โควิดยังแรงป่วยพุ่ง 1,940 คน
ตายอีก 21 ศพ
โคม่า 954 -ใส่ท่อหายใจ 270
กทม./ปริมณฑลน่าห่วงที่สุด
จนท.เร่งตรวจคัดกรองเชิงรุก
จองฉีดวัคซีนแล้ว 4.3 แสนคน
หมอยงให้ระวังเชื้อกลายพันธุ์
ยอดติดเชื้อโควิดไทยทะยานไม่หยุด 1,940 ราย ตายเพิ่ม 21 ศพ ป่วยสะสม 68,984 ราย ยังรักษาตัว 29,481 ราย อาการหนัก 954 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 270 ราย ขณะที่กรมควบคุมโรคติดตามเชื้อกลายพันธุ์ต่อเนื่อง ศบค.ห่วงกทม.-ปริมณฑลจำนวนคนติดเชื้อกระจุกตัว เผยเตรียมลุยตรวจรายพื้นที่เสี่ยงเน้นชุมชน ต้นตอจากครอบครัว-เพื่อนมากที่สุด เผย
บูรณาการสายด่วนรับส่งผู้ป่วยคืบหน้า รอเตียงเหลือแค่ภายใน 48 ชั่วโมง
กต.ชะลอคนต่างชาติเข้าประเทศ ผวาเชื้อกลายพันธุ์ ลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนแล้วกว่า 4 แสนราย ย้ำแจ้งผ่านรพ.ที่รักษาตัวอยู่หรืออสม.โดยตรงได้ หมอยงเตือนระวังสายพันธุ์แอฟริกาใต้หลุดข้ามพรมแดนใต้
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตรายวันที่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ติดเชื้อเพิ่ม1,940-โคมา954-ใส่ท่อ270
โดยไทยพบผู้ติดเชื้อใหม่ 1,940 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 1,930 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,788 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 142 ราย เป็นผู้เดินทางต่างประเทศ 10 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 68,984 ราย หายป่วยสะสม 39,481 ราย อยู่ระหว่างรักษา 29,481 ราย อาการหนัก 954 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 270 ราย มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 21 ราย เป็นชาย 12 ราย หญิง 9 ราย อยู่ใน กทม. 8 ราย เชียงใหม่ 4 ราย ชลบุรี ลำพูน จังหวัดละ 2 ราย นครปฐม ตาก ระยอง นครสวรรค์ อุดรธานี จังหวัดละ 1 ราย สาเหตุการติดเชื้อส่วนใหญ่มาจากใกล้ชิดสมาชิกครอบครัวที่ติดเชื้อ สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน และมีถึง 2 รายที่ติดเชื้อขณะนอนอยู่ในโรงพยาบาล ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 245 ราย
ดับ21-ห่วงเชื้อกลายพันธุ์-ชะลอเข้าปท.
พญ.อภิสมัยกล่าวต่อว่า ขณะที่ผู้เสียชีวิต 21 คน เป็นชาย 12 คน หญิง 9 คน โดยค่ามัธยฐานของอายุอยู่ที่ 66 ปี (34-88ปี) แบ่งเป็นกรุงเทพมหานคร 8 คน เชียงใหม่ 4 คน ชลบุรีและลำพูนจังหวัดละ 2 คน และนครปฐม ตาก ระยอง นครสวรรค์ อุดรธานีจังหวัดละ 1 คน
ส่วนสถานการณ์โควิดทั่วโลกพบป่วยสะสม 152,800,831 คน เสียชีวิตสะสม 3,206,451 คน ไทยอยู่อันดับ 102 เพิ่มจากเมื่อวานอยู่ 103 อย่างไรก็ตาม อินเดียยังพบตัวเลขสูงสุด ขณะที่หลายประเทศในเอเชียมีการพูดถึงเชื้อกลายพันธุ์ อย่างสายพันธุ์อินเดีย ซึ่งไทยติดตามใกล้ชิดมาก โดยกรมควบคุมโรคติดตามเชื้อกลายพันธุ์อยู่ตลอด อย่างไรก็ตาม กรณีผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ หลังพบเชื้อโควิดกลายพันธุ์ โดยสายพันธุ์อินเดียระบาดหลายประเทศ ขอให้ติดตามประกาศจากกระทรวงการต่างประเทศที่จะชะลอบุคคลที่ไม่ใช่คนไทยเดินทางเข้ามาในประเทศ
ต้นตอคนในครอบครัว-โรคประจำตัว
สำหรับสาเหตุติดเชื้อส่วนใหญ่ กรมควบคุมโรคเก็บข้อมูลพบปัจจัยเสี่ยงติดเชื้อมาจากใกล้ชิดสมาชิกครอบครัวที่ติดเชื้อ สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน และมีถึง 2 รายที่ติดเชื้อขณะนอนอยู่ในโรงพยาบาล ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 245 ราย ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงพบโรคประจำตัวคือ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ ไขมันในเลือดสูง โรคหลอดเลือดสมอง มะเร็ง อ้วน โรคปอดเรื้อรัง โรคไตเรื้อรัง ปฎิเสธโรคประจำตัว 3 คนและมี 3 คนเป็นผู้ป่วยติดเตียง ดังนั้น ข้อมูลเหล่านี้จึงนำมาเปิดเผยให้ประชาชนช่วยกันดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วย ผู้ป่วยติดเตียงที่มีประวัติเหล่านี้ในบ้านตัวเองด้วย
กทม.-ปริมณฑลน่าห่วงลุยตรวจชุมชน
พญ.อภิสมัยกล่าวอีกว่า สำหรับ 5 จังหวัดแรกที่พบผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 2 พฤษภาคม ได้แก่ กทม. 539 ราย นนทบุรี 276 ราย สมุทรปราการ 145 ราย ชลบุรี 89 ราย และปทุมธานี 62 ราย ขณะที่แผนที่ประเทศไทย ข้อมูลวันที่ 2 พฤษภาคมมีจังหวัดที่ไม่พบผู้ติดเชื้อเลย 11 จังหวัด จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อ 1-10 ราย 32 จังหวัด จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อไม่เกิน 50 ราย 27 จังหวัด จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อไม่เกิน 100 ราย 4 จังหวัด จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อเกิน 100 ราย 3 จังหวัด แต่ที่เราเป็นห่วงคือ กทม. และปริมณฑล เพราะจะเห็นว่าผู้ติดเชื้อกระจุกตัวอยู่ใน กทม.และปริมณฑลเป็นส่วนใหญ่ โดยที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กหารือกันว่า จำเป็นต้องค้นหาเชิงรุกในชุมชน ในพื้นที่แออัดให้มากขึ้นกว่าปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่มีมาตรการให้ทำงานที่บ้าน ทิศทางการติดเชื้อลดลง แต่ กทม.และปริมาณกราฟตัวเลขยังขึ้นอยู่ จึงฝากประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการให้เข้าใจความเดือดร้อน และจะเห็นตัวเลขที่เราอยากเห็นลดลง
“อย่างไรก็ตาม แม้จำนวนผู้ป่วยบางวันจะลดลงบ้าง แต่ตัวเลขขึ้นมาอีก 2-3 วัน จึงยังต้องติดตาม ทั้งนี้ การคัดกรองเชิงรุกในชุมชนจะเริ่มมีเพิ่มขึ้น ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กหารือกันว่า อาจต้องลงตรวจชุมชน อย่างพื้นที่แออัดที่ประชาชนอยู่หนาแน่น ต้องตรวจคัดกรองเชิงรุก โดยเฉพาะในกทม.และปริมณฑล ที่ผู้ป่วยกระจุกอยู่”พญ.อภิสมัยกล่าว
ปัจจุบันใช้เวลารอเตียง48ชั่วโมง
และว่า ศบค.ชุดเล็กรายงานผลการพัฒนาระบบบริหารจัดการเตียงในกทม. ระหว่างวันที่ 4-30 เมษายน โดยข้อมูลสรุปจะเห็นว่ากลางเดือนเมษายน ผู้ป่วยทั้งมีอาการหนักและมีอาการเบื้องต้นต้องใช้เวลารอเตียงนานเกิน 10 วัน แต่หลังบูรณาการร่วมกันแล้วจนถึงวันที่ 29 เมษายน ผู้ป่วยทุกระดับจะใช้เวลารอเตียงอยู่ที่ 1-2 วันเท่านั้น โดยอธิบดีกรมการแพทย์รายงานว่า ปัจจุบันเวลารอเตียงอยู่ภายใน 48 ชั่วโมง
ลง’หมอพร้อม’แล้ว4.3แสนคน
การลงทะเบียนรับวัคซีนผ่านแอปพลิเคชั่นและไลน์หมอพร้อมนั้น พญ.อภิสมัยเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมถึงเวลา 09.00 น.วันที่ 2 พฤษภาคม มีผู้ลงทะเบียนแล้ว 430,588 ราย ตัวเลขนี้ทำให้เห็นว่ามีผู้เข้าใช้บริการจำนวนมาก เมื่อลงทะเบียนพร้อมกันจำนวนมากอาจทำให้ระบบขัดข้องชั่วคราว แต่ผู้เกี่ยวข้องพยายามแก้ไขอยู่ ส่วนผู้ไม่สะดวกใช้ช่องทางดังกล่าว ไปลงทะเบียนได้ที่อสม.หรือโรงพยาบาลที่มีประวัติรักษาอยู่ รัฐบาลยืนยันคนไทยมีสิทธิได้รับวัคซีน
สำหรับการจองสิทธิฉีดวัคซีนครั้งนี้ เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และกลุ่มผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคเรื้อรังคือ โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งทุกชนิดระหว่างการรักษา โรคเบาหวาน และโรคอ้วน ส่วนประชาชนทั่วไปให้เริ่มจองวันที่ 1 กรกฎาคม
10จว.ติดโควิดเพิ่มสูงสุด-กทม.ครึ่งพัน
วันเดียวกัน ในการแถลงข่าวของ ศบค.ยังได้รายงานสถานการณ์ 10 จังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด อันดับแรก ยังเป็นกรุงเทพฯ 539 ราย ตามด้วยนนทบุรีและสมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร รายใหม่ 539 ราย สะสม 13,283 ราย นนทบุรี รายใหม่ 276 ราย สะม 1,864 ราย สมุทรปราการ 145 ราย สะสม 2,006 ราย ชลบุรี รายใหม่ 89 ราย สะสม 2,609 ราย ปทุมธานี รายใหม่ 62 ราย สะสม 903 ราย เชียงใหม่ รายใหม่ 55 ราย สะสม 3,618 ราย สมุทรสาคร รายใหม่ 52 ราย สะสม 1,014 ราย สุราษฎร์ธานี รายใหม่ 48 รายสะสม 753 ราย ฃ ระนอง รายใหม่ 45 ราย สะสม 237 ราย ฉะเชิงเทรา รายใหม่ 37 ราย สะสม 343 ราย
กรมอนามัยห่วงเปิบในรถกินรวมกัน
วันเดียวกัน นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพและโฆษกกรมอนามัย แถลงว่า กรณีเสนอข่าวให้บริการของร้านซูชิบุฟเฟ่ต์เชียงใหม่แบบ Drive-In Buffet เสิร์ฟตรงถึงที่ให้ลูกค้านั่งกินอาหารในรถยนต์ส่วนตัวนาน 2 ชั่วโมง ซึ่งเป็นการปรับตัวของร้านอาหารหลังกำหนดให้จังหวัดเชียงใหม่เป็น 1 ใน 6 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุด ทำให้ร้านอาหารจำหน่ายเฉพาะซื้อกลับไปกินที่บ้านนั้น แต่การกินอาหารในรถพร้อมกันลักษณะนี้อาจเสี่ยงแพร่เชื้อโควิดได้ เพราะจะไม่ทราบว่าผู้ที่มาอยู่ในรถเป็นสมาชิกในครอบครัวอยู่ในบ้านเดียวกัน หรือเป็นการรวมกลุ่มคนจากหลากหลายที่มาอยู่รวมกันในที่แคบ ห่างกันไม่เกิน 1 เมตร รถเล็กห่างกัน 50 เซนติเมตร อากาศถ่ายเทไม่ดีเท่าที่ควร และใช้เวลากินนานพอสมควร จำเป็นต้องถอดหน้ากากออกเมื่อกินอาหาร เสี่ยงติดเชื้อได้ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยในระยะนี้ประชาชนซื้อไปกินที่บ้าน หรือสั่งอาหารแบบเดลิเวอรีแทน เพื่อลดออกนอกบ้านหรือรวมตัวกันโดยไม่จำเป็น ลดความเสี่ยงติดเชื้อ
ผู้ป่วย2รายติดเชื้อจากญาติไปเยี่ยม
ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์ติดเชื้อโควิด-19 ว่า การะบาดบ้านทั่วโลกพบรายใหม่ 7.9 แสนราย ครึ่งหนึ่งเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศอินเดีย ขณะเดียวกัน ในทวีปเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น ประเทศที่กำลังจะจัดมหกรรมแข่งขันกีฬาที่ยิ่งใหญ่ของโลก พบผู้ป่วยใหม่ 4,664 ราย กัมพูชา 388 ราย และลาว 64 ราย โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้อใหม่สูงสุด 10 ประเทศแรกของโลก ได้แก่ อินเดีย บราซิล สหรัฐอเมริกา ตุรกี ฝรั่งเศส เยอรมนี โคลัมเบีย อิหร่าน อาร์เจนตินา และอิตาลี ส่วนผู้เสียชีวิตรายใหม่ 10 ประเทศแรก ได้แก่ อินเดีย บราซิล สหรัฐอเมริกา โคลัมเบีย เม็กซิโก โปแลนด์ รัสเซีย ตุรกี ยูเครน และอิหร่าน สำหรับประเทศไทยวันนี้พบผู้ป่วยใหม่ 1,940 ราย สะสม 68,984 ราย และผู้เสียชีวิตใหม่ 21 ราย สะสม 245 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.38 โดยผู้เสียชีวิต 2 ราย มีประวัติติดเชื้อขณะที่นอนอยู่ในโรงพยาบาล (รพ.) ซึ่งการอธิบายตรงนี้คือ เมื่อญาติเข้าเยี่ยม ขอให้เข้มงวดป้องกันโรค สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างและล้างมือ ขณะที่ ผู้ป่วยรักษาหายเพิ่มขึ้น 1,183 ราย
ยอดตายคงตัว-คอยเตียงไม่เกิน48ชม.
นพ.เฉวตสรรกล่าวถึงจำนวนผู้ติดเชื้อในระยะนี้ว่า ต้องใช้เวลารักษา จำนวนผู้รักษาหายจะค่อยๆ ไต่จาก 1,000 เป็น 2,000 รายต่อวัน เป็นสัญญาณที่ดี อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้น เริ่มต้นวันที่ 14 เมษายน 1,338 ราย ต่อมาระหว่างวันที่ 16-22 เมษายน ตัวเลขทรงตัวที่ 1,400-1,500 ราย และหลังจากนั้นขยับยกตัวขึ้น แต่นับตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาถึงต้นเดือนพฤษภาคม ผู้ป่วยจะเริ่มหายมากขึ้นต่อเนื่อง และกรณีผู้เสียชีวิตช่วง 3-10 วันหลังพบเชื้อ ฉะนั้น จำนวนผู้เสียชีวิตจะคงตัวระดับนี้ไปอีกระยะหนึ่ง” นพ.เฉวตสรร กล่าว และว่า สถานการณ์ของไทย ขณะนี้ผู้ป่วยกลุ่มสีแดง สีเหลือง และสีเขียว มีระยะเวลารอคอยเตียงลดลง จากเดิมใช้เวลาพอสมควร แต่ขณะนี้ กรมการแพทย์ เป็นเจ้าภาพร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายทั้งหมด มั่นใจได้ว่า ผู้ที่ตรวจแล้วมีผลเป็นบวก ก็จะรอเตียงไม่เกิน 48 ชั่วโมง ก็จะจัดการเรื่องเตียงได้ เนื่องจากมีช่องทางติดต่อคือ สายด่วน 1668 จะคลายความกังวลให้ประชาชนได้
เช็คสายด่วนเคลียร์ผู้ป่วยวันต่อวัน
ด้านน.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้หลายหน่วยงานร่วมกันขยายศักยภาพการให้บริการสายด่วนโควิด-19 ทั้งเรื่องความเพียงพอของบุคลากรและจำนวนคู่สาย เพื่อให้ผู้ติดเชื้อได้รับการดูแลที่สถานพยาบาลตามระดับอาการอย่างรวดเร็ว ตามข้อสั่งการของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โดยการทำงานนั้น 1.กระทรวงสาธารณสุข เพิ่มจำนวนคนมาช่วยรับสาย โทร1668 ซึ่งเป็นจิตอาสาทางการแพทย์และสาธารณสุขกว่า 200 คน และต่อมามีการเพิ่มคู่สาย อีก 40 คู่สายโทร.02-079-1000 เพื่อเสริมศักยภาพในการประสาน รับ-ส่ง ผู้ติดเชื้อไปศูนย์แรกรับอาคารนิมิบุตร 2.กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) คัดนักเรียนแพทย์ที่มีความพร้อมมาช่วยรับโทรศัพท์ 1668 และ 1669 เพื่อแก้ปัญหาคนไม่พอ 3.บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ เข้าปรับปรุงระบบ 1668 และเพิ่มคู่สายให้รองรับปริมาณการโทรจำนวนมาก
4.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิด “ศูนย์ 191” รับแจ้งผู้ป่วยโควิด19 แล้วส่งต่อข้อมูลให้หน่วยงานการแพทย์ ตลอด 24 ชม.รองรับ 1,200 คู่สายทั่วประเทศ 5.สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช) โทร 1330 ตลอด 24 ชั่วโมง ทำงานคู่ขนานกับสายด่วน 1668 ของกระทรวงสาธารณสุข และ 1669 ศูนย์เอรวัณ กทม. เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยยืนยันโควิด-19 สอบถามข้อมูลการใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สิทธิบัตรทอง) และประสานหาเตียง 6.สำหรับผู้ติดเชื้อในกทม.โทรสายด่วน 1669 ศูนย์เอราวัณ ซึ่งจัดระบบรับสายใหม่และเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่รับสาย ขณะนี้ไม่มีปัญหาแล้ว และพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ประชาชนสามารถติดต่อสายด่วน 1668 หรือ 1330 ได้ด้วย ทั้งนี้ เมื่อมีผู้รับเรื่องแล้ว ไม่จำเป็นต้องโทรหมายเลขอื่นอีก เนื่องจากศูนย์เอราวัณจะเป็นศูนย์กลางในการจัดเตียง ขณะนี้ ทางศูนย์ฯ แจ้งว่าสามารถดำเนินการนำส่งผู้ป่วยได้แบบวันต่อวัน ซึ่งนายกฯขอบคุณบุคลากรและอาสาสมัครทุกภาคส่วนที่ทุ่มเทกำลังดูแลประชาชน
เตือนสายพันธุ์แอฟริกาข้ามแดนใต้
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ สายพันธุ์อินเดีย กับสายพันธุ์แอฟริกาใต้ สำหรับไทยการพบสายพันธุ์อินเดีย ในสถานที่กักกันผู้ที่เดินทางมาจากอินเดีย ไม่ใช่เรื่องแปลกและเป็นเรื่องน่าวิตกกังวล ทุกคนเข้ามาได้ตรวจ ถ้าตรวจพบจะกักกัน จนปลอดภัย ไม่ให้มาระบาดในประเทศไทย สิ่งที่น่าเป็นห่วงขณะนี้คือ การระบาดของโควิดในมาเลเซีย จะพบมีทั้งหมด 5 สายพันธุ์ ใน 5 สายพันธุ์นี้สายพันธุ์ที่ต้องระวังการแพร่ระบาดอย่างมากคือ สายพันธุ์แอฟริกาใต้ B.1.351 จากฐานข้อมูล 74 สายพันธุ์ในมาเลเซียที่เผยแพร่สาธารณะ พบว่าเป็นสายพันธุ์นี้ถึง 31% หรือประมาณ 1 ใน 3 ของมาเลเซียที่ระบาดอยู่ ดังนั้น สายพันธุ์นี้จึงมีโอกาสเข้ามาสู่ไทยทางภาคใต้ได้มาก เรามีพรมแดนติดกัน เช่น สายพันธุ์อังกฤษ ระบาดหนักในประเทศไทยขณะนี้ไม่ได้บินมา แต่เดินข้ามพรมแดนธรรมชาติ จึงเกิดการระบาดหนักในไทยขณะนี้ สายพันธุ์แอฟริกาใต้ที่อยู่ในมาเลเซีย เป็นอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลง ไม่ควรให้สายพันธุ์นี้มาระบาดในประเทศไทยได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี