของครูที่ปฏิบัติต่อนักเรียน ทั้งเรื่องการล่วงละเมินทางเพศ การใช้ความรุนแรงในสถานศึกษา ให้ปรับปรุงหลักสูตรให้เด็กเรียนรู้ประวัติศาสตร์ และวิชาหน้าที่พลเมือง และให้ปรับโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการที่เป็นกระทรวงใหญ่ มีการแบ่งเป็นแท่ง จึงทำให้การทำงานประสานกันลำบาก ซึ่งสิ่งที่รองนายกรัฐมนตรีแนะนำ ตนก็จะนำมาปรับใช้ให้เข้ากับนโยบาย 12 ข้อ 7 วาระเร่งด่วนของตน และจะหารือกับผู้บริหารระดับสูงกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อนำข้อข้อเสนอแนะของนายวิษณุ มาเป็นส่วนหนึ่งของแผนการทำงานต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า เวลาการทำงานของรัฐบาลเหลือ 2 ปี จะขับเคลื่อนงานได้ตามที่วางนโยบายไว้ได้ทันหรือไม่ น.ส.ตรีนุช กล่าวว่า ไม่กังวล ไม่เครียด และเข้าใจว่าระยะเวลาการทำงานเหลือเพียง 2 ปี ดังนั้น จะต้องทำงานตามแนวทางตามนโยบายที่วางไว้ โดยจะเร่งขับเคลื่อนงานให้ได้มากที่สุด และไม่ว่าจะสามารถขับเคลื่อนสำเร็จได้มากหรือน้อยแค่ไหน ก็ยอมรับผลการทำงานที่ออกมา
ด้าน นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า สิ่งที่นายวิษณุ เน้นย้ำการทำงานให้ผลักดันตามนโยบาย 12 ข้อ 7 วาระเร่งด่วน ที่ น.ส.ตรีนุช ได้วางไว้ และการทำงานทุกอย่างต้องมีตัวชี้วัดความสำเร็จของนโยบายแต่ละข้อ แต่ละประเด็นด้วย ถ้ามีตัวชี้วัด จะทำให้การทำงานมีความชัดเจนมากขึ้น โดยรองนายกฯ ได้ยกตัวอย่างการทำงาน เช่น การเรียนการวิชาสอนประวัติศาสตร์ วิชาหน้าที่พลเมือง จะทำอย่างไรที่จะขับเคลื่อนให้เห็นเป็นรูปธรรม และมีตัวชี้วัดที่ชัดเจนว่า สพฐ.ได้จัดการเรียนการสอนที่เข้มข้น ทำให้นักเรียนเกิดพฤติกรรมรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และทำให้นักเรียนมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ เป็นต้น
"ท่านรองนายกฯ วิษณุ ก็ได้เน้นย้ำถึงการพัฒนาเด็ก ว่าจะทำอย่างไรให้เด็กทุกคนได้ลงมือทำในสิ่งที่ชอบ มีสมรรถนะครบทุกมิติ จับต้องได้ หรือการเรียนรูปแบบ Active Learning ที่เป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนได้ลงมือกระทำ สพฐ.จะทำอย่างไรให้นักเรียนสามารถนำสิ่งที่เรียนไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ หรือนำไปประกอบอาชีพ และต่อยอดนวัตกรรมใหม่ๆ ได้ ซึ่งสิ่งที่รองนายกฯได้เสนอแนะนั้น ได้เติมเต็มความชัดเจนในส่วนของการสร้างตัวชี้วัดให้ชัดเจนมากขึ้น ผมจะรับจุดเน้นที่ท่านรองนายกฯ เสนอแนะ และนโยบายของ ท่าน รมว.ศธ.มาขับเคลื่อนลงสู่การปฏิบัติให้เห็นเป็นรูปธรรม ตั้งแต่ส่วนกลางว่าจะทำอะไร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) จะทำอะไร และระดับโรงเรียนจะขับเคลื่อนงานอะไรบ้าง เพื่อให้เห็นผลงานที่เป็นรูปธรรม และจะสร้างตัวชี้วัดที่สามารถวัดความสำเร็จได้ด้วย" นายอัมพร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี