‘ธรรมนัส’รอด

ศาลรธน.ชี้คำพิพากษาตปท.

ไม่มีผลผูกพันกฎหมายไทย

“ร.อ.ธรรมนัส” รอด ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ลักษณะต้องห้ามสมัคร สส.ชี้ตามรธน.บัญญัติหมายความถึงศาลในประเทศเท่านั้นเทียบเคียงคำวินิจฉัย ตปท.ไม่ได้ ทำให้อำนาจอธิปไตยศาลไทยถูกกระทบกระเทือนจึงไม่ขาดคุณสมบัตินั่งรมต. ด้าน’แรมโบ้’ซัด‘ทักษิณ’อย่าโหนกระแสตีกินบนความเดือดร้อนประชาชน ที่ผ่านมาสองพี่น้องทำประเทศบอบช้ำมากแล้ว ศาลกาฬสินธุ์ ให้ประกัน’โตโต้’วงเงิน3แสน

เมื่อเวลา 15.00น.วันที่ 5พฤษภาคม ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้นัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ ลงมติและอ่านคำวินิจฉัยคดีสมาชิกภาพส.ส.และความเป็นรัฐมนตรีของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ จากกรณี ส.ส.51ราย เข้าชื่อร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานะทางการเมืองของ ร.อ.ธรรมนัส สิ้นสุดลงหรือไม่ จากกรณีเคยต้องคำพิพากษา หรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายอันถึงที่สุดว่า ได้กระทำผิดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้ายาเสพติด ที่แม้เป็นคำพิพากษาของศาลต่างประเทศ กรณีดังกล่าวย่อมทำให้ผู้ถูกร้องเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา98 (10) อันเป็นเหตุให้สมาชิกภาพ สส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา98 (10) และความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามมาตรา170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (6) และมาตรา98 (10) หรือไม่

‘ธรมมนัส’รอด-นั่งเก้าอี้รมต.ต่อไป

โดยศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมาย มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวนและกำหนดประเด็นวินิจฉัย คือ 1.สมาชิกภาพ สส.สิ้นสุดลงหรือไม่ นับแต่เมื่อใด 2.ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว หรือไม่ นับแต่เมื่อใด โดยศาลเห็นว่า ก่อนสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส.ร.อ.ธรรมนัส รับว่าเคยต้องคำพิพากษาว่า กระทำความผิดตามคำพิพากษาศาลแขวงนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีข้อที่ต้องพิจารณาว่าข้อที่ว่าเคยต้องคำพิพากษาหมายความถึงความพิพากษาของศาลไทยเท่านั้นหรือไม่ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา3วรรคหนึ่ง ระบุถึงอำนาจอธิปไต ซึ่งหมายถึงอำนาจอธิปไตยคือมีความเด็ดขาดสมบูรรณ์ ไม่อยู่ในอาณัติของรัฐอื่น การพิจารณาพิพากษาอรรถคดีเป็นอำนาจตุลาการซึ่งเป็นหนึ่งในอำนาจอธิปไตย ย่อมไม่ตกอยู่ในอาณัติ หรืออำนาจของตุลาการรัฐอื่น ดังนั้นการบังคับตามคำพิพากษาของศาลต่างประเทศ การตีความคำพิพากษาของศาลต่างประเทศให้มีสถานะทางกฎหมายเช่นเดียวกับคำพิพากษาศาลไทยจึงไม่สอดคล้องกับหลักการดังกล่าว เพราะตามหลักอธิปไตยของรัฐ ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ คำพิพากษารัฐใดจะมีผลในรัฐนั้น หากตีความว่าเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุด หมายรวมถึงคำพิพากษาของศาลต่างประเทศด้วย ทำให้ไม่อาจกลั่นกรอง หรือตรวจสอบความชอบด้วยหลักนิติธรรมของกระบวนการพิจารณาของศาลต่างประเทศและขัดหลักการต่างตอบแทน คือศาลต่างประเทศไม่ต้องบังคับหรือยอมรับคำพิพากษาของศาลไทย ทำให้อำนาจอธิปไตยศาลไทยถูกกระทบกระเทือนอย่างมีนัยยะสำคัญ

แม้ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ร.อ.ธรรมนัส เคยต้องคำพิพากษาของศาลต่างประเทศก่อนสมัครเลือกตั้ง สส.แต่ไม่ใช่คำพิพากษาของศาลไทย ร.อ.ธรรมนัส จึงไม่เข้าลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(10) สมาชิกภาพ สส.ไม่สิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา101(6) ประกอบมาตรา98 (10)และความเป็นรัฐมนตรี ไม่สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา170 วรรคหนึ่ง(4) ประกอบมาตรา160(6)และมาตรา98 (10)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีดังกล่าว ร.อ.ธรรมนัส ถูกพรรคฝ่ายค้านกล่าวหาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ศาลออสเตรเลียมีคำพิพากษาเมื่อเดือนมีนาคม2537ว่า มีความผิดฐานนำเข้าและค้ายาเสพติด สั่งจำคุก 6ปี แต่จำคุก 4ปี ก่อนถูกเนรเทศกลับไทย จึงมีลักษณะต้องห้ามดำรงตำแหน่ง สส.และรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (10) และมีการเข้ายื่นเรื่องให้ประธานสภาฯส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

‘ทักษิณ’ทำทีตกใจยอดย้ายประเทศ

ด้านเพจเฟซบุ๊ก “CARE คิด เคลื่อน ไทย”ได้เผยแพร่บทสนทนาในคลับเฮาส์ของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งใช้ชื่อว่า “Tony Woodsome” โดยระบุว่า พี่โทนี่พูดถึงกระแสกลุ่ม #ย้ายประเทศกันเถอะ ว่า “ผมตกใจมาก 4วัน 7แสนคน ผมคิดว่าสรุปแล้วเราไม่พยายามจะเข้าใจประชาชน ไม่พยายามจะเข้าใจคน Gen Z & Gen Y มันเป็นช่วงที่วิธีคิดเขาไม่เหมือนเรา ไม่เข้าใจกัน และไม่พยายามจะเข้าใจกัน ความไม่เข้าใจเป็นเรื่องธรรมดา แต่ความไม่อยากฟัง มีอำนาจก็ใช้แต่อำนาจเนี่ย ไม่ใช่เรื่องธรรมดา แล้วเด็กยุคนี้ อย่าโกหกเขานะ ทำผิด เขาให้อภัยได้ แต่โกหกไม่ได้ อย่าไปก้าวล่วงชีวิตเขา เราต้องพยายามเข้าใจและฟังเขา เพราะทุกคนเกิดมาแล้วต้องดิ้นรนเพื่ออนาคตตัวเอง’

‘แรมโบ้’สวนกลับอย่าตีกินการเมือง

ขณะที่ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง นายทักษิณ ชินวัตร หรือโทนี่ อดีตนายกฯโพสต์ในClubhouse (คลับเฮาส์) โดยระบุว่า การออกมาเคลื่อนไหวของ นายทักษิณ ไม่ใช่หวังดีต่อประเทศ แต่อยากกล่าวโจมตีนายกฯและรัฐบาลมากกว่า หากมีความหวังดีจริงและเห็นแก่ชาติบ้านเมืองที่กำลังประสบปัญหาโควิด ขอร้องอย่าเคลื่อนไหวใดๆที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งจะดีกว่า

ซัด2พี่น้องทำประเทศเสียหายยับ

“ถ้าคนอย่างแรมโบ้เป็นนายทักษิณ คงตอบในคลับเฮ้าส์ว่า ถ้าได้กลับมาเป็นนายกฯอีกจะออกนโยบายเอื้อประโยชน์ให้ใครอีกบ้าง จะเสนอโครงการอภิมหาโปรเจ็ครับเงินทอน โดยอ้างว่าเตรียมไว้ใช้จ่ายเลือกตั้งให้พรรคตัวเอง หรือจะออกแบบโครงการรับจำนำข้าวแบบจีทูเจี๊ยะ ยอมเสียสละให้ลูกน้องที่เป็น รมต.ติดคุก 48ปี แต่ นายทักษิณ กับน้องสาวหนีไปสุขสบายต่างประเทศ นี่ไงตัวอย่างวีรกรรมที่สร้างไว้ อย่าคิดเพียงแค่โหนกระกระแสตีกิน ซ้ำเติมยามประเทศชาติ ประชาชนกำลังเจอมรสุม‘นายเสกสกล กล่าว ศาลให้ประกัน’โตโต้’วงเงิน3แสน

เวลา 13.42น.ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ให้ประกัน นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ แกนนำกลุ่มการ์ดอาสา “We Volunteer”หรือวีโว่ ในคดีอาญาและ #พรบคอมฯจากการโชว์ป้ายวิจารณ์วัคซีนหาซีนในจังหวัดกาฬสินธุ์ รวมทั้งนำรูปไปโพสต์ในเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ เมื่อปลายเดือนมกราคม2564 โดย นายปิยรัฐ ได้รับการประกันตัวชั่วคราว ด้วยเงิน 3แสนบาท พร้อมติดกำไลEM ละมีเงื่อนไขห้ามทำกิจกรรมเสื่อมเสีย ห้ามออกนอกประเทศ หลังจากมารดายื่นประกันครั้งที่3 เมื่อวันที่ 30 เมษายน ซึ่ง นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่ หัวหน้าพรรคก้าวล่วง เปิดเผยว่า นายปิยรัฐ ได้รับปล่อยตัวช่วงค่ำวันที่ 5พฤษภาคม