ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารการขับเคลื่อนงานนโยบายสําคัญและการแก้ไขปัญหาภาคเกษตรครั้งที่ 4/2564 โดยมีดร.ทองเปลว กองจันทร์ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้บริหารในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทั้งเข้าร่วมประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกลออนไลน์ ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 134 ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เล็งเห็นว่าพืชสมุนไพรมีโอกาสทางการตลาดอีกมาก เนื่องจากสามารถนําไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหากทิศทางของตลาดสมุนไพรขยายตัวเพิ่มมากขึ้นจะช่วยให้เกษตรกรผู้ปลูกพืชสมุนไพร ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัตถุดิบตั้งต้นของอุตสาหกรรมสมุนไพรได้รับประโยชน์ สามารถผลิตและจําหน่ายได้ตามความต้องการของตลาด เกษตรกรจะมีรายได้และความมั่นคงในการดํารงชีพจึงให้ความสําคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาพืชสมุนไพรไทย รวมถึงพืชทางเลือกอื่นๆ
รมว.เกษตรฯ กล่าวต่อไปว่า ดังนั้น เพื่อให้การขับเคลื่อนการพัฒนาพืชสมุนไพรไทย และพืชทางเลือกอื่นๆ บรรลุผลสําเร็จ จึงมอบหมายปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในการขับเคลื่อน และมอบ สศก. เป็นฝ่ายเลขานุการ ในการขับเคลื่อนให้เกิดความเชื่อมโยงในการพัฒนาตลอดห่วงโซ่ อุปทานตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง โดยใช้หลักการ “ตลาดนําการผลิต” ผลิตพืชที่มีศักยภาพ ที่ตลาดมีความต้องการ ซึ่งดําเนินการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีกลไกการขับเคลื่อนพัฒนาพืชสมุนไพรไทย โดยมีคณะอนุกรรมการ และคณะทํางานจํานวน 2 คณะ ดังนี้ 1. คณะอนุกรรมการวัตถุดิบสมุนไพร ซึ่งมีปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานอนุกรรมการ (แต่งตั้งโดยคณะกรรมการนโยบายสมุนไพรแห่งชาติ ตามคําสั่งที่ 1/1563) และ 2. คณะทํางานขับเคลื่อนพัฒนาผลิตผลสมุนไพรที่มีศักยภาพ โดยมีผู้อํานวยการกองนโยบาย เทคโนโลยีเพื่อการเกษตรและเกษตรกรรมยั่งยืน สํานักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน (แต่งตั้งโดยคณะอนุกรรมการวัตถุดิบสมุนไพร มีคําสั่งที่ 1/2563 ลงวันที่ 2 กันยายน 2563)
“ได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่งเสริมสนับสนุนเพื่อให้พืชสมุนไพรเป็นพืชทางเลือกในปี 2564 โดยดำเนินการภายใต้ตลาดนำการผลิต เนื่องจากในสมุนไพรมีสารที่มีคุณค่า สามารถนำไปสกัดแปรรูป เพิ่มมูลค่าสมุนไพรให้กับเกษตรกรได้ ตลอดจนเชื่อมโยงกับงานวิจัย และนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย อย่างไรก็ตาม ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเรื่องกัญชากัญชงแก่เกษตรกรเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ สร้างรายได้ และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ซึ่งยังมีเกษตรกรที่เข้าใจคลาดเคลื่อนโดยเฉพาะการปลูกกัญชาครัวเรือนละ 6 ต้น โดยต้องรวมตัวกัน 7 คนขึ้นไปทำเป็นวิสาหกิจชุมชนถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อป้องกันการนำเอาไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง และเพื่อเป็นการลดผลกระทบที่อาจได้รับการร้องเรียน” ดร.เฉลิมชัย กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี