“พชร”ประธาน ก.อ.ใหม่ เปิดใจประกาศเรียกความเชื่อมั่นศรัทธาองค์กรอัยการคืน ลั่นคดี”บอส” เตรียมจี้ถาม อสส.ไม่เกรงใจใคร สอบเจอใครทุจริตฟันหมด เป็นการบิดเบือนเอาคนผิดมาลงโทษ "เนตร-อัยการ ช.ช้างมีหนาว"หากพบทุจริตไม่จบเเค่วินัยส่ง ป.ป.ช.ดำเนินการต่อ
เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 64 นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) คนใหม่ กล่าวว่า วันที่ 9 มิ.ย.นี้ จะมีการประชุม ก.อ.วาระแรก ซึ่งตนจะเข้าประชุมในฐานะประธาน ก.อ.ภายหลังจากได้รับโปรดเกล้าฯ ซึ่งตนจะเข้าไปรับทราบภารกิจของคณะกรรมการ ก.อ. ที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ในเรื่องการบริหารงานบุคคล หรือการ วางกรอบนโยบายต่างๆ เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน ตามอำนาจหน้าที่ของพนักงานอัยการในเรื่องการดำเนินคดีอาญา ช่วยเหลือประชาชน เเละเป็นที่ปรึกษาหน่วยงานของรัฐตามกฎหมาย เพื่อให้พนักงานอัยการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอิสระ โดยจะรับฟังความคิดเห็นของ ก.อ. ตามที่เเต่ละคนมีความรู้ความสามารถว่า เรื่องไหนควรมีแนวปฏิบัติอย่างไร เพื่อที่จะให้เกิดภาพว่า การบริหารงานของ ก.อ.ไม่ได้มีการแตกความสามัคคี หรือข้อขัดแย้งที่จะสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของอัยการสูงสุด(อสส.)เเละหน่วยงานให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นายพชร กล่าวว่า สำหรับนโยบายที่จะเน้นย้ำเป็นพิเศษเกี่ยวกับเรื่องภาพลักษณ์ขององค์กรอัยการให้ฟื้นความเชื่อมั่นศรัทธานั้น เนื่องจากต้องยอมรับว่า ปัจจุบัน ที่มีข่าวในเรื่องต่างๆเกี่ยวองค์กรอัยการจากสังคมและประชาชนนั้น เเม้ตนจะพ้นจากตำเเหน่ง อสส.มาเเล้ว 13 ปี แต่คิดว่าภาพลักษณ์ของสำนักงานอัยการสูงสุด หรือความน่าเชื่อถือของประชาชนโดยทั่วไปยังมองว่าการปฎิบัติหน้าที่ของพนักงานอัยการบางคน ในการอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนมีข้อสงสัย เมื่อมีเหตุข้อสงสัยของประชาชนแล้ว เเละมีปัญหาขึ้นมา ตนคิดว่า ทางสำนักงานอัยการสูงสุดจะต้องมีเหตุผลชี้แจงให้กับประชาชนว่า การทำหน้าที่ของอัยการบางคนทำถูกต้องตามกฏหมายและระเบียบปฏิบัติหรือไม่ อย่างน้อยเมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นต้องสามารถชี้แจงแถลงเเก่สังคมได้ ว่าเรื่องที่เกี่ยวกับองค์กรอัยการที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร โดยการให้ข้อคิดเห็นจะต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงที่เข้ามาถึงมือของผู้บังคับบัญชาเเล้ว
เมื่อถามถึงความคืบหน้าของการสอบสวนความผิดวินัยชั้นต้น นายเนตร นาคสุข อดีต รอง อสส.ที่มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ผู้ต้องหาขับรถยนต์หรูชนตำรวจ เสียชีวิตเมื่อปี 55 สังคมมองว่ายังไม่มีความคืบหน้านั้น นายพชร กล่าวว่า ในวันประชุม ก.อ.ครั้งเเรกตนจะต้องถาม อัยการสูงสุด หรือ นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ ก.อ.ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นประธานกรรมการสอบสวน ซึ่งเปลี่ยนประธานสอบเป็นคนที่ 3 เเล้วว่า การสอบสวนได้ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว ซึ่งตนทราบมาว่า นอกจากคณะกรรมการชุดนี้แล้วยังมีการตั้งคณะกรรมการอีก 2 ชุด จึงต้องนำทั้ง 3 เรื่องมาพิจารณาเเละสอบถามเเล้วได้ความอย่างไร เเละต้องเร่งรัดให้มีการสอบสวนให้เร็วขึ้น
นายพชร กล่าวอีกว่า ส่วนนายเนตร จะเข้าชี้เเจงหรือไม่ตนไม่ก้าวล่วง เป็นเรื่องของคณะกรรมการสอบสวนที่จะต้องเรียกนายเนตรมาชี้เเจง เเล้วก็มาพิจารณากันว่าที่ชี้เเจงมาเป็นอย่างไร เเละถึงเเม้จะไม่ชี้แจง แต่ยังไงก็ต้องมีการสอบสวนแน่ว่า การสั่งคดีของนายเนตร ดำเนินการโดยอาศัยข้อเท็จจริงใดบ้าง ซึ่งตนคาดว่าทางสำนักงานอัยการสูงสุด คงมีการสอบสวนไปบ้างแล้ว ถ้าสอบเสร็จเเล้ววันนั้นตนจะขอทราบว่ามีความเห็นเป็นอย่างไร เเละนำเข้าพิจารณาในที่ประชุม โดยจะปรึกษาอัยการสูงสุดว่าจะนำผลสอบของทั้ง3 คณะมารวมเป็นข้อเท็จจริงรวมกับเเละดำเนินพิจารณาโดยเร็ว
"ในเรื่องนี้คิดว่าข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายไม่ได้สลับซับซ้อนอะไรเลย เมื่อพิจารณาจากข่าวที่ตนได้ทราบในเรื่องความเร็วรถขณะชนที่มีการยอมรับว่าคำนวณไม่ถูกต้อง เเละเป็นการชนที่ใช้ความเร็วสูง จนสุดท้ายมีการตั้งกรรมการขึ้นมาใหม่ มีความเห็นสั่งฟ้อง นายวรยุทธ ตามพยานหลักฐานใหม่ตรงกับเคยสั่งคดีไว้ก่อนหน้านี้"นายพชร กล่าว
ทั้งนี้ หากการสอบสวนพบว่า อัยการคนใดมีส่วนร่วมหรือกระทำการช่วยเหลือในคดี ตนไม่เกรงใจเเน่นอน ตนไม่ลังเลที่จะดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย เเม้ตนยังไม่ได้เห็นรายงานชุดกรรมการสอบสวนของนายวิชา มหาคุณ ก็ตามเเต่ทราบว่า มีการอ้างถึงอัยการท่านหนึ่งไปมีส่วนร่วมของการสอบสวนในเรื่องของความเร็วรถใหม่ แม้จะยังไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่ถ้ามีเหตุการณ์แบบนั้นจริงต้องได้รับความกระจ่าง เพราะในเทปมีการพูดชัดว่าเป็นอัยการ ตนต้องถามในที่ประชุม หรือสอบถามไป ยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือผู้ที่เกี่ยวข้องในวันนั้น ว่าพนักงานอัยการคนนั้นคือใคร ไม่เฉพาะการลงโทษทางวินัยเเต่จะส่งให้ ปปช.ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่แต่ไม่ว่าผลสอบจะออกมาเป็นอย่างไรเราก็พร้อมจะชี้แจงต่อสาธารณะชน ให้มั่นใจในองค์กรอัยการของเราอย่างแน่นอน จะต้องให้สำนักงานอัยการสูงสุดชี้เเจงอย่างชัดเจน เเละทำโดยเร็ววัน คิดว่าจะทำได้ในช่วงก่อนการเปลี่ยนรอยต่อของสำนักงานอัยการสูงสุด เพราะคดีขับรถชนไม่ใช่คดีใหญ่โตหรือ ยากอะไรแต่มันเป็นเรื่องของการบิดเบือน ในการนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษเท่านั้นเอง
“ถึงแม้ว่าเรื่องของการใช้ดุลยพินิจจะมีกฎหมาย คุ้มครองว่าใช้โดยอิสระเเต่ต้องอยู่บนพื้นฐาน ของข้อเท็จจริงข้อกฎหมายที่ถูกต้อง ถ้าเอาข้อเท็จจริงที่บิดเบือนมันก็ไม่ใช่การใช้ดุลพินิจแล้วมันไม่ถูกต้อง ในกรณีของคุณเนตรผมเชื่อว่าตอนนี้มีการสอบสวนและสามารถวินิจฉัยได้ส่วนหนึ่ง แต่เมื่อปรากฏว่าได้มีอัยการท่านอื่นไปเกี่ยวข้องด้วยที่ชื่อว่า ช.ช้าง การดำเนินการของคณะกรรมการสอบสวนชุดที่เเล้วที่ท่านอรรถพล ตั้งไว้จะต้องขยายผลไปถึงตรงนั้นให้ได้ไม่มีปัญหาครับ เพราะหากมีการนำฐานะหน้าที่ความ เป็นอัยการ ไปร่วมสมคบคิดกับเขาอย่างน้อยก็เป็นความผิดเรื่องการไม่ดำรงตน ให้เกียรติศักดิ์ของความเป็นข้าราชการอัยการ”นายพชรกล่าว
ประธานก.อ.ยังกล่าวถึงบทลงโทษว่าหากพบว่าเข้าข่ายทุจริตจะต้องสอบวินัยร้ายเเรง จะมีโทษปลดออก ไล่ออก ถ้าเป็นความผิดเเบบวินัยไม่ร้ายเเรงก็ว่ากล่าวตักเตือน งดบำเหน็จ ในสมัยตนเป็นอสส.ก็เคยเอาอัยการออกไปหลายคน เรื่องเเบบนี้มันตรวจสอบได้อยู่เเล้วมันดูเจตนาได้ เเละเราต้องตอบสังคมได้ มันรู้อยู่เเล้วอัยการไม่สามารถที่จะไปสั่งคดีฝืนข้อเท็จจริงได้
ส่วนรายงานฉบับเต็มของ นายวิชา มหาคุณ ที่ตั้งโดยนายกรัฐมนตรีตนก็จะต้องนำมาศึกษา ที่มีเรื่องอัยการเอี่ยวเรื่องเปลี่ยนความเร็ว ฉนั้นวันที่เข้าไปประชุมวันเเรกตนจะเข้าไปถาม เรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องที่คาใจประชาชนอย่างเดียวเป็นเรื่องคาใจผมเหมือนกันว่าทำไมล่าช้า ทั้งที่ไม่มีกระบวนการซับซ้อน
“ในเรื่องของคดีรถชนแม้ว่าจะชนในเวลากลางคืน ด้วยความชำนาญคดีของพนักงานอัยการทั่วไปก็สามารถบอกได้เลยว่าคันไหนถูกหรือคันไหนผิด เพราะบาดแผลของรถยนต์มันจะฟ้องในตัวของมันเอง ใครตัดหน้าหรือไม่ตัดหน้า หรือใครเป็นคนเฉี่ยวใคร เรื่องนี้ตนได้เห็นภาพเบื้องต้นแต่ก็ยังไม่ได้ดูในสำนวน เเต่ความเห็นส่วนตัว ถ้ารถยี่ห้อดีๆ ซึ่งเป็นรถที่มีความเร็วสูง โครงสร้างรถ จะเป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูงเเละมีความเบาถ้าชนเเล้วยุบไปมากก็เเปลว่าใช้ความเร็วสูง โดยเฉพาะเรื่องของเเอร์เเบ็ค เรื่องกระจกรถยนต์ ที่รถพวกนี้จะมีความเซฟตี้สูงอยู่แล้ว ถึงชนไม่แรง แอร์แบคก็จะทำงาน แต่ถ้าชนแรงเเอร์แบคก็จะทำงานหลายตัว หรือความเเข็งเเกร่งกระจกรถยนต์ความเเข็งเเกร่งสูง หากชนไม่เเรงกระจกจะไม่เเตก เเต่ตนก็ไม่เเน่ใจในคดีนี้มีผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์ในเรื่องของลักษณะการชนหรือไม่ เเต่ถ้าจำไม่ผิดจากความรู้ส่วนตัวพวกรถหรูเเบบนี้จะมีเซนเซอร์ที่สามารถบอกความเร็วได้ คล้ายๆกับเคสรถเบนซ์ชน 2 น.ศ.ปริญญาโทที่ประตูน้ำพระอินทร์ เรื่องนั้นมีการพิสูจน์ได้ว่าขณะชนใช้ความเร็วเท่าไหร่เเต่ไม่รู้เรื่องนี้มีหรือเปล่า” ประธาน ก.อ.ระบุตอนท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี